ผบช.น.นำทีม แถลงสรุปภาพรวม ดำเนินคดีผับจินหลิง

Home » ผบช.น.นำทีม แถลงสรุปภาพรวม ดำเนินคดีผับจินหลิง


ผบช.น.นำทีม แถลงสรุปภาพรวม ดำเนินคดีผับจินหลิง

วันที่ 15 ธ.ค. ที่ บช.น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รองผบช.น. พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิทย์ ผบก.น.6 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. แถลงข่าวความคืบหน้าคดีผับจินหลิง หลังเข้าจับกุมเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

พล.ต.ท.ธิติ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าว บก.สส.บช.น. ได้สืบสวนพบว่ามีการลักลอบเล่นการพนัน มีการเสพติดในสถานที่ที่มีการลักลอบและเปิดเป็นสถานบันเทิง พบบุคคลหลายสัญชาติส่วนใหญ่จีน เวียดนาม กัมพูชา และคนไทยบางส่วน สถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ปิด มีประตู 2 ชั้น รั้วสูงมีการต่อเติม ภายในพบชาวต่างชาติกว่า 200 ราย นอกจากนี้ยังพบยาเสพติด และตรวจยึดรถด้านนอก 35 คัน

จากการสารเสพติดพบ 104 ราย ขณะเดียวกันได้ตรวจค้นห้องต่างๆ พบว่าจัดทำไว้สำหรับเก็บยาเสพติดหลายประเภท จึงส่งทั้ง 104 คน ตรวจที่ รพ.ธัญญาลักษณ์ พบว่าสารเกี่ยวข้องยาเสพติด 77 ราย พนักงานสอบสวนนำกลับไปฟ้องในคดีเสพ แต่ในระหว่างนั้นมี 1 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้รับมอบหมายเป็นผู้รับผิดชอบคดีนำผู้ต้องหาแยกฟ้อง 1 ราย ขณะนี้ถูกดำเนินคดีส่ง ป.ป.ช.ตรวจสอบ

โดยเจ้าหน้าที่รายนี้ได้รับการติดต่อจากบุคลภายนอก ผู้มีอิทธิพลทางการเงินใช้เงินให้เจ้าหน้าที่กระทำความผิด เหลือ 76 ราย ส่งฟ้อง ปฏิเสธ 11 ราย ส่วนที่เหลือศาลตัดสิน ตม.รับตัวกักไว้ที่ห้องกัก ดำเนินฟ้องคดีเสพ นอกจากนี้ในสิ่งที่เราตรวจค้นพบในห้องเก็บยาเสพติดแจ้งข้อกล่าวหา นายหวงไฮ่เท่า อายุ 39 ปี ประกอบหลักฐานที่ได้จากการสืบสวนเส้นทางการเงินและการติดต่อสื่อสารพบว่า มีความเกี่ยวข้องบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุและไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ จนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับได้อีก 10 ราย จับกุมแล้ว 7 ราย ในทางหลักฐานสามารถระบุได้ว่ามีส่วนร่วมกันเป็นเจ้าของหรือเป็นเจ้าของเป็นส่วนเดียว โอนส่งเงินไปให้ยังบัญชีที่เกี่ยวข้องบุคคลที่ 3 – 4 จึงส่งให้ ป.ป.ง.ตรวจสอบดำเนินการคงามผิดฟอกเงิน ทำหนังสือครั้งที่ 2 ไปยัง ป.ป.ง. เข้าพบคณะกรรมการดำเนินการตรวจสอบเป็นการด่วน แต่ไม่ได้ดำเนินการแจ้งข้อหาพ.ร.บ.ฟอกเงิน คดีดังกล่าวให้อัยการวางกรอบ และสำนักงานยาเสพติดวิเคราะห์ข้อกล่าวหา ยึดทรัพย์ จำเป็นเร่งด่วนในการฟอกเงิน การพิจารณาดังกล่าวดำเนินการในการแจ้งข้อหาใดนั้น ความเป็นเจ้าพนักงานโดยตรง ป.ป.ง. แจ้งข้อกล่าวหาได้ครอบคลุมกว่า

