จากกรณี พลตำรวจตรีวิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เจ้าของฉายา มือปราบหูดำ เดินทางมาที่ สน.ดอนเมือง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเพจยูทูบเบอร์ ที่มีการเอารูปไปกล่าวหาให้เสียหาย หลังได้ไปออกรายการโหนกระแส ให้ความเห็นเกี่ยวกับ คดีลุงพล และ น้องชมพู่ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันที่ 9 มกราคม 2567 พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ หรือ ผู้การแต้ม อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เดินทางมาที่ สน.ดอนเมืองอีกครั้ง โดยนำเอกสารหลักฐานการถอดเทปคำด่าของบุคคลที่จะแจ้งความ มายื่นให้กับตำรวจ
ผู้การแต้ม ได้ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้จะมาแจ้งความดำเนินคดี ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณากับ นายธนัน ยูทูบเบอร์ FC ลุงพลป้าแต๋น และแอดมินยูทูบเบอร์ นามปากกา “นางฟ้า” โดยพฤติการณ์ ทั้ง 2 คน มีการพูดต่อว่า “ชั่ว เลว” ผ่านการไลฟ์สดของตัวเอง
ถึงแม้ว่าจะมีการไลฟ์สดขอโทษแล้วก็ตาม และก็รับคำขอโทษ แต่ตนก็ถือว่า การขอโทษนั้นเป็นหลักฐานในกระทำความผิด เพราะถือว่าคนที่หมิ่นประมาทตนนั้นยอมรับการกระทำความผิดนั้น จึงต้องแจ้งความดำเนินคดีให้ศาล เป็นผู้พิจารณาลงโทษตามกฎหมายต่อไป
- สารวัตรคนละครึ่ง ทำฉาววงการตำรวจ ท่วงหนีให้แต่ได้มาต้อง ‘คนละครึ่ง’
- อัจฉริยะแฉแม่แตงโม โต้ด้วยคลิปเสียง แม่ให้ร่างฟ้องข้อหา ‘ข่มขืน’
- สั่งเด้ง! 5 เสือ เซ่นจับผับดังรังสิต เตรียมปิด 5 ปี หลังเด็กกว่าครึ่งพันเข้าร้าน
อีกทั้ง ผู้การแต้ม ยังระบุต่อว่า ที่ผ่านมาตลอดชีวิตข้าราชการตำรวจกว่า 40 ปี ตนเองได้รับรางวัลมากมายทั้งรางวัลต้นแบบตำรวจราชการตำรวจดีเด่นของรัฐบาล การที่มาด่าทอว่าตนเองชั่วนั้น ถือเป็นการกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริง อีกทั้งตนเองเป็นอาจารย์ต้องไปสอนหนังสือเป็นการลดความน่าเชื่อถือ สร้างความเสียหายให้กับตนเองทำให้เรื่องดังกล่าวไม่สามารถยอมความได้จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แม้ว่าหากบุคคลที่ตนเองแจ้งความจะมาขอโทษหรือติดต่อมาเจรจาก็จะไม่ยอมความ จะไม่รับกระเช้าโดยเด็ดขาด แต่จะให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้รับการประสานเข้ามา
และยังบอกอีกว่าที่ผ่านมาที่ ตนเองไปวิเคราะห์คดีที่เกี่ยวข้องกับลุงพลป้าแต๋น ตนวิเคราะห์ตามข้อเท็จจริงภายหลังมีการคำพิพากษาของศาล ไม่ได้เป็นการพูดลอย ๆ หรือวิเคราะห์เอง แต่ต่างจากพฤติกรรมของคู่กรณีที่มากล่าวหาลอย ๆ และการที่ตนเองมาแจ้งความจะไม่กดดันการทำงานของตำรวจจะแจ้งความตามขบวนการปกติ และอยากให้กรณีของตนเป็นตัวอย่างในสังคมให้กับกลุ่มยูทูบเบอร์ที่อยากจะด่าผ่านโซเชียลโดยไม่มีมูล และจะมาขอโทษภายหลังนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ส่วนเงินที่จะเรียกค่าเสียหายนั้น เบื้องต้นยังไม่ได้คิดว่าจะเรียกเท่าไหร่หรือจะเรียกหรือไม่ แต่หากเรียกได้จะนำเงินทั้งหมดไปบริจาคให้ผู้พิการทางสมอง
อย่างไรก็ตาม พลตำรวจตรีวิชัย สังข์ประไพ เคยแจ้งความคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณามาแล้ว 1 คน คือ นายอนุชิต ก่อนหน้านี้ หากรวมครั้งนี้อีก 2 คน จะรวมเป็น 3 คนในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา