จากกรณีเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2567 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานกรรมาธิการ(กมธ.) การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ทาง กมธ.ได้พิจารณาสอบข้อเท็จจริงกรณีมีการร้องเรียนว่า มี บริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดตาก ได้ขายกากแร่สังกะสีและกากแร่แคดเมียมที่ฝังกลบในจังหวัดตาก ขายให้กับบริษัทหนึ่งตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง เนื่องจากกากแร่ดังกล่าวเป็นสารก่อมะเร็ง กมธ.จึงได้เชิญหลายหน่วยงานมาชี้แจง
นายอัครเดช กล่าวว่า ทางกมธ.ได้เชิญอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม รองอธิบดีกรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ตัวแทนอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ตัวแทนอธิบดีกรมอนามัย และผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) มาให้ข้อมูลทราบว่า ทางอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครได้อายัดกากแร่ดังกล่าวไว้แล้วเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา กรมอนามัยให้ข้อมูลว่ากากแร่ปนเปื้อนแคดเมียมเป็นสารก่อมะเร็งในกรณีได้สัมผัส สูดดมหรือปนเปื้อนไหลไปยังแหล่งน้ำ ถ้าประชาชนดื่มกินจะเป็นอันตราย รวมถึงสัตว์น้ำในบริเวณดังกล่าวด้วย การลักลอบขนย้ายกากแร่มีพิษอันตรายร้ายแรงดังกล่าวมีการละเมิดกฎหมายหลายข้อ
- ด่วน! ไฟไหม้เรือนอน เกาะเต่า จนท. เร่งช่วยเหลือนักท่องเที่ยว
- พรุ่งนี้ร้อนอีก!! กรมอุตุฯ เตือนอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 43 องศาเซลเซียส
- คนใต้ว่าไง? เมื่อเมนู ‘แกงไตปลา’ ติดอันดับอาหารยอดแย่ที่สุดในโลก
นายอัครเดช กล่าวว่า ทางผู้บังคับการ ปทส.ให้ข้อมูลกมธ.ว่า ในจังหวัดตากยังพบการกระทำความผิดตามกฎหมายอยู่ โดยล่าสุดยังมีการใช้เครื่องจักรกลหนักเข้าไปทำงานบริเวณหลุมเก็บกากแร่อันตราย ขณะที่ทางตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครรายงานว่า จะกลับไปพิจารณาประกาศให้พื้นที่กองเก็บกากเเร่มีพิษอันตรายในจังหวัดสมุทรสาครเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เพราะมีข้อมูลถูกนำไปเก็บไว้ในโรงงานแห่งหนึ่งกว่า 10,000 ตัน ใส่ในถุงบิ๊กแบ็กกว่า 1 พันกว่าถุง เป็นการกองเก็บอย่างผิดกฎหมาย ผิดหลักเกณฑ์การจัดเก็บวัตถุอันตราย
ทั้งนี้ การเก็บสารอันตรายต้องเก็บในบ่อคอนกรีตปกคลุมด้วยผ้าใบอย่างดีและเทคอนกรีตหนา 50 ซม. และใน EIA ระบุชัดต้องไม่มีการขนย้ายจากบ่อ แต่ปรากฏว่ามีการขนย้ายออกมาที่จังหวัดสมุทรสาคร ถือเป็นการกระทำความผิดที่รุนแรงมาก จะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบด้านสุขภาพอนามัย เพราะเก็บใส่ถุงบิ๊กแบ็กในอาคารและนอกอาคารพันกว่าถุง ประเมินคร่าวๆ เกือบหมื่นตัน
“ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบโรงงานที่เก็บกากแร่มีพิษอันตราย ได้ฟังประกาศจากทางจังหวัดสมุทรสาครที่จะประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ และต้องดำเนินคดีกับบริษัทต้นทางและบริษัทปลายทางด้วย รวมถึงต้องดูแลเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบทั้งในจังหวัดตาก และจังหวัดสมุทรสาคร รวมถึงให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วนก่อนที่จะสายเกินไป อย่างไรก็ตามเวลานี้กมธ.ได้เจอนักลงทุนต่างประเทศทำผิดกฎหมายหลายราย ทั้งการสวมสิทธิ์ การประกอบธุรกิจที่ไม่ตรงกับที่ขออนุญาต การละเมิดกฎหมาย อย่างการขนย้ายกากแร่มีพิษอันตรายครั้งนี้ สืบแล้วบริษัทปลายทางเป็นบริษัทจากต่างประเทศรายหนึ่งที่มารับซื้อแล้วทำผิดกฎหมาย ถือว่าเสี่ยงต่อคนไทยที่จะได้รับผลกระทบ กมธ.จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกคำสั่งทางปกครองอย่างเร่งด่วนเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อย่างรอบคอบรัดกุม” นายอัครเดช กล่าว
วันนี้ (4 เม.ย. 2567) ชาวบ้านจังหวัดสมุทรสาคร ได้มีการโพสต์ข้อความผ่าน Facebook โดยระบุว่า “วันนี้สมุทรสาครจะประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ มั้ยนะ รอ ฟังอยู่ นะคับ สารก่อมะเร็งหมื่นตัน อยู่ที่ อำเภอเมือง เเต่ไม่ระบุอยู่ไหน
ข่าวออก มาเเล้วเเต่หน่วยงานเงียบจัง” ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า ตำบล บางน้ำจืด ซอยกองพนันพล ตรวจหรือยังคะ??? / มหาชัยเงียบกริ้บเลยครับ / อยู่ในซอยกองพนันพล ตอนนี้ยังไม่ประกาศ เนื่องจากถูกเก็บในโกดัง ตอนนี้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ และมีการตรวจสุขภาพร่างกายคนในชุมชนด้วย / ใช่กองดำๆที่กองอยู่ตรงที่แถวตีนสะพานท่าจีนหรือป่าวคะพี่ /
ล่าสุด ทางทีมข่าวได้พยายามติดต่อไปยังนายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ว่ามีการประกาศในพื้นที่ว่าเป็นเขตภัยพิบัติแล้วหรือไม่ แต่ยังไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้ และยังไม่ได้การออกชี้แจงความเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น
ที่มา : พรรครวมไทยสร้างชาติ