พล.ต.ท.ธิติ กล่าวอีกว่า ทำไมผู้ต้องหาทั้ง 10 คนนี้บช.น.เสนอ อัยการสูงสุดพิจารณา และเกี่ยวข้ององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติหรือไม่ เนื่องจากมีบุคคลในคดีหลายสัญชาติและมีความเชื่อมโยงในการทำหน้าที่ พิจารณาแล้วเห็นว่าเข้าข่ายตามพ.ร.บ.องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งกรณีดังกล่าวมีหารือการสอบสวนกับอัยการที่รับผิดชอบคดีลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ ทางบช.น. ไม่สามารถนำข้อมูลเปิดเผยทุกจั้นตอนตั้งแต่ต้น เนื่องจากในที่เกิดเหตุมียาเสพติดชาวต่างชาติที่ต้องแยกวิเคราะห์ว่ามีความเชื่อมโยงกันได้อย่างไร บช.น. ต้องทำความชัดเจนว่าใครคือตัวการ เชื่อมโยงด้วย อะไร มีหลักฐานการเงิน มีการแชทคุยกันหรือไม่ ต้องหาหลักฐานดังกล่าวประกอบ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีพยานหลักฐานประกอบ จึงใช้เวลาในการรวบรวมค่อนข้างนาน แต่เป็นความรู้สึกที่ช้าของเจ้าหน้าที่ ที่ต้องไปตามหาพยานหลักฐานที่ผู้ก่อเหตุไม่ได้ทิ้งให้เรา

ส่วนการอายัดทรัพย์สินนั้น พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นสิ่งที่หลากหลายความคิดเห็น แต่พนักงานสอบสวนต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนา หากหลักฐานไม่แน่นก็เสนอฟ้องร้องไม่ได้ ทั้งความผิดเกี่ยวยาเสพติดและพ.ร.บ.ฟอกเงิน เลขาป.ป.ส.ได้ดำเนินการตรวจสอบทั้งเงินฝากเงินสดทรัพย์สิน ถือว่าดำเนินการตรวจยึดได้ในระดับหนึ่ง ส่วนที่เหลือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับเป็นคดีพิเศษคดีข้อหาฟอกเงิน แต่ทางบช.น.ดำเนินการต่อในการเชื่อมโยงคดียาเสพติด เรื่องจากมีอัตราโทษสูงถึงจำคุกตลอดชีวิตในคดียาเสพติด

เรื่องสำคัญสังคมตั้งคำถามว่า ทำไมดำเนินคดีกับรปภ.ว่า เขาไม่ใช้พนักงานรักษาความปลอดภัยนั้น พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า เขาอาจจะเป็นถูกจ้างไว้ดูแลสถานที่ เขาแสดงตนเป็นผู้รับหมายขณะทำการตรวจค้น ในนั้นมีแต่ชาวต่างชาติและเขาพูดภาษาต่างชาติได้ และตรวจสอบพบมีบุคคลกระทำผิด มียาเสพติด สิ่งที่เจ้าหน้าที่ต้องทำคือต้องแจ้งข้อหาตามขั้นตอนในขณะที่ปรากฎข้อเท็จจริงตามนั้น ในขณะซักถามเบื้องต้นก่อนลงบันทึก ไม่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นจริง เนื่องจากความกลัวหรือต้องการปกป้องใคร แต่จากคณะพนักงานสอบสวนใช้ระยะเวลาในการซักถามจนวางใจว่าจะรับฟัง จึงให้การเป็นประโยชน์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยง จึงทราบว่าไม่ใช่ตัวการในคดี จึงสั่งคดีไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ส่วนข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์นำส่งให้อัยการนำสืบในการไตร่สวน ส่วนการให้น้ำหนักอยู่ที่พนักงานอัยการ และผู้พิพากษา โดยเจ้าหน้าที่ไม่ได้โน้มน้าว นอกจากมีลายลักษณ์อักษรมีภาพและเสียงประกอบที่มีสติสัมประชัญญะพนักงานรักษาความปลอดภัยดังกล่าว ไม่ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจหว่านล้อมชักจูง เขาประกันตัวในชั้นศาล เดินเข้ามาตำรวจยินดีให้ข้อมูลนั้น มีประโยชน์ทางคดี แต่ศาลรับฟ้องอย่างไร ตนเองไม่อาจก้าวล่วงได้

