ผวาเงินปริศนาเข้าบัญชี หลังจากนั้นมีคนโทรขู่ฆ่า อ้างเป็นเจ้าของเงิน ตามคุกคามยันญาติ หาว่ายื่นกู้ โร่แจ้งความ วอนล่าตัว
วันที่ 4 ส.ค. 65 นางการะเกต กับแก้ว อายุ 51 ปี ชาวบ้านใน ต.สนวน อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ออกมาขอความช่วยเหลือ หลังมีแก๊งมิจฉาชีพโทรศัพท์มาทวงเงินกล่าวหาว่าไปกู้เงินออนไลน์ บังคับให้จ่ายคืนทั้งต้นและดอกเบี้ยรวมกว่า 1 หมื่นบาท ทั้งที่ไม่ได้สมัครหรือยื่นกู้ใด แต่มียอดเงินปริศนาเด้งเข้ามาในบัญชีธนาคารครั้งละ 1,800 บาท จำนวน 3 ครั้ง ภายในวันเดียว รวมเป็นยอดเงิน 5,400 บาท ไม่เคยถอนไปใช้แม้แต่บาทเดียว
นางการะเกต กล่าวว่า วันที่ 26 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา ขณะนั่งเย็บผ้าอยู่ที่บ้านมีข้อความแจ้งเตือนในมือถือ พอเปิดดูพบว่าเป็นแอพธนาคารแจ้งว่ามียอดเงินโอนเข้าบัญชี ธกส.ไล่เลี่ยกันจำนวน 3 ยอด คือเวลา 10.26 น. จำนวน 2 ยอดครั้งละ 1,800 บาท และเวลา 10.39 น. อีก 1 ยอด 1,800 บาท รวมเป็นเงิน 5,400 บาท ก็แปลกใจว่าเป็นเงินอะไรโอนมาจากไหน จึงปรึกษาเพื่อนบ้าน เขาก็แนะนำให้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งตนก็ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ห้วยราชการ ในวันที่ 26 ก.ค.ทันที เพื่อยืนยันว่าไม่รู้ที่ไปที่มาของเงินและไม่ได้ยื่นกู้อะไร ทั้งไปสอบถามธนาคารให้ช่วยตรวจสอบว่าเงินที่โอนมาจากที่ไหน
จากการตรวจสอบพบเงินที่โอนมา 3 ยอด ๆ ละ 1,800 บาท ต้นทางเป็นชื่อผู้ชาย 2 บัญชี อีก 1 บัญชี เป็นชื่อผู้หญิง ซึ่งตนก็ไม่ได้ยุ่งกับยอดเงินปริศนาที่โอนมาเลยยังอยู่ในบัญชีครบทุกบาท แต่แก๊งมิจฉาชีพก็ยังโทรมาทวงและข่มขู่ทั้งตัวเองและคนรู้จักทุกวัน จนรู้สึกเครียดและกลัว เพราะไม่รู้ว่าแก๊งมิจฉาชีพรู้ข้อมูลส่วนตัวและเบอร์โทรทั้งของตนและคนที่รู้จักได้ยังไง ตอนนี้กลัวมากเพราะที่บ้านมีทั้งแม่ที่แก่ชรา พี่สาวพิการ อยู่บ้าน ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวมาดำเนินคดี
ด้าน น.ส.ประกอบ การรัมย์ อายุ 59 ปี พี่สาวซึ่งพิการ พูดทั้งน้ำตาว่า สงสารน้องสาวที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพทวงเงินทั้งที่ไม่ได้ไปกู้ยืมอะไร ส่วนตัวเองซึ่งพิการเคลื่อนไหวไปมาลำบาก ก็กลัวจะถูกแก๊งมิจฉาชีพบุกเข้ามาทำร้ายถึงในบ้านตามที่เขาข่มขู่เอาไว้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมตัวมาดำเนินคดีด้วย
ขณะที่ น.ส.ดุษฎี โกติรัมย์ อายุ 39 ปี หนึ่งในเพื่อนบ้านที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพโทรคุกคาม กล่าวว่า ตนก็ถูกมิจฉาชีพโทรมาคุกคามทวงถามเงินโดยอ้างว่า นางการะเกต ไปกู้เงินออนไลน์แล้วไม่จ่าย แต่พอตนไปสอบถาม นางการเกต ก็ยืนยันว่าไม่เคยไปกู้ยืมเงินออนไลน์หรือสมัครอะไรในมือถือเลย แต่เจ้าตัวบอกว่ามีเงินโอนเข้ามาในบัญชีจริงแต่ไม่รู้ที่ไปที่มาของเงินและไม่ได้นำเงินไปใช้ ตนจึงแนะนำให้ไปแจ้งความ
จากกรณีดังกล่าวตนก็แปลกใจว่าคนร้ายรู้ข้อมูลส่วนตัว เบอร์มือถือของนางการะเกต และคนที่รู้จักกับนางการะเกต ได้อย่างไร หากคนร้ายมีวิธีการที่สามารถแฮ็กข้อมูลในมือถือได้ก็ถือเป็นสิ่งที่อันตรายและเป็นภัยต่อประชาชนมาก ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับกุมแก๊งดังกล่าวมาดำเนินคดีด้วย เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก