สุดหลอน กลิ่นเหม็นเน่าคลุ้ง จากข้างบ้านย่านราษฎร์บูรณะ โทรแจ้งตำรวจตรวจสอบ เปิดเข้าไปดูพบความว่างเปล่า-ไม่พบเจ้าของ งงหนัก กลิ่นเหม็นหายไป
วันที่ 23 ธ.ค.2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากบ้านพักหลังหนึ่งภายในซอยสุขสวัสดิ์ 26 แยกย่อยซอยที่ 7-1 แขวงบางประกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าประตูบ้านหลังดังกล่าว มีกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงโชยออกมา จนมีชาวบ้านออกมามุงดูเป็นจำนวนมากต่างวิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา ถึงต้นเหตุของกลิ่นที่เกิดขึ้น และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าวว่าด้านในบ้านนั้นมีศพหรืออะไรกันแน่ที่ส่งกลิ่นเหม็นออกมาได้ขนาดนี้
ลักษณะเบื้องต้นของบ้านหลังดังกล่าว เป็นลักษณะทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง บริเวณบ้านมีรั้วรอบขอบชิด แล้วบริเวณบ้านหลังดังกล่าวค่อนข้างที่จะรกร้างถูกปกคลุมด้วยกิ่งของต้นไม้ไม่ทราบชนิดที่ขาดการดูแลมาเป็นปี จึงแผ่ขยายกิ่งก้านใบออกมาปกคลุมทางเข้าออกของบ้านจนต้องก้มตัวตลอดเวลาในการที่จะเข้าออกบ้านหลังนี้
จากการตรวจสอบบริเวณหน้าประตูรั้วพบว่าประตูเหล็กด้านหน้าถูกล็อกอยู่ด้วยสายล็อกจักรยานเคเบิ้ลล็อก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมอบหมายให้อาสาสมัครใช้อุปกรณ์ทำการตัด แต่เมื่ออาสาสมัครตัดสายล็อกประตูเหล็กหน้าบ้านเรียบร้อยแล้ว ต่อมาจึงได้เปิดประตูรั้วดังกล่าวออก แต่สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรงที่ใคร ๆ ต่างก็ได้กลิ่นกันกลับหายไป และมันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
หลังจากนั้นเพื่อความสบายใจของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำทีมอาสาสมัครเดินเข้าไปด้านในบ้านเพื่อตรวจสอบ แต่สิ่งที่พบก็คือสภาพภายในบ้านดูเหมือนจะปกติดีทุก ๆ อย่าง ทั่วทั้งภายในบ้านทั้งข้างบนและด้านล่าง แล้วก็ไม่พบเจ้าของบ้านหลังนี้และไม่มีใครอยู่เลย แม้กระทั้งศพ ที่ชาวบ้านต่างสงสัยว่าจะมีก็ไม่พบ
แต่สิ่งที่ทำให้ชาวบ้านแถวนี้ รวมทั้งกู้ภัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างก็สงสัย คือกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงคล้ายกลิ่นศพหายไป แล้วหายไปได้อย่างไร ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา แต่ก็ไม่มีใครให้คำตอบได้เพราะเจ้าของบ้านก็หาไม่เจอ ส่วนลูกหลานของเจ้าของบ้านหลังนี้ ก็ไม่มีใครมีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อได้เลย ก็เลยอยากจะรู้ว่าตกลงเจ้าของบ้านหลังนี้ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
จากการสอบถาม นางศิริรัตน์ รัตนะ อายุ 62 ปี เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม เป็นผู้แจ้ง กล่าวว่า ตนเห็นเจ้าของบ้านครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีลูกสาวมารับออกไป และเข้ามาส่ง ก่อนจะเดินเข้าบ้านไปแล้วไม่เห็นอีกเลย จนมาวันนี้ได้กลิ่นเหม็น ข้าง ๆ บ้านคนเดินผ่านไปมาก็ได้กลิ่น ตะโกนเรียกก็ไม่มีเสียงตอบ ก่อนหน้านี้ยังเดินออกมารดน้ำต้นไม้บ้าง ทิ้งขยะบ้าง แต่ป่วยมีแผลที่บวมเป่งจนจะแตก เจ้าของบ้านอยู่คนเดียวมานานแล้ว ก่อนที่ตนจะมาอยู่อีก
“คุยกับคนข้างบ้านที่มาอยู่ก่อนตน บอกว่า แกเคยอยู่กับเมียและลูก แต่มีปัญหาอะไรกันไม่รู้ ไล่ลูกเมียออกไปอยู่ข้างนอก หลังจากนั้นก็ไม่เห็นลูกเมียแกอีกเลย มีแต่พวกแกร็ปอะไรนี่แหละมาส่งอาหาร และรถพยาบาลมารับตอนแกจะไปหาหมอ ล่าสุดเห็นวันเสาร์นี่แหละ ที่มีลูกสาวมารับและมาส่งแกครั้งสุดท้าย ยังบอกกับบ้านข้าง ๆ เลยว่า ถ้าได้กลิ่นอะไรคอยดู ๆ ด้วยนะ แกอยู่คนเดียว เดินก็ไม่ค่อยถนัดพักหลังมาเห็นที่ตัวช่วยเดินด้วย ก็เลยเป็นห่วงแก เกิดความสงสัยถามเพื่อนบ้าน ใครเดินผ่านไปมาก็ได้กลิ่น จึงตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบให้หน่อย” นางศิริรัตน์ กล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกกับนางศิริรัตน์ ว่าถ้าเจ้าของบ้านกลับมา หรือทางญาติของเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวกลับมาที่บ้านหลังนี้แล้วให้ติดต่อกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ ด้วย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมที่จะชี้แจงถึงเรื่องราวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านแถวนี้ได้แจ้งเหตุไปนั้นก็เป็นเพราะความสงสัยที่ได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรงที่ออกมาจากบ้านหลังนี้ แล้วอาจจะด้วยความเป็นห่วงเจ้าของบ้านที่เป็นคนมีอายุมากแล้ว และก็ป่วยเป็นโรคประจำตัวด้วย
แล้วที่สำคัญคือเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวได้หายตัวไป 3-4 วันแล้ว ก็เลยเกิดความสงสัยว่าจะเป็นอะไรอยู่ภายในบ้านหรือเปล่าจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาสมัครมาตรวจสอบ เพื่อความสบายใจของชาวบ้านแถวนี้จึงเป็นที่มาของเหตุการณ์ในวันนี้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมชี้แจงให้กับทางเจ้าของบ้านเพื่อจะได้สบายใจ