ผบ.ตร. แจงเหตุปะทะ กลุ่มราษฎรหยุดเอเปค ชี้ คฝ.ทําตามขั้นตอน ขอตรวจสอบข้อเท็จจริง ปมมีสื่อมวลชนบาดเจ็บ เผย จนท.เจ็บ 15 นาย สาหัส 1 นาย
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 19 พ.ย. 2565 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เดินทางมาตรวจความเรียบร้อยการรักษาความปลอดภัยตามบริเวณต่างๆ โดยรอบพื้นที่ รวมถึงศูนย์สื่อมวลชนที่มาทำหน้าที่รายงานข่าวการประชุมผู้นําเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มาดูแลความสงบเรียบร้อย คาดว่าการประชุมดังกล่าวจะเสร็จสิ้นในช่วงเที่ยง ทั้งนี้ ในภาพรวมถือว่าการดูแลสถานการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
เมื่อถามถึงเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) กับกลุ่มราษฎรหยุดเอเปค ที่บริเวณถนนดินสอ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เป็นไปตามที่โฆษกได้ให้ข่าวไปแล้วว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ประกาศทุกขั้นตอนการควบคุมฝูงชนให้ทางผู้ชุมนุมได้ทราบแล้ว ขณะที่การชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่ประชาชนสามารถทําได้
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า โดยกลุ่มดังกล่าวชุมนุมที่ลานคนเมือง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งเงื่อนไขแล้วว่า ไม่อยากให้เคลื่อนขบวน เพราะเกรงว่าอาจจะเกิดความไม่ปลอดภัย และอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศในช่วงการประชุมผู้นำเอเปค แต่กลุ่มดังกล่าวพยายามจะเคลื่อนขบวนออกนอกพื้นที่ ขณะที่เส้นทางที่กลุ่มออกเดินมีความสุ่มเสี่ยง ซึ่งไม่ใช่แค่เส้นทางที่มุ่งตรงมายังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เท่านั้น จึงมีจุดที่เจ้าหน้าที่พยายามรั้งหน่วงกลุ่มผู้ชุมนุมหลายจุด จนทำให้เกิดเหตุการณ์ปะทะกัน อย่างไรก็ตาม ตนได้มอบหมาย บช.น. ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง
เมื่อถามว่า วันนี้มีการรายงานข่าวจะมีผู้ชุมนุมพยายามเคลื่อนขบวนมาหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานการข่าวดังกล่าวเข้ามา ทั้งนี้ ตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ กำหนดไว้ว่า การชุมนุมจะต้องยื่นเรื่องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตํารวจล่วงหน้า 24 ชั่วโมง แต่หากมีการชุมนุมอย่างกะทันหัน ก็เป็นหน้าที่ของผู้บัญชาการเหตุการณ์มีอำนาจพิจารณาเงื่อนไขต่างๆ แต่ขณะนี้ไม่มีการแจ้งเข้ามาว่าจะมีการชุมนุมที่เกี่ยวข้องกับการประชุมผู้นำเอเปค แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังวางกําลังไว้ตามปกติ
เมื่อถามว่า จากกรณีผู้ชุมนุมและสื่อมวลชนบางส่วนได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะกันดังกล่าว จะกําชับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้มีความระมัดระวังมากขึ้นหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ขอไปตรวจสอบรายละเอียดก่อน เพราะยังไม่ได้รับรายงานที่ชัดเจน ทั้งนี้ ตนได้รับรายงานเบื้องต้นว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 15 นาย โดยมี 1 นายได้รับบาดเจ็บสาหัส และถูกนําตัวส่งโรงพยาบาล ส่วน 14 นายที่เหลือ ได้รับยาและกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน ขณะเดียวกันทราบว่ามีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตนขอไปตรวจสอบรายละเอียดตรงนี้ก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีสํานักข่าวบางสำนักประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่ คฝ. ที่ทำร้ายร่างกายผู้สื่อข่าว แม้จะสวมปลอกแขนแสดงตน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องของสื่อมวลชน ทางตํารวจเคยมีการยื่นเรื่องต่อศาลแพ่ง ซึ่งศาลแพ่งได้ให้แนวทางแล้วว่า ต้องมีการจัดระเบียบสื่อมวลชนในพื้นที่การชุมนุม ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าพื้นที่การชุมนุมในบางครั้ง มีสื่อมวลชนมากกว่าผู้ชุมนุม จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดระเบียบสื่อมวลชนได้ยาก ขณะเดียวกันก็มีสื่อมวลชนบางส่วนพยายามมายืนอยู่ข้างหน้ากลุ่มผู้ชุมนุม ทําให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทําได้ยากขึ้น ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าประเทศอื่นมีแบบนี้หรือไม่
