ผนังอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรแตก ปริมาณน้ำเกิน 150 เปอร์เซ็นต์ เตือนภัย 8 อำเภอระดับสีส้ม

Home » ผนังอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรแตก ปริมาณน้ำเกิน 150 เปอร์เซ็นต์ เตือนภัย 8 อำเภอระดับสีส้ม
ผนังอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรแตก ปริมาณน้ำเกิน 150 เปอร์เซ็นต์ เตือนภัย 8 อำเภอระดับสีส้ม

ช่วงเย็นวันนี้ (26 กันยายน 2564) คันดินผนังกั้นอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) ตำบลบัลลังก์ อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา ได้พังทลายลง ความกว้างประมาณ 10 เมตร เนื่องจากปริมาณน้ำภายในอ่างมีมากจนเกินความจุ โดยล่าสุดก่อนที่คันดินจะพังทลาย อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 41 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 151% จากความจุอ่างทั้งหมดที่ 27.7 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) เป็นอ่างเก็บน้ำที่รับน้ำมาจากพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ และพื้นที่อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา

นายกิตติกุล  เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการชลประทานจังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางลงพื้นที่ไปตรวจดูพื้นที่เบื้องต้นพบว่า ปริมาณน้ำจากพื้นที่อำเภอด่านขุนทดได้ไหลลงมายังอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) มีปริมาณมากจนเกินกว่าที่อ่างจะรับไหว ทำให้มวลน้ำได้กัดเซาะคันดินผนังกันน้ำจนพังลง ซึ่งมวลน้ำได้ไหลลงไปพื้นที่ด้านล่าง นอกจากนี้มวลน้ำบางส่วนยังล้นออกทางสปิลเวย์ประตูระบายน้ำฉุกเฉินของอ่างด้วย โดยขณะเดียวกันทางจังหวัดนครราชสีมาได้ออกหนังสือด่วนที่สุด ประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่ด้านท้ายอ่าง 8 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอโนนไทย อำเภอพระทองคำ อำเภอเมืองนครราชสีมา อำเภอโนนสูง อำเภอพิมาย อำเภอชุมพวง อำเภอลำทะเมนชัย และอำเภอเมืองยาง โดยให้ประชาชนอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายสูง ให้อพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ในระดับสีส้ม โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำให้เก็บสิ่งของขึ้นไว้บนที่สูง 

นายกิตติกุล  เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้ทางชลประทานได้พยายามเร่งระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) ในอัตรา 350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพราะยังต้องรักษาสันเขื่อนของอ่างเก็บน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำล้นออกมาทางสันเขื่อน เนื่องจากทางชลประทานยังสามารถควบคุมมวลน้ำที่ทะลักออกมาทางคันดินผนังกั้นน้ำได้ แต่หากปริมาณน้ำล้นสันเขื่อนเราจะไม่สามารถควบคุมปริมาณน้ำได้เลย ทั้งนี้ชลประทานยังต้องเร่งระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) เนื่องจากคาดการณ์ว่ายังคงมีมวลน้ำจากพื้นที่ด้านบนที่กำลังไหลลงมาที่อ่างอีกจำนวนมากกว่า 100 ล้านลูกบาศก์เมตร

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน บ้านพลสงคราม หมู่ที่ 2 ตำบลพลสงคราม อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา  ปริมาณน้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน เพิ่มสูงขึ้นทำให้ชาวบ้าน กว่า 50 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่ไม่สามารถเก็บข้าวของภายในบ้านได้ทันส่งผลทำให้สิ่งของภายในบ้านถูกน้ำท่วมเสียหาย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพลสงคราม ถูกน้ำไหลเข้าท่วม สูงกว่า 1 เมตร ทำให้ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยกัน นำเครื่องมือทางการแพทย์ สิ่งของต่างๆภายในสำนักงานออกขึ้นมาเก็บไว้ภายในองค์การบริหารส่วนตำบลพลสงคราม

น้ำที่ไหลเข้าท่วมหมู่บ้านในครั้งนี้ นับว่าหนักสุด เนื่องจากปริมาณน้ำได้มาจากพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ก่อนที่จะไหลผ่านมายัง ลำห้วยเหนือ พื้นที่ตำบลพลสงคราม อำเภอโนนสูง ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฮุก31จุดโนนสูง ได้เร่งช่วยกัน ขนย้ายสิ่งของ ขึ้นเก็บไว้ในที่สูง โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุ อาศัยอยู่คนเดียว

ล่าสุด นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้แจ้งไปยังนายอำเภอ ให้มีการเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชน หลังอ่างเก็บลำเชียงไกร (ตอนล่าง) ในอำเภอโนนไทย จะต้องระบายน้ำเพิ่มอีกมาก  จึงขอให้อำเภอด้านท้ายอ่าง ซึ่งมีตั้งแต่ อำเภอโนนไทย โนนสูง อำเภอพิมาย ลงไป แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ริมน้ำและที่ลุ่มต่ำให้เก็บทรัพย์สินสิ่งของจำเป็นขึ้นไว้ที่สูงกว่าที่เคย ระวังติดตามมวลน้ำไหลเชี่ยวแรง ดูแลเด็กเล็กและคนชรา ผู้ป่วยติดเตียง ประสานท้องถิ่น ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดสำคัญทางเศรษฐกิจ จัดหาและสนับสนุนทรายและกระสอบ ให้กับประชาชน เพื่อปิดกั้นน้ำเข้าบ้านเรือนและพื้นที่สำคัญ มีรถกระจายข่าวเตือนให้ทั่วถึง และจัดกำลังเจ้าหน้าที่ ประสานกำลังพลสนับสนุนการอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงที่เตรียมไว้ล่วงหน้า ที่สำคัญ แจ้งให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้อย่างทั่วถึง

  • ชลประทานเตือนชาวโคราชเก็บของขึ้นที่สูง รับมือมวลน้ำไหลบ่าจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