ผลวิจัยทำอึ้ง เครื่องดื่มยอดนิยมอันดับ 2 ของโลก บางคนกินทุกวัน เต็มไปด้วยไมโครพลาสติกนับพันล้านอนุภาค แนะเปลี่ยนวิธีกิน

ไมโครพลาสติกมีขนาดตั้งแต่ 1 นาโนเมตรถึง 5 มิลลิเมตร เกิดจากการย่อยสลายของผลิตภัณฑ์พลาสติก เช่น ขวดน้ำพลาสติก ถุงพลาสติก และอุปกรณ์พลาสติกต่าง ๆ ที่ถูกทิ้งลงสู่สิ่งแวดล้อม

งานวิจัยบางฉบับได้ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบของไมโครพลาสติกต่อสุขภาพมนุษย์ โดยงานวิจัยเมื่อเดือนมีนาคม 2024 พบว่า ผู้ที่มีไมโครพลาสติกอยู่ในหลอดเลือดแดงบริเวณคอ มีความเสี่ยงต่ออาการหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง หรือเสียชีวิต มากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่าในระยะเวลา 3 ปี

เมื่อไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกาย อาจรบกวนกระบวนการทางชีวภาพและพาสารเคมีอันตราย เช่น บิสฟีนอล (Bisphenol), พาทาเลต (Phthalate), สารกันไฟ (Flame Retardants), PFAS และโลหะหนัก แพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือดและไปยังอวัยวะต่าง ๆ เช่น ตับ ไต สมอง ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ก่อให้เกิดอาการแพ้ ความเสียหายต่อระบบประสาท และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง

งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ยังพบว่า อาหารและเครื่องดื่มหลายชนิดมีไมโครพลาสติกปนเปื้อน หนึ่งในนั้นคือ “ชาถุง” ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมทั่วโลก งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแมคกิลล์ (McGill University) ประเทศแคนาดา ในปี 2019 พบว่า การแช่ถุงชาในน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 95 องศาเซลเซียส สามารถปล่อยไมโครพลาสติกออกมาสู่น้ำได้มากถึง 11.6 พันล้านอนุภาค และนาโนพลาสติก 3.1 พันล้านอนุภาค

เนื่องจากถุงชาส่วนใหญ่ทำจากพลาสติก เช่น ไนลอน หรือพอลิเอทิลีน เทเรฟทาเลต (PET) และหากเติมน้ำตาลลงในชา อาจยิ่งเพิ่มปริมาณไมโครพลาสติก เพราะงานวิจัยปี 2022 พบว่า น้ำตาลบางยี่ห้อในสหรัฐฯ มีไมโครพลาสติกปนเปื้อน

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเนวาดา (University of Nevada) ประเทศสหรัฐฯ ได้ทดลองกับถุงชาที่ทำจากโพลีโพรพิลีน (Polypropylene), ไนลอน และเซลลูโลส พบว่าทั้ง 3 ประเภทปล่อยไมโครพลาสติกออกมา โดยถุงชาที่ทำจากโพลีโพรพิลีนปล่อยออกมามากที่สุด

ขณะที่งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยบาร์เซโลนา (University of Barcelona) ประเทศสเปน ในเดือนธันวาคม 2024 เผยผลการทดลองที่น่าตกใจ นักวิจัยนำถุงชา 300 ใบมาแช่ในน้ำร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 95 องศาเซลเซียส และกวนอย่างต่อเนื่อง พบว่า ในน้ำร้อน 1 มิลลิลิตร มีไมโครพลาสติกขนาดนาโนปนเปื้อนอยู่ระหว่าง 8.18 ล้านถึง 1.2 พันล้านอนุภาค และเซลล์ลำไส้ของมนุษย์สามารถดูดซึมอนุภาคเหล่านี้ได้ง่าย

ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม ไอแดน แชรอน (Aidan Charron) แสดงความกังวล เนื่องจากชาเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยระบุว่า “มนุษย์กำลังบริโภคไมโครพลาสติกและสารเติมแต่งที่รั่วไหลมาจากเครื่องดื่มและอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่มาจากบรรจุภัณฑ์ ขวดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และถุงชา”

“เรายังไม่ทราบแน่ชัดว่า การดื่มชาที่มาจากถุงชาจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร เนื่องจากงานวิจัยยังอยู่ในระยะเริ่มต้น อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ามีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคไมโครพลาสติกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่น มะเร็ง โรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง และโรคทางระบบประสาท เช่น อัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อม” ไอแดน แชรอน กล่าว

ดร. อัลบา การ์เซีย-โรดริเกซ (Dr. Alba García-Rodríguez) จากมหาวิทยาลัยบาร์เซโลนา กล่าวว่า แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงไมโครพลาสติกในชาโดยสิ้นเชิง แต่สามารถลดความเสี่ยงได้โดยการชงชาด้วยกาชงที่มีตัวกรอง แทนการใช้ถุงชา หรือเลือกใช้ใบชาแห้งแล้วกรองใบออกหลังจากต้ม นอกจากนี้ ควรเลือกซื้อชาจากแบรนด์ที่มีคุณภาพและแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