“ขอให้สื่อมวลชนทุกคนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ และหากเกิดเหตุการณ์ที่ผู้ชุมนุมมีการโต้ตอบเจ้าหน้าที่หรือปะทะกับเจ้าหน้าที่ ขอให้สื่อมวลชนดูแลและระมัดระวังตัวเองด้วยเช่นกัน เพราะยากที่จะควบคุม ทั้งนี้ ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ตํารวจด้วย เพราะตอนนี้มีสื่อมวลชนเพิ่มขึ้นจํานวนมาก และยังมียูทูบเบอร์ ซึ่งหลายคนไม่ได้อยู่ในแนวกั้นสำหรับสื่อมวลชน ดังนั้น เมื่อเกิดเหตการณ์สำคัญอาจเกิดข้อผิดพลาดได้บ้าง ซึ่งต้องเป็นไปตามหน้างาน อย่างไรก็ตาม ต้องไปตรวจสอบอีกครั้งว่าใครมีความผิดหรือไม่อย่างไร” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีมีผู้เผยแพร่คลิปวิดีโอ เจ้าหน้าที่คฝ.นายหนึ่ง แสดงท่าทียั่วยุล้อเลียนผู้ชุมนุม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่เห็นภาพดังกล่าว แต่หากมีการกระทำเช่นนั้น ต้องกําชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน ที่ผ่านมามีการกําชับเจ้าหน้าที่ตํารวจทุกครั้งว่า การปฏิบัติงานต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ต้องเป็นสัดส่วน ต้องเป็นไปตามเหตุและผล
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า แต่บางครั้งหน้างานจริง การปฏิบัติงานอาจไม่เป็นดังนั้น 100 เปอร์เซ็นต์ และภาพที่ถูกเผยแพร่ออกมา อาจไม่ใช่ภาพเหตุการณ์ทั้งหมด ว่าเหตุการณ์ก่อนหน้าเป็นอย่างไร ดังนั้น จะให้ทางบช.น.ไปตรวจสอบรายละเอียด และจัดทำไทม์ไลน์ของเหตุการณ์ทั้งหมดมาให้ตน
เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะอยู่ทำหน้าที่จนถึงเมื่อไหร่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะปฏิบัติหน้าที่จนกว่าภารกิจของแต่ละหน่วยที่ได้รับมอบหมายเสร็จสิ้น บางคนก็เสร็จสิ้นตั้งแต่เมื่อคืนที่ 18 พ.ย. แต่เรายังไม่ให้กลับ และให้มาช่วยตรวจเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย จนกว่าจะเสร็จสิ้นการประชุมเอเปคในวันนี้
เมื่อถามว่า จะดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่ สน.ทุ่งสองห้อง อย่างไร พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องตนได้รับรายงานว่าเกือบทั้งหมดได้รับการประกันตัวไปเมื่อคืนวันที่ 18 พ.ย.แล้ว
เมื่อถามถึงการตรวจสอบการโพสต์ว่าจะส่งโดรนติดระเบิดมาลงที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เราเตรียมการเรื่องนี้อยู่แล้วก่อนที่จะมีโซเชียลเคลื่อนไหว โดยมีหน่วยที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องโดรน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างทหารและตำรวจ คอยดูแลแต่ละจุด ทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐานของการดูแลผู้นำ ทั้งเรื่องวัตถุระเบิดและโดรน ให้ความมั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุดังกล่าวแน่ เมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) ก็มีตำรวจออกไปดูแลรอบพื้นที่ กทม. โดยเจ้าหน้าที่ที่เสร็จสิ้นภารกิจเมื่อคืนก็ปรับหน้าที่เป็นชุดสายตรวจเคลื่อนที่
เมื่อถามว่า จะต้องมีมาตรการสแกนการพกพาอาวุธเข้าร่วมชุมนุมหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เรามีมาตรการอยู่แล้ว แต่การชุมชนุมบางครั้งเกิดขึ้นต่อเนื่องหลายวัน จึงไม่สามารถสแกนได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนใหญ่หากทราบว่ามีการชุมนุม จะตั้งด่านตรวจคัดกรองอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้กระทบกระทั่งกัน ซึ่งเราเคยเจอหลายครั้ง เช่น หัวน็อต
เมื่อถามว่า วันนี้ประชุมเอเปควันสุดท้าย มีเรื่องต้องกำชับอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการตรวจสอบความเรียบร้อยต่างๆ และการเดินมาให้กำลังใจลูกน้องที่ใกล้จะกลับ ทั้งนี้ ผู้นำบางคนกลับไปตั้งแต่เมื่อคืน (18 พ.ย.) หากภารกิจการประชุมเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่ที่ประชุมก็กลับบ้านได้ ถ้าผู้นำหรือรัฐมนตรียังอยู่ต่อ เราก็จะดูแลตามภารกิจนั้นๆ
เมื่อถามถึงการประเมินผลการทำหน้าดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ตนพอใจ เพราะงานประชุมเอเปคเป็นงานใหญ่ที่นานๆ จะเกิดขึ้น หากไม่มีเหตุการณ์รุนแรง และการก่อความไม่สงบก็ถือว่าสามารถผ่านลุล่วงด้วยดี และดีใจในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งในคณะอนุกรรมการรักษาความปลอดภัยและการจราจร ขณะนี้ยังไม่มีภาพรวมที่ทำให้เกิดความเสียหายกับผู้นำต่างๆ
เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้ภาพรวมถือว่ายังสามารถควบคุมทุกอย่างเอาไว้ได้ดีใช่หรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้ทางคนอื่นประเมินด้วย