ผลไม้เน่ายังสามารถกินต่อได้หรือไม่? นักโภชนาการ มาเฉลยเอง สอนวิธีตัดสินใจว่าจะกินหรือไม่กินใน 1 วินาที
ในช่วงฤดูร้อน การได้กินผลไม้เย็น ๆ หวาน ๆ ถือเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่บางครั้งเมื่อซื้อผลไม้มาเยอะเกินไปและแช่ในตู้เย็น อาจทำให้เกิดความเสียหายได้หลายแบบ จึงเกิดคำถามที่หลายคนก็สงสัยว่า ผลไม้เน่า ยังสามารถกินได้หรือไม่?
ตามคำแนะนำของ หลิน ซื่อหาง นักโภชนาการ กล่าวว่า ผลไม้เน่าจะกินได้ไหมขึ้นอยู่กับสถานการณ์ โดยสาเหตุที่ทำให้ผลไม้เน่าเสียหลัก ๆ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ การถูกน้ำแข็งกัด การถูกกดทับ และการขึ้นรา ซึ่งแต่ละกรณีก็มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของอาหารที่แตกต่างกันออกไป
เปิด 3 สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ผลไม้เน่าเสีย
1. ผลไม้ถูกน้ำแข็งกัด
มักเกิดกับผลไม้ที่ไม่เหมาะสำหรับการแช่เย็น เช่น กล้วยและมะม่วง ผลไม้เหล่านี้อาจเกิดการถูกน้ำแข็งกัดในสภาพอากาศที่เย็นต่ำ เพราะประสิทธิภาพในการต้านออกซิเดชันลดลง ซึ่งจะส่งผลต่อรสชาติและลักษณะภายนอกของผลไม้ แต่ไม่ส่งผลต่อความปลอดภัยในการรับประทาน ดังนั้นสามารถรับประทานได้หลังจากตัดส่วนที่ถูกน้ำแข็งกัดออก
2. ผลไม้ถูกกดทับ
มักเกิดจากผลไม้ที่ได้รับแรงกดหรือการกระทบในระหว่างการขนส่ง ส่งผลให้บางส่วนของผลไม้เปลี่ยนเป็นสีดำ อ่อนนุ่ม หรือเน่าเสียเร็วกว่าปกติ หากเป็นการกดทับเพียงเล็กน้อย สามารถตัดส่วนที่เสียออกและรับประทานส่วนที่เหลือได้ แต่หากการกดทับมีขนาดใหญ่และมีกลิ่นเหม็นบ่งบอกถึงการเน่าเสีย ควรหลีกเลี่ยงการรับประทาน เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงจากการปนเปื้อนของจุลินทรีย์
3. ผลไม้ขึ้นรา
กรณีนี้เป็นสถานการณ์ที่ต้องระมัดระวังมากที่สุด เมื่อผลไม้ถูกทิ้งไว้นาน ๆ อาจเกิดการสะสมของจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดกลิ่นเปรี้ยว ซึ่งยังคงอยู่ในช่วงที่สามารถรับประทานได้ แต่หากพบว่าผลไม้เริ่มมีการขึ้นรา แม้จะตัดส่วนที่ขึ้นราออกแล้ว ก็ไม่แนะนำให้รับประทาน เนื่องจากราอาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ นักโภชนาการหลิน ซื่อหาง เตือนว่า ผลไม้ที่ขึ้นราแล้วควรทิ้งไปดีกว่า