ส่วนกรณีมีการปล่อยรถยนต์ตรวจยึดไว้มีผู้รับไปนั้น พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กร มีการดำเนินการ 2 ส่วน ฝ่ายสืบสวนมีการเก็บกล้อง รายละเอียดเคลื่อนไหวล็อกรถ ทางบช.น.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีที่มีคำสั่งตรวจสอบให้ได้เจ้าของรถที่แท้จริงได้มาได้ใช้ในการกระทำความผิด แต่ไม่ได้ดำเนินการถือว่าเป็นการขัดแย้ง แต่มีกลักฐานประกอบการสืบสวนเชื่อว่าทุจริต ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบมีความผิดคดีอาญาก็จะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย ทางรองผบช.น. ได้มีหนังสือทวงถามกรณีการพิจารณาโทษทางวินัยดำเนินการถึงขั้นตอนไหน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบและมำการสืบสวนเป็นคณะเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดเป็นความขัดแย้งผิดให้พิจารณาว่าไปตามผิด ตั้งแต่เกิดเหตุพบร่องรอยการติดต่อสื่บสวนกับเจ้าหน้าที่และจ้างวานให้เจ้าหน้าที่เอาคนไปส่งฟ้อง จึงส่งข้อมูลให้ป.ป.ช. ดำเนินการแล้ว 3 ราย หากเห็นเรื่องล่าช้าตามจตช.พิจารณา จะดำเนินการตามข้อบกพร่องและตั้งคณะกรรมการใหม่ ทั้งนี้ บช.น. ต้องการดำเนินการตามขั้นตอนในสิ่งที่พยานหลักฐานรวบรวมหาได้ และยังมีผู้ต้องหาออกหมายจับกุมเพิ่มเติมอีก หากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติม รวบรวมพยานทั้งหมด 100 ปาก เชื่อมโยงได้ทั้งพยานเอกสารพยานบุคคล พยานวัตถุ เส้นทางการเงิน เท่าที่ตรวจพบในเวลานี้ถึงใครก็ว่าไปตามนั้น ถึงเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ละเว้น คดีดังกล่าวกระทบโครงสร้างทางสังคมและอาจกระทบโครงสร้างเศรษฐกิจ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ายืนยันว่าไม่เป็นมวยล้มต้มคนดูนั้น พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า ยืนยันว่า สิ่งที่ทำอยู่ตอบคำถามความมั่นใจได้หรือไม่ เราปล่อยปละละเลยเพิกเฉยหรือไม่ หรือนิ่งดูดาย ส่วนความตั้งใจดำเนินคดีฟอกเงินนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งใจต้องทำแต่แรกแล้ว คดีฟอกเงินต้องดูว่าทรัพย์สินโอนไปที่ใคร ซึ่งเรารวบรวมพยานหลักฐานทำหนังสือถือป.ป.ง.ดำเนินการตรวจสอบ แต่ระหว่างเดียวกันดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษเป็นสิ่งที่ดี เมื่อมีหลายหน่วยงานร่วมทำการตรวจสอบ ยืนยันว่ามั่นใจในการทีมงานทำการ ส่วนข้อมูลการติดต่อสื่อสารมีการใช้วีแช็ทสื่อสาร แต่เป็นไฟล์ค่อนข้างใหญ่และเป็นภาษาต่างประเทศ แต่ถ้าไม่ใช่ผู้ต้องหายาเสพติดต้องได้รับการยินยอมจากคนที่ทำการตรวจสอบ หลังจากนี้จะส่งเอกสารให้อัยการตรวจสอบใช้เป็นพยานหลักฐานหรือไม่

