ผอ. ยอมรับนัดแซ่บพยาบาลสาว 4 ครั้ง ฝ่ายหญิงร้องขอแบบซาดิสม์เอง แถมบอกว่าเลิกสามีแล้ว
จากกรณีที่มีหนุ่มมาร้อง กัน จอมพลัง ให้ช่วยเหลือ เนื่องจากเมียติดเซ็กซ์ซาดิสท์ของ ผอ.โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยเมื่อวานได้มีการยื่นเรื่องให้ นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุขรับทราบ และมีคำสั่งย้าย ผอ.คนดังกล่าวแล้ว
ล่าสุดวันนี้ (21 มิ.ย.) นายกองตรี ธนกฤต ได้มีการนัดหมาย ผอ.รพ.สต. คนดังกล่าว ได้เดินทางมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. นายกองตรี ธนกฤต ได้เปิดเผยความคืบหน้าว่า เมื่อวานมีคำสั่งให้ ผอ.รพ.สต. ไปช่วยงานที่สาธารณสุขจังหวัด วันนี้ก็มาตามนัดเพื่อชี้แจงเพิ่มเติมถึงเรื่องราวดังกล่าว และได้เห็นหลักฐานที่ทาง ผอ. ให้ดู เป็นแชทสนทนาระหว่าง ผอ. กับพยาบาล เริ่มต้นแชทคุยกันเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 66 ซึ่งรู้จักกันที่งานสัมมนา มีการถ่ายภาพ และแลกไลน์กัน หลังจากนั้นก็มีการทักคุยกันเป็นปกติ ไม่ได้คุยถึงเรื่องความสัมพันธ์ใดๆ ส่วนใหญ่คุยกันเรื่องทำบุญ
ส่วนเรื่องความสัมพันธ์เกิดขึ้นเมื่อเดือน พ.ค. 67 โดยทาง ผอ. เล่าว่า มีความสัมพันธ์กันทั้งหมด 4 ครั้ง ถามว่ารู้หรือไม่ว่าฝ่ายหญิงมีครอบครัว ทาง ผอ.บอกว่า ฝ่ายญิงบอกว่าเคยมีครอบครัว แต่ปัจจุบันเลิกรากันไปแล้ว และความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นเป็นรสนิยมอย่างหนึ่ง ความสัมพันธ์รุนแรงแบบนี้เกิดขึ้นเพียง 2 ใน 4 ครั้ง และตลอดเวลาที่ผ่านมา ทาง ผอ.พยายามขอไปบ้านฝ่ายหญิง แต่โดนปฏิเสธตลอด จึงไม่รู้ว่ามีสามีอยู่ที่บ้าน
ซึ่งความสัมพันธ์ครั้งนี้ที่เกิดขึ้น เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ผูกมัด ส่วนความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นการร้องขอจากฝ่ายหญิงเอง ซึ่งเป็นความชอบส่วนตัว โดยวันนี้ ทาง ผอ.ก็ได้นำเอกสารลับมายื่นให้ทางนายกองตรีธนกฤต เป็นเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริง และจะส่งให้ทางปลัดกระทรวงสาธารณสุขทราบต่อไป
เบื้องต้น จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของ ผอ. ไม่มีภาพลามกอนาจาร และจากแชทมีความสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายวันที่ 17 มิถุนายน ก่อนที่สามีของฝ่ายหญิงจะมาร้องขอความช่วยเหลือจาก กัน จอมพลัง
ทั้งนี้ จะต้องเชิญทางฝ่ายหญิงมาให้ข้อมูลด้วย โดยประสานให้ทาง ผอ.คนดังกล่าวไปแจ้ง และฝ่ายหญิงเองก็ฝากขอโทษทาง ผอ. ที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย วันนี้หลังจากที่มีการตอบถามข้อมูลทาง ผอ. เสร็จ ก็ได้ให้ไปเตรียมข้อมูลเพิ่มเติม และให้นัดหมายกับทางฝ่ายหญิงเพื่อมายื่นข้อมูลอีกครั้ง ยืนยันเรื่องดังกล่าวไม่ได้มีผลกระทบกับงานเพราะไม่ได้ใช้เวลางานในการกระทำ ส่วนเรื่องการตั้งคณะกรรมการ ตั้งขึ้นเพื่อดูเรื่องความเหมาะสม และเข้าข่ายความผิดข้าราชการหรือไม่ เพราะ ผอ. มีตำแหน่งเป็นผู้บริหาร