แฟนบอลหลายคนอาจยกย่องให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงตัวเก่งของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นไอดอลในวงการลูกหนังโลกด้วยผลงานมากมายในสนาม
แต่สำหรับ มาร์ตูนิส ซาร์บินี่ เด็กหนุ่มชาวอินโดนีเซีย กลับมองต่างออกไปจากแฟนบอลทั่วไป เพราะเขานับถือ กัปตันทีมชาติโปรตุเกส เป็นผู้มีพระคุณยิ่งใหญ่ในชีวิตที่ทำให้เจ้าตัวมีทุกอย่างในวันนี้ หลังจากที่ต้องเจอเรื่องสุดเลวร้ายครั้งหนึ่งในชีวิต
เรื่องราวในครั้งนั้นถูกตีข่าวไปทั่วโลกกับ เหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2004 ที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 230,000 ราย ใน 14 ประเทศที่ติดกับมหาสมุทรอินเดีย แต่กลับมีเด็กน้อยวัยเพียงแค่ 8 ขวบ ที่สามารถเอารอดชีวิตจากภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ ด้วยการเกาะต้นไม้เป็นเวลานานถึง 21 วัน
โดย มาร์ตูนิส ซาร์บินี่ เจ้าหนูในวัย 8 ขวบ ที่สวมชุดแข่งฟุตบอลของทีมชาติโปรตุเกส ก็กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกหลังรอดชีวิตได้แบบปาฏิหาริย์ ซึ่งหลัง สหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกส ได้เห็นภาพเจ้าหนูใส่ชุดแข่งของพวกเขา ก็ตัดสินใจมอบเงินให้เป็นจำนวนเงิน 40,000 ยูโร (ประมาณ 1.5 ล้านบาท) เพื่อสร้างบ้านใหม่ให้กับเจ้าหนูมาร์ตูนิส
ก่อนที่ในเวลาต่อมา เจ้าตัวจะได้พบกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงขวัญใจของเจ้าตัวที่เดินทางมาพบที่อินโดนีเซีย และกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตเมื่อแข้งดังตัดสินใจอุปการะเจ้าตัว หลังเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ต้องสูญเสีย คุณแม่ และพี่สาวไป
ซึ่ง มาร์ตูนิส เผยว่าตัวของกัปตันทีมชาติโปรตุเกส เป็นคนคอยให้คำปรึกษาในทุกๆ เรื่องในการใช้ชีวิตที่ต้องขาดครอบครัว รวมถึงยังอุปการะเจ้าตัวด้วยการออกเงินให้ได้เรียนหนังสือ “ผมไม่อาจพูดได้เต็มปากว่าเขาเป็นพ่อบุญธรรมของผม แต่ผมพูดได้เต็มปากว่าเขาคือคนที่หล่อเลี้ยงผม และดูแลผมมาจนมีทุกวันนี้” เจ้าตัว กล่าวกับ BolaSport
สำหรับปัจจุบันหลังเวลาผ่านมาแล้วเกือบ 17 ปี มาร์ตูนิส ที่ผันตัวมาเป็นยูทูบเบอร์ในวัย 24 ปี ยังคงใช้ชีวิตที่จังหวัดอาเจะห์ มีครอบครัวที่สมบูรณ์หลังแต่งงานกับ ศรีวาห์ ยูนี่ แฟนสาว และมีลูกน้อยด้วยกันหนึ่งคนเมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ยังคงไม่ลืมผู้มีพระคุณของเขาที่เหมือนมอบชีวิตใหม่ให้
ซึ่งจากการที่ได้รับการช่วยเหลือจากแข้งดังวัย 36 ปี ทำให้เจ้าตัวมีจิตใจดีเห็นใจคนอื่น และมักช่วยเหลือคนยากลำบากหากมีโอกาสเสมอ “ผมยังจำคำพูดของเขาได้ดีที่เคยบอกผมว่า ‘ถ้าเราช่วยคนอื่น พระเจ้าจะทรงตอบแทนเราเป็นสองเท่า’ ขอบพระคุณพระเจ้าที่ทำให้วันนี้ผมสามารถช่วยเหลือคนอื่นๆ ได้” เจ้าหนูสึนามิ เปิดใจ