ชาวบ้านผวา พบรถจยย.ปริศนาจอดขวางถนนช่วงตี 5 ครึ่ง แถมมีเสื้อผ้าถูกทิ้งไว้เกลื่อนถนน ล่าสุด เจอตัวเจ้าของรถแล้ว

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Dumrong Thongsonthi ได้โพสต์คลิปวิดีโอเป็นภาพจากกล้องหน้ารถ เผยเหตุการณ์เจอรถจักรยานยนต์ปริศนาจอดอยู่กลางถนน แต่ไม่พบเจ้าของรถ พบเพียงเสื้อผ้าวางเรียงอยู่บนถนนเป็นระยะๆ

พร้อมระบุข้อความว่า “ถ้าเป็นคุณ คุณจะจอดดูไหม ส่วนเราไม่จอด เพราะทุกวันนี้มิจฉาชีพมีทุกรูปแบบ จอดรถแบบขวางถนน ขับไปอีกเจอเสื้อผ้าถอดทิ้งไว้ เส้นทางบ้านเกาะ – โคกโปรง ช่วงเวลาตี 5 ครึ่ง ระวังกันด้วยนะคร้าบ ถ้าจอดไม่รู้จะเกิดอะไร”

หลังจากนั้นโพสต์ดังกล่าวถูกโพสต์ออกไป ปรากฏว่ามีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่บอกว่าน่ากลัว และไม่กล้าที่จะจอดรถดู ใจก็อยากช่วย แต่ถ้าเกิดเหตุร้ายขึ้นมาไหนจะครอบครัวเราอีก

ล่าสุด วันนี้ (5 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายดำรง ทองสนธิ เจ้าของโพสต์ เล่าว่า เมื่อเช้ามืด ตนและแฟนได้ขับรถเพื่อนำสินค้าไปขายที่ตลาดนัด โดยใช้เส้นทางบ้านเกาะ-โคกโปรง ต.โคกโปรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นทางค่อนข้างเปลี่ยว ไม่มีไฟส่องสว่างข้างทาง

ระหว่างทางสังเกตเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์ จอดขวางถนนอยู่ แต่เมื่อมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นคน และเมื่อขับต่อไป ยังมีเสื้อผ้าวางทิ้งไว้เป็นระยะๆ อีก ยิ่งทำให้ตนรู้สึกไม่ดี ซึ่งไม่รู้ว่าคนที่ทำมีจุดประสงค์อะไรกันแน่

จะจอดรถเดินดูรอบๆ ก็กลัวว่าจะเกิดเหตุร้าย เพราะแถวนั้นไม่มีบ้านคนเลย จึงรีบขับรถออกไปตั้งขายของที่ตลาด จากนั้นจึงได้นำคลิปดังกล่าว มาโพสต์เตือนภัย ให้คนที่ใช้เส้นทางดังกล่าวได้ระวังตัว

ด้าน พ.ต.อ.ปราโมทย์ สุขนาคกิจ ผกก.สภ.วิเชียรบุรี อ.วิเชียรบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ปริญญา ภารไสว รอง.ผกก.ป.สภ.วิเชียรบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว

จากนั้น พ.ต.ท.ปริญญา จึงได้ประสานไปยัง นายประสิทธิ์ ชะนวนน้อย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4, นายสมควร พั่วทัด สมาชิก อบต.โคกโปรง และ ร.ต.ท.รวิภาส มากชุมแสง สายตรวจ ต.โคกปรง ลงพื้นที่ตรวจสอบ และพบว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นของ นายวาทิศ อายุ 26 ปี

จากการสอบถาม นายวาทิศ ทราบว่า เมื่อคืนที่ผ่านนายวาทิศได้ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาหาเพื่อนที่ อ.บึงสามพัน และระหว่างเดินทางที่กำลังขี่รถกลับบ้านยางรถจักรยานยนต์เกิดแตก

ซึ่งไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้ถอดเสื้อผ้าที่ใส่มาวางไว้ที่ถนน เพื่อไม่ให้รถคันอื่นมาชนรถของตน จากนั้นก็เดินลงไปที่เถียงนาแถวๆ นั้น เพื่อขอความช่วยเหลือ ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร และขอโทษที่ทำให้เกิดการเข้าใจผิด