ผบ.ตร. บินด่วนพัทลุง สอบผู้ต้องหา แก๊งยิงตร. ลั่นต้องจับให้ได้ทั้งหมด
จากกรณีตำรวจกองปราบฯ นำกำลังตามจับกุม นายจำรัส รักจันทร์ อายุ 45 ปี มือปืนผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่น ตามประกาศจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ลำดับ 145 จนเกิดยิงต่อสู้กันที่สี่แยกบ้านท่านางพรหม ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เป็นเหตุให้ ด.ต.อนันต์ มีแสง สังกัด กก.6 บก.ป. ถูกยิงเสียชีวิต ส่วนกลุ่มคนร้ายถูกวิสามัญฯ 1 ราย คือ นายวัชระ รัตนสุวรรณ์ ส่วนนายจำรัส กับพวกที่เหลือหลบหนีไปได้ ต่อมาพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. นำกำลังตำรวจสอบสวนกลางร่วมกับตำรวจภูธรภาค 9 เข้าตรวจค้นเป้าหมายหลายจุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ล่าสุดสามารถจับกุมตัว นายพงศกร หรือ เจ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหา หลังทราบว่าหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้ตามที่เป็นข่าวแล้วนั้น อ่านข่าว : ไอ้เจ แก๊งมือปืน เปิดปมถล่มยิงตร. เผยเพื่อนถูกวิสามัญ กำลังไปสู่ขอแฟน
เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2565 ที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง (บก.ภ.จว.พัทลุง) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. บินด่วนร่วมประชุม พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ติดตามความคืบหน้าโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการเริ่มประชุม พล.ต.อ.สุวัฒน์ พร้อมด้วย พล.ต.อ.จิรภพ ร่วมกันสอบปากคำนายพงศกร หรือเจ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้ พร้อมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภาค 9 เข้าเก็บพยานหลักฐานคราบเขม่าอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ โดยทางนายพงศกร ยืนยันว่า นายจำรัสเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ก่อนที่จะหลบหนีไป
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังประชุมว่า ทางพนักงานสอบสวนออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุ 4 คน คือ นายจำรัส รักจันทร์ หรือฉุย, นายอัฐพล ใหม่อ่อน หรือ รวย อายุ 21 ปร, นายเกรียงไกร หรือหนึ่ง ไชยพูล อายุ 27 ปี และนายพงศกร สุวรรณมะโณ หรือเจ อายุ 22 ปี ที่ถูกจับกุมได้ ข้อหาหลักคือ ร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงาน หากสอบสวนไปถึงใครก็จะจับกุมเพิ่มเติม พร้อมยึดของกลางรถ 4 คัน อาวุธปืน 4 กระบอก เครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง และตามตรวจสอบวัตถุพยานเพิ่มเติม
ส่วนการติดตามได้จัดชุดร่วมบช.ก. และบช.ภ.9 ใช้ทุกวิธีการดำเนินการ ทั้งนี้ ทางตำรวจจะพยายามจับกุมดำเนินดคีให้ได้ทุกราย ส่วนผู้ต้องหาที่หลบหนีมีความอันตรายและก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยตั้งใจยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเลย ส่วนอาวุธที่ใช้มีอาวุธปืนซีเอ็มเอ็มจี ขนาด 9 ม.ม. อาวุธปืนโคลท์ 1 กระบอก อาวุธปืนเอชเค 2 กระบอกและกระสุนปืนอาวุธสงคราม
“อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้บก.ป. และบช.ภ.9 เร่งรัดจับกุมคดีตามเครือข่ายยาเสพติด การค้าขายอาวุธปืน ผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าและผู้มีอิทธิพลหรือซุ้มมือปืน ส่วนผู้ต้องหาที่จับกุมได้ทำหน้าที่ขับรถโดยเป็นลูกน้องของนายฉุย จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้ความร่วมมือในระดับหนึ่ง โดยให้การว่าจบการศึกษาม.ต้น เรียนปวช.ไม่จบ เหตุเกิดจากครบเพื่อนใช้ยาเสพติดจึงเข้าไปอยู่ในแก๊งโดยถูกเลี้ยงด้วยยาเสพติดวันละ 20 เม็ด และให้ช่วยส่งยาเสพติด ได้เม็ดละ 10-20 บาท ชีวิตก็จะวนเวียนอยู่แบบนี้ มีประวัติเสพยาเสพติดและครอบครองยาเสพติด ส่วนเชื่อมโยงไปถึงผู้ต้องหา 3 คนหรือไม่ ก็ให้การเป็นประโยชน์ โดยอยู่ในรถกระบะยี่ห้อมิตซูมิชิ รุ่นไทรตัน ที่ยิงปะทะจุดแรก ไม่ใช่รถกระบะก่อเหตุคือรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ ครั้งที่สอง ไม่ว่าจะอยู่ไหนก็ต้องตามจับกุมตัวมาให้ได้” ผบ.ตร. กล่าว
ส่วนการดูแลตำรวจเสียชีวิตนั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า โดยทางกองทุนสวัสดิการตำรวจ จะดูแลครอบครัวดูแลทายาท ลูกคนโตเป็นตำรวจเมื่อจบการศึกษา ดูแลเหมือนเป็นครอบครัว ให้บช.ก. ได้เงินช่วยเหลือจำนวน 2,367,360 บาท ส่วนคนเจ็บได้รับเงินจำนวนหนึ่งดูแล
ขณะที่มีรายงานระบุว่า จ.พัทลุง มีเครือข่าย 27 เครือข่ายที่สำคัญ โดยมีเฉพาะ 7 เครือข่ายที่ต้องขยายผลการจับกุมเพิ่มเติม ส่วนใหญ่ถูกจับกุมได้ทั้งหมดแล้ว โดยเครือข่ายนายจำรัส รักษ์จันทร์ หรือฉุย เขาจันทร์ ถือเป็นเครือข่ายรายใหญ่ ของจ.สงขลาและจ.พัทลุง