ผัวโต้เมียไม่ดูแลลูก ปล่อยเห็บขึ้นตา รักมาก-ไม่เคยตีสักแอะ ไม่ยอมให้เมียเอาไปเลี้ยง

Home » ผัวโต้เมียไม่ดูแลลูก ปล่อยเห็บขึ้นตา รักมาก-ไม่เคยตีสักแอะ ไม่ยอมให้เมียเอาไปเลี้ยง


ผัวโต้เมียไม่ดูแลลูก ปล่อยเห็บขึ้นตา รักมาก-ไม่เคยตีสักแอะ ไม่ยอมให้เมียเอาไปเลี้ยง

ผัวโต้เมียไม่ดูแลลูก หลังถูกร้องปล่อยเห็บขึ้นตา-เข้าหู ยันรักมาก-ไม่เคยตีสักแอะ ไม่ยอมให้เมียเอาไปเลี้ยง พม.ลงพื้นที่รับตัวเด็กไปรักษาแล้ว

กรณีเฟซบุ๊ก มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี โพสต์เรื่องหญิงสาวรายหนึ่ง ร้องเรียนกับทางมูลนิธิฯ อ้างว่าอดีตสามีไม่ดูแลลูกสาววัย 4 ขวบ ปล่อยเห็บเข้าหูลึกถึงหูชั้นในและกัดรอบดวงตาเด็ก ไม่พาไปรักษา ขณะที่แม่พยายามขอรับลูกมาเลี้ยงหลายครั้งแม้ ปลัด อบต. และผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเจรจา แต่พ่อก็ไม่ยอม หวั่นลูกสาวจะเป็นอันตราย เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ นครราชสีมา รับเด็กเข้าคุ้มครองสวัสดิภาพทันที พาไปรักษา แพทย์ตรวจพบว่า เด็กถูกเห็บกัดบริเวณดวงตาและมีเห็บเข้าไปที่หูจนลึกถึงชั้นแก้วหู ต้องใช้เวลารักษาและดูแลเรื่องความสะอาดอย่างต่อเนื่อง อ่านข่าว แม่สุดทน ร้องปวีณา พ่อไม่ดูแลลูก ปล่อยเห็บเกาะตา เข้าหู ขอมาเลี้ยงก็ไม่ยอม

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 17 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านของนายเอ้ พ่อของเด็กที่ต.ลำเพียก อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งสภาพของที่อยู่อาศัยเป็นลักษณะเพิงสังกะสี โดยอาศัยกันอยู่ 3 คน คือนายเอ้ อายุ 30 ปี แม่ของนายเอ้ อายุ 57 ปี และน้องป๊อก (นามสมมติ) ลูกวัย 4 ขวบ ซึ่งนายเอ้และแม่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป

หากช่วงไหนไม่มีงานก็จะเข้าป่าเพื่อหาของป่ามาขาย โดยความสัมพันธ์ระหว่างนายเอ้และอดีตภรรยานั้น ทั้งคู่เคยอาศัยอยู่กินด้วยกัน ก่อนที่ทางภรรยาจะแยกทางกันไป ตอนคลอดน้องป๊อกไม่นาน ก่อนที่ทางภรรยาจะมีครอบครัวใหม่ และมีลูกอีก 1 คน

แม่ของนายเอ้ ชี้แจงกรณีที่มีเห็บเกาะอยู่ตามร่างกายของน้องป๊อกว่า เห็บที่เห็นเกาะอยู่ที่บริเวณขอบตา ภายในหูนั้นน่าจะเป็นเห็บที่ติดมาจากภายในป่า ในขณะที่ตนนั้นออกไปหาเห็ดและไม้แห้งมาทำถ่านขาย โดยตนนั้นนำน้องป๊อกไปด้วย เพราะที่บ้านไม่มีใครดูแล ออกไปทำงานกันหมด โดยเห็บที่เห็นนั้นจะมีในช่วงฤดูกาลเก็บเห็ด ซึ่งตนนั้นก็เคยโดนกัดเช่นกัน

ส่วนกรณีแม่ของน้องป๊อกจะมาเอาหลานของตนไปอยู่ด้วยนั้น ตนไม่อยากให้แม่ของน้องป๊อกเอาไป เพราะเป็นห่วงว่าจะเข้ากับทางพ่อเลี้ยงไม่ได้ อีกทั้งพ่อเลี้ยงอายุ น้อยกว่าลูกชายตน กลัวจะไม่มีวุฒิภาวะเลี้ยงดู ซึ่งแม้ว่าทางแม่ของน้องป๊อกอยากรับลูกไปเลี้ยง แต่ตนเกรงว่าทางครอบครัวของพ่อเลี้ยงจะไม่ยอมรับน้องป๊อก กลัวจะมีปัญหา ซึ่งตนอยากดูแลและเลี้ยงดูน้องป๊อกต่อ โดยหลังจากนี้ตนรับปากว่าจะดูแลน้องป๊อกให้ดีกว่านี้

ด้าน นายเอ้ กล่าวว่า จากการกล่าวอ้างของทางอดีตภรรยาของตน ที่บอกว่าตนนั้นกินแต่เหล้าไม่ทำงานไม่ดูแลลูกนั้น ไม่เป็นความจริง ซึ่งตนยอมรับว่า เมื่อก่อนตนกินเหล้าตั้งแต่เลิกกับอดีตภรรยานั้น ตนก็ไม่ได้กินเหล้าอีกเลย ซึ่งพอทราบเรื่องที่ทางอดีตภรรยาไปร้องกับทางมูลนิธิฯ เพื่อจะเอาลูกสาวไปเลี้ยงนั้น ตนรู้สึกเสียใจ เพราะไม่อยากให้ทางอดีตภรรยานำลูกสาวของตนไป เพราะตั้งแต่เลิกรากับตนไปนั้น ทำไมไม่มาติดต่อเพื่อขอรับไปเลี้ยง

อีกทั้งยังไม่มีการติดต่อใดๆกลับมาเลย รวมถึงไม่ส่งเสียค่าเลี้ยงดูตลอดระยะเวลา 3-4 ปี ที่ผ่านมา ที่อ้างว่า ตนนั้นชอบกินเหล้าเมาแล้ว ตีน้องป๊อกนั้นไม่เป็นความจริงเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนเลี้ยงอย่างดี สุดความสามารถ และไม่เคยตีลูกเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ขณะที่ นางสไว อายุ 65 ปี เพื่อนบ้าน ระบุว่า ตนไม่เคยเห็นนายเอ้ตีลูกเลยสักครั้งเดียว โดยที่นายเอ้นั้นเป็นคนรักลูก แม้กระทั่งเวลานอน นายเอ้ก็เอาลูกไปนอนอยู่ด้วยกัน นอกจากนี้ นายเอ้นั้นยังเป็นคนขยัน โดยทำงานหารับจ้างทั่วไป ถ้าวันไหนไม่มีงานก็จะออกหาของป่า จับกุ้งหอย ปู ปลา มากินมาขาย ซึ่งตนก็ยังยืนยันว่านายเอ้นั้นรักลูกมาก

อย่างไรก็ตาม หลังจากทางมูลนิธิมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นครราชสีมา ให้ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือดูแลน้องป๊อก ซึ่งขณะนี้นำตัวน้องป๊อกเข้ามารักษา ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

ส่วนในเรื่องสิทธิ์ในการเลี้ยงดูนั้น ทางเจ้าหน้าที่กำลังประเมินครอบครัวของทางสามีใหม่ เพราะเนื่องจากมีลูกด้วยกันอีก 1 คน ซึ่งทางมูลนิธิฯเองรวมถึงหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาจะติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