เกิดเหตุชวนตะลึงบนบนรถไฟความเร็วสูงประเทศจีน จู่ๆ ผู้หญิงคนหนึ่งก็ลุกขึ้นยืน ทำให้ผู้โดยสารที่นั่งข้างๆ เธอประหลาดใจ แต่ก่อนที่เขาจะได้ถามอะไร ผู้หญิงคนนั้นก็กระทำเรื่องที่แปลกประหลาดกว่าเดิม ยืนเต้นส่ายหัวลักษณะคล้ายมีอาการมึนเมา พูดคำที่ไม่มีใครเข้าใจอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหัน หลายคนอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนกและไม่รู้ว่าจะเข้าไปหยุดยั้งได้อย่างไร

เด็กสาวยืนอยู่กลางทางเดินและยังคงเต้นแกว่งไปมาราวกับว่าเธออยู่ในดิสโก้เธค เมื่อเห็นว่าไม่มีใครกล้าหยุดเธอก็ส่งเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ แขนและขาสะบัดอย่างดุเดือดมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารโดยรอบ ทำให้คนหนึ่งตัดสินใจโทรหาพนักงานบนรถไฟ เขาไม่ได้กังวลว่าจะได้รับลูกหลงจากการเต้นของหญิงสาว แต่สังเกตเห็นว่าสถานการณ์ของเธอดูไม่ปกติ

อย่างไรก็ตาม เมื่อพนักงานมาถึงพฤติกรรมของเธอก็ยิ่งปั่นป่วนมากขึ้น ไม่เพียงแต่ร้องเพลงและเต้นรำเท่านั้น แต่เริ่มฉีกเสื้อผ้าของตัวเอง และเปลื้องผ้าจนหมด จากนั้นก็วิ่งหนีอย่างเปลือยเปล่าบนรถไฟ ในเวลานี้ทุกคนเริ่มคาดเดาว่าหญิงสาวอาจป่วยทางจิต หรือมีอาการประสาทหลอนเพราะใช้สารต้องห้าม

พนักงานตระหนักได้ว่าสถานการณ์นี้ไม่ดีต่อตัวหญิงสาวเอง เพราะเริ่มมีคนถ่ายรูปและคลิปของเธอ จึงรีบนำเสื้อผ้ามาให้หญิงสาวสวม แต่กลับประสบปัญหาในการเข้าใกล้ เพราะจู่ๆ เธอก็โกรธดุด่าพนักงาน และผลักคนอื่นได้รับบาดเจ็บ สุดท้ายต้องรอจนรถไฟจอดสถานีที่ใกล้ที่สุด เพื่อให้ตำรวจมารับตัวเธอออกไป ที่สถานีตำรวจ ชายชราซึ่งเป็นของหญิงสาวรออยู่ที่นั่นก่อนแล้ว เมื่อเห็นสภาพของลูกสาวเขากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

ผู้เป็นพ่อเล่าว่าครอบครัวของเขามาจากหูเป่ย ประเทศจีน ลูกสาวเคยมีความสุขมาก กระตือรือร้น และมีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า แต่เมื่อเธอตกหลุมรักผู้ชายคนหนึ่ง และทนทุกข์ทรมานมากมายในความสัมพันธ์ หลังจากการเลิกราสภาพจิตใจก็เสียหายอย่างรุนแรง บุคลิกเปลี่ยนไปอมากเท่านั้น แพทย์ยังวินิจฉัยว่าเธอเป็นโรคจิตเภทเนื่องจากอาการบาดเจ็บทางจิต

หลังจากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจิตเวชอยู่ระยะหนึ่ง เมื่อเห็นว่าอาการของลูกสาวดีขึ้นเขาจึงพาเธอกลับบ้าน ล่าสุดกระบวนการฟื้นตัวเป็นไปด้วยดี ไม่มีอาการกำเริบอีก ทำให้ครอบครัวเริ่มเบาใจและไม่ได้ดูแลใกล้ชิดเหมือนเดิม ในช่วงเวลานี้เอง หญิงสาวก็แอบออกมาขึ้นรถไฟความเร็วสูง และทำให้เกิดเหตุการณ์ทั้งหมดขึ้น

ทั้งนี้ เมื่อรู้ว่าลูกสาวทุบตีพนักงานบนรถไฟ ผู้เป็นพ่อจึงขอโทษพร้อมแสดงความขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ และขอเป็นผู้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล ทางด้านพนักงานก็เห็นใจมากๆ และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารหญิงสาว

หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวถูกโพสต์ทางออนไลน์ ความคิดเห็นส่วนใหญ่บอกว่า กรณีเช่นนี้สังคมควรอดทนและช่วยกันปกป้อง โลกของคนป่วยทางจิตแตกต่างไปจากที่คนสุขภาพดีอย่างสิ้นเชิง ครอบครัวควรให้ความสำคัญกับพวกเขามากขึ้น และหลีกเลี่ยงการปล่อยให้พวกเขาออกไปข้างนอกตามลำพัง เพราะอาจมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ง่ายๆ

นอกจากนี้ ชาวเน็ตอดไม่ได้ที่จะประณามผู้ที่ถ่ายรูปเปลือยของหญิงคนดังกล่าวและโพสต์ทางออนไลน์ พวกเขาใช้ประโยชน์จากภาพลักษณ์ส่วนตัวของผู้อื่น เปลี่ยนความเจ็บปวดของหญิงสาวให้เป็นความบันเทิงของตนเอง