ผัวปัดบังคับเมียนอนกับชายอื่น ขัดดอกค่ายาบ้า เผยเมียชอบเซ็กซ์หมู่ ติดต่อชายในแอพหาคู่ร่วมหลับนอน ยอมให้ถ่ายคลิป เมียโต้ผัวใส่ร้าย ขอต่อสู้ถึงที่สุด

กรณี นางเอ (นามสมมติ) อายุ 31 ปี แจ้งความกับตร.สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ให้ดำเนินคดีกับนายเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 27 ปี สามี โดยกล่าวหาว่า บังคับให้ไปหลับนอนกับชายคนอื่น ที่ไม่รู้จัก 2 ครั้ง ทั้งยังแอบถ่ายคลิป ข่มขู่ หากไม่ยอมทำตามจะนำคลิปไปโพสต์โซเชียลประจาน ต่อมาวันที่ 16 พ.ค. ตร.จับกุมนายเอ็ม ผู้ต้องหา ขณะไปรับจ้างปลูกมันอยู่กับแม่ที่ อ.วังสะพุง จ.เลย แต่นายเอ็ม ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้บังคับภรรยาให้หลับนอนกับชายอื่น อ้างว่าสมยอมเอง เพราะเป็นคนชอบมีเซ็กซ์หมู่ และยอมให้ถ่ายคลิปเอง ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 17 พ.ค.66 ตำรวจชุดจับกุมนำตัวนายเอ็ม ผู้ต้องหา มาที่ สภ.นางรอง ท้องที่เกิดเหตุ พบว่าผู้ต้องหามีอาการเครียด โดย พ.ต.อ.กัมพล วงษ์สงวน ผู้กำกับการ สภ.นางรอง สอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตัวเอง

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การว่า ตน ภรรยา และชายอีกคนมีเพศสัมพันธ์กันในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง และถ่ายคลิปจริง เหตุการณ์เกิดขึ้นเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ไม่ได้เป็นการบังคับขู่เข็ญภรรยา เป็นการยินยอมมีเพศสัมพันธ์กับแบบ 3 คน

โดยอ้างว่าตนกับภรรยาพูดคุยปรึกษากันก่อนจะออกไปหาผู้ชายคนอีกคน สาเหตุที่ยอมมีอะไรกับแบบ 3 คน เพราะภรรยาชอบ แต่ตนต้องไปด้วยและจะต้องเป็นคนหาผู้ชายเอง ด้วยการติดต่อผ่านแอพหาคู่ แต่มีเงื่อนไขว่า ห้ามพูดคุยถามชื่อหรือขอเบอร์ ไลน์ หรือเฟซบุ๊กกันเสร็จก็จบแค่นั้น

ยอมรับว่าทำแบบนี้ 2 ครั้งกับผู้ชายคนเดิม ที่ติดต่อผ่านแอพหาคู่ ทั้งยังอ้างว่าภรรยา อยากได้ผู้ชาย 5 คนด้วยซ้ำ แต่ตนไม่ยอมหาให้ตามที่ภรรยาขอ แต่ยืนยันว่าไม่ได้บังคับเมียให้หลับนอนกับผู้ชาย เพื่อขัดดอกค่ายาเสพติดหรือติดหนี้ ตามที่ภรรยากล่าวหา

• เมียสุดทน! ผัววัย 27 บังคับนอนกับชายอื่น ถ่ายคลิป ขัดดอกค่ายาบ้า

ส่วนคลิปยอมรับว่าถ่ายไว้จริง โดยภรรยาก็ยินยอมให้ถ่าย เพื่อเก็บไว้ดู ไม่ได้ให้ใครดู เอาไปขายหรือโพสต์โซเชียล ซึ่งภรรยาก็รับรู้ และก็ถ่ายคลิปไว้เหมือนกัน แต่ไม่เคยนำคลิปไปขู่ภรรยา มีแต่ภรรยาที่ขู่จะแจ้งความจับตัวเอง และพยายามจะเลิกกับตัวเองมากกว่า ส่วนตัวยืนยันว่ายังรักและอยากจะใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาเหมือนเดิม ไม่ได้โกรธที่ภรรยามาแจ้งความเอาผิด

ผู้กำกับการ สภ.นางรอง ระบุว่า จากที่ผู้ต้องหาให้ข้อมูลก็เป็นคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา แต่ตำรวจไม่ได้ปักใจเชื่อทั้งหมด ซึ่งทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นไม่สามารถอยู่ในภาวะขัดขืนได้ โดยบันทึกภาพหรือเสียง การกระทำชำเราหรือการกระทำอนาจารนั้นไว้ เพื่อแสวงประโยชน์โดยมิชอบต่อตนเองหรือผู้อื่น และร่วมกันพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้กลอุบายหลอกลวง ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจผิดครองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจวิธีอื่นใด”

พร้อมคัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากผู้ต้องหาและผู้เสียหาย เป็นสามีภรรยากัน จึงเกรงจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และอาจเกิดปัญหารุนแรงขึ้นแรง และหลังจากพนักงานสอบสวน สอบปากคำเสร็จ ก็จะนำตัวไปฝากขังศาลจังหวัดนางรองในวันพรุ่งนี้

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามนางเอ ก็บอกว่า รู้สึกเสียใจที่สามีไม่ยอมรับความจริง ทั้งยังกล่าวอ้างให้ตนเสื่อมเสียอีก พร้อมยืนยันว่าตนเป็นฝ่ายถูกกระทำและจะต่อสู้จนถึงที่สุด และยืนยันว่าจะไม่กลับไปใช้ชีวิตอยู่กับสามีอีก เพราะรับไม่ได้กับการกระทำ