ผบ.ทสส. นำเหล่าทัพ ยืนไว้อาลัย คาราวะกำลังพลเสียชีวิต เรือหลวงสุโขทัยอับปาง แสดงถึงความเข้มแข็ง สามัคคี รักษาเรือ เต็มกำลังความสามารถ ด้าน ผบ.ทร. เผยพบ 2 ร่างผู้สูญหาย เดินหน้าสอบสวน – กู้เรือ-กำจัดคราบน้ำมัน
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 27 ธ.ค.2565 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทสส. เป็นประธานการประชุม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 2/2566 โดยมี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และคณะนายทหารผู้ใหญ่ เข้าร่วมประชุม
พล.อ.เฉลิมพล กล่าวชื่นชม การปฏิบัติงานของกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย เนื่องจากสภาพที่เกิด สิ่งสำคัญคือการแสดงถึงกำลังพลในเรือหลวงสุโขทัยที่พยายามดูแลรักษายุทโธปกรณ์หลัก ที่มีความสำคัญอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยเชื่อมั่นว่าอยู่ในขีดความสามารถที่จะแก้ไขอุบัติการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับเรือหลวงสุโขทัยได้ จนถึงเวลาสภาพลมฟ้าอากาศมีความรุนแรงต่อเนื่องจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุกับเรือ
ตามที่ประชาชนและสื่อได้เห็นและได้รับทราบการดำเนินการของกำลังพลที่มีความเข้มแข็ง มีความสามารถที่พยายามช่วยเหลือคนอื่นๆอย่างเต็มกำลังความสามารถ บางส่วนก็ทำให้เกิดการสูญเสียกับกำลังพลซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ไดเแก้ไขปัญหาและค้นหาผู้สูญหายมาโดยตลอด ปัจจุบันเหลืออีก 10 นาย เราจะดำเนินการต่อไป
พล.อ.เฉลิมพล กล่าวว่า ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นความเสียใจอย่างที่สุด กับกองทัพเรือและครอบครัวของกำลังพลผู้สูญเสีย ขณะเดียวกันในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็นำมาซึ่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความสมัครสมานสามัคคีของกำลังพลที่จะร่วมดำเนินการเพื่อให้เหตุการณ์ดังกล่าว คลี่คลาย และดูแลครอบครัวและการดำเนินการต่างๆของกองทัพเรือ
ในต่อไปเราก็เตรียมสนับสนุนการดำเนินการต่างๆขอแสดงความคารวะกำลังพลของเรือหลวงสุโขทัย ที่ได้เสียชีวิตในการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ นอกจากนี้ก่อนการประชุม ผบ.เหล่มทัพ ผมได้เชิญผู้เข้าร่วมประชุมได้ยืนไว้อาลัย กำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่เสียชีวิตด้วย
ด้าน พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ตนในนามกองทัพเรือ ได้ขอบคุณ ผบ.ทสส. และ ผบ.ทุกเหล่าทัพ ที่ทุกหน่วยงานได้กรุณาสนับสนุน กองทัพเรือในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงส่งผู้แทนไปเยี่ยมครอบครัวกำลังพลที่บาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลและการสนับสนุนเครื่องบินอากาศยานในการเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิต ไปประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ กองทัพเรือขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่มาร่วมในการดำเนินการครั้งนี้
และในวันนี้เราได้พบผู้สูญหายเพิ่มอีก 2 นาย ในเวลา 09.30น.และ เวลา 10.15 น. มีเรือประมงได้พบผู้สูญหาย ที่จังหวัดชุมพรก็ได้มีการส่งเรือไปรับร่างผู้เสียชีวิต พร้อมนำร่างผู้เสียชีวิตไปสู่อัตลักษณ์ต่อไป อีกทั้งเฮลิคอปเตอร์ได้ตรวจพบร่างผู้เสียชีวิตสวมเครื่องแต่งกายลายพรางคาดว่าน่าจะเป็นผู้ศูนย์หานอีก 1 ราย วันนี้ก็กำลังลำเลียงร่างไปพิสูจน์อัตลักษณ์ต่อไป
ขณะนี้มีผู้สูญหายที่ยังหาไม่พบอีก 8 นาย กองทัพเรือจะพยายามค้นหาต่อไป ส่วนพรุ่งนี้ จะนำร่างผู้เสียชีวิตที่มีการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้วจากประจวบคีรีขันธ์กลับสัตหีบ และจะประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพสวดพระอภิธรรมต่อไป เมื่อถามว่าการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรือหลวงสุโขทับอับปาง อย่างไร พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวว่า ทางคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นมาสอบสวนเพื่อตรวจสอบหาเหตุว่าเรือสุโขทัยอับปางและจมลงในทะเลเพราะน้ำเข้าเรือ จนกำลังพลไม่สามารถรักษาเรือไว้ได้
เราสอบสวน 2 ส่วน คือ 1.ตรวจสอบขั้นตอนการปฏิบัติภายหลังจากที่เรือจงไปแล้ว การปฏิบัติของกำลังพลของเรือหลวงสุโขทัยการช่วยเหลือต่างๆ และ 2.ขั้นตอนการดำเนินการตั้งแต่เรือจมว่าปฏิบัติตามขั้นตอนถูกต้องหรือไม่ ซึ่งคิดว่าการสอบสวนได้เริ่มดำเนินการไปแล้วจะมีการสรุปผลและนำเรียนผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการกู้เรือ เนื่องจากมีคราบน้ำมันไหลออกมาว่ พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวว่า ในส่วนพื้นที่ที่เรือจมในวันดังกล่าวมีเรือจ่ม 3 ลำเรือสินค้า และ เรือหลวงสุโขทัย ทั้ง 3 พื้นที่มีการประกาศเป็นพื้นที่เป็นเขตภัยพิบัติ รอการสนับสนุนเพื่อไม่ให้ ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว ในส่วนน้ำมันที่อยู่ในเรือในกรณีของเรือสุโขทัยคาดว่ามีน้ำมันอยู่จำนวนหนึ่ง รั่วไหลออกมา ก็ได้วางแผนเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและนำน้ำมันดังกล่าวขึ้นมา