ส่วนการตรวจสอบรถหลักฐานไม่มีกุญแจเปิดนั้น พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า มีการทำหนังสือถือกรมการขนส่ง กรมศุลกากร กรมธุรกิจการค้า ตรวจสอบใครสั่ง นำเข้าโอนเงินซื้อ จ่ายให้ใคร รวมถึงประกันภัย เอกสารดังกล่าวเดินทางถึงพนักงานสอบสวนช้า สิ่งที่อยากได้คือการนำเข้ารถบางประเภทใครเป็นผู้สั่งนำเข้า เนื่องจากรถบางรุ่นไม่สามารถนำเข้าได้ ใครเป็นผู้นำเข้าหรือผู้ดำเนินการให้จากต่างประเทศ จึงอาจมองได้ว่าเป็นองค์กรอาชญากรรม

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีของนายชูวิทย์กล่าวถึงการดำเนินการทางคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า ยืนยันว่าจะทำคดีดังกล่าวให้ดีที่สุด ส่วนนายตำรวจใกล้เกษียณอายุราชการที่มีการอ้างถึงนั้น พ.ต.อ.สมบูรณ์ ศรีสุขดาวเรือง ผกก.3 บก.สส.บช.น. เป็นครูฝึกทำการสอนเด็กรุ่นใหม่ทำการสืบสวน ตนเชื่อมั่นในความสามารถ ไม่คิดว่าข้าราชการตำรวจที่จะเกษียณอ่อนด้อยไร้ความสามารถ ประสบการณ์ที่เขามีให้ทำให้สามารถออกหมายจับกุมผู้ต้องหาได้ ส่วนรถไม่ได้มีการตรวจสอบนั้น ยืนยันว่ามีการตรวจสอบรถในการจับกุม บางคันมีคลิปภาพถ่ายไว้เลย เรื่องเหล่านี้ควรถูกใช้ในการพิสูจน์ทราบในชั้นศาลเพื่อไม่ให้หลักฐานแปดเปื้อน ส่วนชูวิทย์พร้อมเป็นพยานนั้น ก็จะนำสิ่งเหล่านั้นสื่อสารไปยังผู้ใหญ่หากเป็นแระโยชน์ก็จะรับข้อสั่งการ หากเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองก็จะดำเนินการ

เมื่อถามว่ากรณีตู้ห่าวมีการดำเนินการหลักฐานแต่อาจสาวไม่ถึงนั้น พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า ยืนยันว่ามีพยานหลักฐานเป็นไปแนวทางนั้นทมีพยานเอกสาร พยานบุคคล แต่ในรูปมองไม่เห็นว่าผู้ต้องหาที่สื่อพูดถึงเชื่อมโยงหรือไม่ สั่งการให้ผบก.น.6 ควบคุมตัวสอบปากคำ ในวันนั้นเขาพยายามขอให้ส่งไปที่ศาล แต่เราได้ทำการสอบปากคำไว้เนื่องจากถูกจับกุม โดยศาลยังไม่ให้ประกันตัว

ถามว่าผู้มีอิทธิพลทางการเงินสั่งแยกฟ้องนั้น พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า อยู่ระหว่างไล่ติดตามอยู่คำให้การผู้เกี่ยวข้อง การตรวจสอบการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่นั้นได้ส่งเอกสารให้ทางป.ป.ช. แต่เราก็ยังดำเนินการตรวจสอบการทำลายคดีหรือช่วยผู้ต้องหาถือว่าเป็นคดีร้ายแรงต้องทำการตรวจสอบ ส่วนการดำเนินการกับนอมินีที่เกี่ยวข้องนั้น มีการดำเนินกรแจ้งข้อหาฟอกเงิน ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องอื่นที่เกี่ยวข้องก็ให้เป็นเป็นฐานของคดีนั้น ไปยึดในคดีนั้น ไม่เหมือนอย่างคดีที่สถานบันเทิงท็อปวัน หากมีอะไรเชื่อมโยงก็ตรวจสอบ แต่ละคดีต้องยึดพยานหลักฐานในคดีนั้น ในภาพรวมทั้งพล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ดูในภาพรวม

