ผวา หนุ่มเมากร่าง อ้างเป็นพลตรี มาพร้อมกับลูกน้อง สั่งวัยรุ่นวิดพื้นในร้านอาหาร ขู่เอาชีวิต ฉุนไม่ทำความเคารพ ผู้เสียหายโร่แจ้งความ
วันที่ 4 พ.ย.2565 จากเหตุการณ์ที่ลูกค้ากลุ่มหนึ่งประมาณ 10 คนไปนั่งรับประทานอาหารกันที่ร้านอาหารและเครื่อวดื่ม ใต้ทางด่วนงามวงศ์วาน ถนนสามัคคี ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อคืนวันที่ 2 ธ.ค.2565 ก่อนจะมีลูกค้าเป็นชายวัยกลางคน อ้างตัวว่าเป็นทหารยศพลตรีพร้อมลูกน้องคนติดตาม เมาสุราเข้ามาหาเรื่องกลุ่มวัยรุ่นที่นั่งทานอาหารอยู่ในร้านด้วยการชี้นิ้วสั่งให้คนในโต๊ะวิดพื้น เพราะไม่ทำความเคารพ แต่กลุ่มวัยรุ่นไม่ยอมทำตามคำสั่งจนเกิดการโต้เถียงกันขึ้น
ชายที่อ้างตัวเป็นนายทหาร เข้ามาตบหัวผู้เสียหายชายคนหนึ่งในโต๊ะและเข้ามาล็อกคอเพื่อจะพาออกไปเคลียร์นอกร้านจนทำให้สร้อยคอทองคำขาด เจ้าของร้านและพนักงานร้านที่เห็นเหตุการณ์เข้าห้าม แต่ถูกลูกน้องของชายคนดังกล่าวจะพากลับออกจากร้านไป และชายคนดังกล่าวยังขู่เอาชีวิตไว้ด้วย หลังเกิดเหตุกลุ่มผู้เสียหายได้โทรแจ้งตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ มาช่วยระงับเหตุเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ก่อนเดินทางเข้าแจ้งความช่วงเวลาตี 3 ของวันที่ 3 ธ.ค.2565
ความคืบหน้าคดีดังกล่าว เมื่อเวลา 12.30 น. น.ส.แพท อายุ 33 ปี และนายเอก อายุ 33 ปี สองในกลุ่มผู้เสียหาย ได้เดินทางมาชี้จุดที่เกิดเหตุในร้านให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เพื่อเร่งติดตามตัวชายผู้ก่อเหตุคนดังกล่าวแล้ว
น.ส.แพท หนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกข่มขู่ เปิดเผยว่า ในคืนวันที่เกิดเหตุตนกับเพื่อน ๆ ประมาณ 10 คน ได้นัดสังสรรค์มากินข้าวดื่มกินกันที่ร้านแห่งนี้ เนื่องจากตนชอบบรรยายกาศและมานั่งที่ร้านนี้เป็นประจำประกอบกับมีเพื่อนเป็นนักดนตรีมาเล่นที่ร้านนี้ด้วย โดยในระหว่างที่นั่งดื่มกินจนกระทั่งร้านปิดแล้ว ก็ถูกชายวัยกลางคนสวมเสื้อคอปกสีแดงสวมหมวก ลักษณะเหมือนมึนเมาสุรา เดินตรงเข้ามาหาเรื่องเพื่อนผู้ชายในโต๊ะ ด้วยการออกคำสั่งให้เพื่อนชายของตนลุกจากเก้าอี้ออกมาวิดพื้นในร้าน
ทำให้ตนกับเพื่อนผู้หญิงในกลุ่ม รู้สึกไม่พอใจเห็นว่าชายคนดังกล่าวมีสิทธิ์อะไรมาออกคำสั่งให้คนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนวิดพื้นในร้านอาหารแบบนี้ จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้น ทำให้ชายคนดังกล่าวไม่พอใจพยายามเดินเข้ามาหาเรื่องเพื่อนชายในโต๊ะ พร้อมกับอ้างตัวเป็นว่านายทหารทหารยศพลตรี ก่อนจะปรี่เข้าไปตบหน้าเพื่อนชายของตน 1 ครั้งและพยายามจะล็อกคอเพื่อนชายของตนออกไปนอกร้าน โดยมีลูกน้องคนติดตามของเขากับทางเจ้าของร้านพยายามช่วยห้ามแต่ไม่เป็นผล
