ผัวเปิดใจไม่เจ็บแค้น หลังเมียหอบเงินรางวัลที่ 1 หนี ลูกเผยเหตุระเบิดอารมณ์กลางรายการ เพราะแม่พูดเหมือนไม่มีเยื่อใย ทนายชี้แนวทางเอาเงินคืน
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 18 พ.ย.65 นายมะนิช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี พร้อม นายณัฐพล อายุ 24 ปี ลูกชายคนโต เปิดเผยถึงกรณีที่ถูก นางอังคนารัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ภรรยาและแม่ตัวเอง หอบเงินลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 พ.ย.65 จำนวน 6 ล้านบาท หนีตามผู้ชายไป อ่านข่าว โคตรพ่อพระ กรรชัย ช็อกโทรตามเมีย หนุ่มรางวัลที่1หอบเงินกับชู้ อึ้งผัวอีกคนโผล่
นายมะนิช เผยว่า จากการพูดคุยกับอดีตภรรยาแล้ว ก็จะปล่อยเขาไปก่อน ตนก็เลี้ยงดูลูกต่อและทำงานก่อสร้างเหมือนเดิม มองว่าเขาอาจจะหลงระเริงอยู่กับผู้ชายคนอื่น เชื่อว่าน่าจะถูกกล่อม แต่ปกติเขาไม่ได้เชื่อคนง่ายๆ ส่วนที่เขาบอกว่าสลากฯ เป็นชื่อเขา และตนก็ไม่ใช่แฟนนั้น ก็ถือเป็นสิทธิ์ของเขา ตอนนี้คิดว่าจะไม่แจ้งความแล้วเพราะสงสาร สำหรับเงิน 3 ล้านบาทที่ยังอยู่ในบัญชีนั้น อดีตภรรยาบอกว่าจะแบ่งมาให้ลูกๆ คนกลาง 5 แสนบาท คนโตล้านนึง แต่ไม่ได้ระบุว่าเมื่อใด อีก 3 วันตนจะโทรศัพท์ไปหา หากไม่โอนเงินมาให้ลูกก็คาดว่าจะเดินหน้าเอาผิดต่อไป
นายมะนิช กล่าวต่อว่า ตอนนี้ไม่ทราบว่าอดีตภรรยาไปอยู่กับผู้ชายที่ไหน แต่ก่อนเข้ารายการเมื่อครู่เขาก็ติดต่อเข้ามาเอง ที่ผ่านมาอยู่กินกันมา 26 ปี ไม่เคยมีปัญหา ไม่เคยมีท่าทีจะนอกใจ ตอนถูกรางวัลก็ปกติดี ซ้ำยังดีใจกับตนด้วย ทุกครั้งที่ถูกรางวัลเลขท้ายก็จะให้เขาไปขึ้นเงินเอง ได้เงินมาก็ให้เขาเก็บ เพราะเขาเป็นคนใช้จ่ายในครอบครัว หากภรรยาคิดจะกลับมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันต่อก็ยังโอเค ทุกคนผิดพลาดได้ ตนไม่คิดโกรธ
ด้าน นายณัฐพล กล่าวว่า พ่อตนเป็นคนซื่อๆ ไม่ค่อยยุ่งกับครอบครัว โดยตนเป็นคนนำเรื่องนี้มาเปิดเผย หลังพี่สาวโทรมาบอกว่าเงินหายไปจากบัญชีจำนวนมาก ซึ่งตนไม่ทราบว่าผู้ชายที่แม่หนีไปด้วยนั้นเป็นใคร และที่ทราบว่ามีเรื่องผู้ชายมายุ่งเกี่ยวก็เพราะเรื่องเงิน ที่ผ่านมาแม่ไม่เคยมีพฤติกรรมอะไรผิดสังเกต แต่คิดว่าคุยกับเพื่อนตามปกติ เพราะตนทำงาน ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ของพ่อกับแม่ ก็แล้วแต่พ่อจะตัดสินใจ
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ตนระเบิดอารมณ์ไปในรายการ ก็เพราะแม่พูดเหมือนไม่เหลือเยื่อใยกับครอบครัวแล้ว อยากรู้ว่าทำไมแม่ไม่เอาเงินมาแบ่งให้คนในครอบครัวแล้วเอาไปใช้คนเดียว สำหรับเรื่องเงินส่วนแบ่งที่ให้น้องๆ มากกว่านั้นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะตัวเองมีงานทำแล้ว
ทางด้าน นายมนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือทนายแก้ว เผยว่า การแจ้งความครั้งนี้ คือกรณีการยักยอกทรัพย์ที่ภรรยาซึ่งถือลอตเตอรี่แทน นายมะนิช ไปเปิดบัญชีขึ้นเงินแทนและถอนเงินออกไป ทั้งนี้เพราะ นายมะนิช ไม่มีสมุดบัญชี จึงให้ภรรยาเปิดไว้ หวังให้โอนเงินกลับมา ซึ่งแม้ว่ามีชื่อภรรยาอยู่หลังลอตเตอรี่ แต่ก็ยังมีลูกชายเป็นประจักษ์พยาน และสามารถนำสืบทางคดีได้ หรือต่อให้ภรรยาเขาจะไปจดทะเบียนกับผู้ชายที่หนีตามไปก็ไม่ใช่ปัญหา อย่างไรก็ตาม คดียักยอกทรัพย์สามารถยอมความกันได้ ขึ้นอยู่กับตัวสามีว่าจะดำเนินการอย่างไร