เมื่อถามว่ารองผบ.ตร.กล่าวถึงคดีดังกล่าวอาชญากรรมไม่ได้เกิดนอกราชอาณาจักรนั้น คดีดังกล่าวอาจไม่ได้เกิดนอกราชอาณาจักรโดยตรง แต่เป็นคดีที่อาจเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรม ซึ่งอาจเป็นคนละนัยยะ ยกตัวอย่างเช่น หากเจ้าหน้าที่เจอผู้ต้องหาขนกัญชาข้ามแม่น้ำโขง จากนั้นมีการตั้งด่านถูกจับ คดีนั้นเป็นคดีนอกราชอาณาจักร สิ่งที่รองผบ.ตร. กล่าวถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นองค์ประกอบในคดีดังกล่าว

ถามต่อว่า ที่มีการปล่อยตัวมีเจตนาปล่อยตัวหลานตู้ห่าวนั้น พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า ผู้ต้องหาเป็น 100 แต่มีพนักงานสอบสวนแอบดำเนินการกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่รับโทษมากกว่า อำนาจเงินซื้อเขาได้เขาก็ต้องรับผิดชอบ ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะตัวของคน แต่การกล่าวหาทั้งองค์กร แค่ริ้วรอยการกระทำผิดของคนๆ นั้น มันใช่คนทั้งหมดผิดหรือไม่ ทั้งนี้ คดีพื้นฐานทางบช.น. ต้องดำเนินการต่อหลังดีเอาไอรับเป็นคดีพิเศษไปแล้ว เรารู้สึกอุ่นใจกรณีที่อัยการสูงสุดให้คำแนะนำคดีดังกล่าว ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการกระทำผิดนั้น คนไม่ดีมีอยู่ในทุกองค์กร ต้องเหลือพื้นที่ให้คนดีในองค์กรยืนอยู่ได้ เมื่อมีคนพาดพิงจึงต้องออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าว เพื่อเป็นต้นแบบให้รุ่นต่อไปได้เดินตาม

ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ต้องหาทั้งหมด 10 ราย ออกหมายจับข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยา,เฮโรอีน) อันเป็นการมีไว้เพื่อจำหน่ายเพื่อการค้าเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดหน่ายวัตถุอกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 เป็นการมีไว้เพื่อจำหน่ายเพื่อการค้านเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัย,สมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเดียวกับยาเสพติดและสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดก่อนหรือขณะกระทำความผิด” จับกุมผู้ต้องหา 4 รายคือ นายหวัง เจียนหัว อายุ 34 ปี นายนายหวง ไฮ่เท่า อายุ 39 ปี นายเจียง ไดลิน อายุ 30 ปี นายเมา ยาเซียง อายุ 41 ปี เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา และออกหมายจับวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา จับกุมนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว และนายหยาง เฉิน อายุ 37 ปี หลานของตู้ห่าง ที่ถูกปล่อยตัวไประหว่างถูกจับกุม ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี ต่อมาวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ออกหมายจับผู้ต้องหา 4 ราย จับกุมน.ส.โจว เมียวรุ่ย อายุ 29 ปี และ นายฮุย วู่ อายุ 32 ปี อยู่ระหว่างหลบหนี 2 รายคือ นายหลิน ฉีเล่ อายุ 35 ปี น.ส.เฉิน หยานหยุน อายุ 31 ปี นอกจากนี้ทางคณะพนักงานสอบสวนจะขออนุมัติผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงินดังกล่าว 2 ราย

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