โดยชายคนดังกล่าวยังคงพยายามเดินเข้ามาหาเรื่องคนในกลุ่มเป็นระยะ พร้อมกับพูดจาข่มขู่ให้พวกตนระวังตัวเอาไว้ ” ถ้ากูเจอพวกมึงที่ร้านนี้อีกที พวกมึงตาย ” ซึ่งหลังเกิดเหตุพวกตนจึงได้โทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยเหลือเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ก่อนที่ชายคนดังกล่าวกับลูกน้องจะเดินทางกลับขึ้นรถไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้พวกตนเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าวในทันที เพราะมีสร้อยคอทองคำของเพื่อนขาด
ถูกตบหน้ากับล็อกคอ และสายคล้องแมสยังยาดคอเพื่อนตนด้วยคนหนึ่ง และยังถูกขู่เอาชีวิตไว้ถึงได้นำคลิปที่ถ่ายกับกล้องวงจรปิดของร้านร้องเรียนไปยังเพจข่าวแห่งหนึ่งเพื่อให้ช่วยเหลือ เพราะกังวลใจว่าหากชายคนดังกล่าวเป็นนายทหารมียศตามที่กล่าวอ้างจริง ก็จะมีอาวุธพกติดตัว พวกตนเป็นแค่ประชาชนธรรมดาไม่มีอาวุธพกพา จึงกลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายตามมา
ทางด้านนายเอก เปิดเผยว่า ลักษณะของชายคนดังกล่าวเหมือนคนเมาสุราตรงเข้ามาหาเรื่องเพื่อนของตนที่โต๊ะโดยเดินตรงมาเข้ามาพยายามจะกระชากคอเพื่อนตน ตนจึงได้ยกแขนกันเอาไว้ จึงถูกผลักและโต้เถียงกันขึ้น ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะพูดข่มขู่มาว่า ” เดี๋ยวพวกมึงก็รู้จักว่ากูเป็นใคร ” ทั้ง ๆ ที่พวกตนก็ไม่รู้จักชายคนนี้มาก่อน และไม่มีใครในโต๊ะเป็นทหารแม้แต่คนเดียว
เคยแต่ได้ยินมาจากเพื่อนที่เคยเป็นอดีตหุ้นส่วนร้านอาหารแห่งนี้ว่า ชายคนนี้มักจะมาดื่มกินที่ร้านแห่งนี้เป็นประจำพร้อมกับลูกน้องคนติดตาม และมักจะชอบหาเรื่องกับลูกค้าโต๊ะไปทั่ว โดยอ้างตัวเป็นนายทหารยศพลตรี จนกระทั่งตนกับกลุ่มเพื่อนมาเจอกับตัวเอง
ในเวลาต่อมาทางผู้เสียหายทั้งสองหายได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีเนื่องจากมีภาพจากกล้องโทรศัพท์มือถือที่ถ่ายในช่วงเหตุการณ์ที่เห็นหน้าตาและพฤติกรรมของชายคนดังกล่าวได้ชัดเจนด้วย
พ.ต.อ.เมษนนท์ เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นหลังได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายแล้ว ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณจุดเกิดเหตุแล้ว โดยพบทะเบียนรถเก๋งที่ชายคนดังกล่าวกับผู้ติดตามขึ้นรถกลับไปหลังเกิดเหตุแล้ว กำลังอยู่ในระหว่างการติดตามตัวมาทำการสอบสวนต่อไป