เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้าน หลังหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 7 บ้านเกษมสุข ต.ตาเกษ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ หลังได้รับแจ้งว่ามีคนเสียชีวิต และมีคนอาการสาหัส จากการดื่มกาแฟผสมน้ำสมุนไพร เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น.ของวันที่ 1 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา
โดยบ้านหลังดังกล่าว ได้มีการจัดเตรียมสถานที่ เพื่อจัดงานศพ และได้พบกับ นายวรวิทย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ลูกชายของผู้ตาย เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุพ่อกับแม่ได้ต้มน้ำร้อนในกาบนเตาถ่าน เพื่อจะชงกับกาแฟดื่มในช่วงเช้าตามปกติ ซึ่งน้ำในกาที่ต้มจะมีแก่นฝาง ซึ่งเป็นสมุนไพรที่ซื้อมาจากตลาดนัด โดยพ่อกับแม่ของตนจะดื่มแบบนี้เป็นประจำทุกวัน เพราะเชื่อว่าเป็นยาบำรุงและรักษาโรค
หลังจากที่ทั้งพ่อและแม่ดื่มเข้าไปแล้ว ตัวพ่อไปเข้าห้องน้ำเกิดอาการชักเกร็ง ตอนนั้นแม่ของตนพร้อมกับตนได้พยายามช่วยพ่อจนอาการพ่อดีขึ้น พร้อมเรียกคนให้ช่วยและเรียกโรงพยาบาลมาช่วยนำส่งหลังจากพ่ออาการดีขึ้นแล้ว แม่ของตนก็มาล้มหมดสติไปต่อหน้าต่อตา ตนชาวบ้านกับพยาบาลช่วยกันปั๊มหัวใจช่วยชีวิต แต่ก็ยื้อชีวิตไว้ไม่ได้ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
- ช็อก! หนุ่มหาหอย เจอศพปริศนา ลอยคว่ำหน้า อยู่โขดหิน ริมหาดเกาะลอย
- นิวซีแลนด์ ช่วยปชช. ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 23.15 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อชม.
- เปิดข้อมูลโควิด-19 โอมิครอน ‘XEC’ สายพันธุ์ย่อยใหม่ หวั่นระบาดครั้งใหญ่
ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตคือ นางนารี (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ส่วนอีกคนที่เป็นสามีชื่อ นายมงคล (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ซึ่งหมอตรวจพบสารที่ผิดปกติในร่างกายผู้เสียชีวิต และสามี ยังชี้ชัดไม่ได้ว่าเป็นสารอะไร
ด้านนางสมบูรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปีเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้ตายเปิดเผยว่าตนสงสัยว่าทำไม นางนารี (ผู้ตาย) ถึงกินน้ำต้มสมุนไพรกับกาแฟจนเสียชีวิต ส่วนตัวตนก็กินน้ำสมุนไพรตัวเดียวกันเป็นประจำตนจะมาเอายาสมุนไพรกับผู้ตายไปกินตลอด เนื่องจากตนเป็นโรคมะเร็ง เห็นว่าแก่นฝางนี้สามารถรักษาโรคมะเร็งได้ เลยได้มาเอากับผู้ตายไปกินอยู่เป็นประจำ แต่ทำไมตนไม่เป็นอะไรเลยตนเลยสงสัยว่าที่ทางแพทย์ตรวจพบสารอะไรบ้างอย่างนั้น เป็นสารอะไรและสารดังกล่าวมาได้จากที่ไหนทำไมในร่างกายของน้องสาวตนจึงมีสาร