กลายเป็นประเด็นร้อนแรง กรณีผู้หญิงถูกบังคับให้ถอดโชว์ “เต้านมเทียม” ต่อหน้านักเดินทางคนอื่นๆ ในสนามบินดับลิน ขณะผ่านผ่านเครื่องสแกนความปลอดภัยตัวใหม่
“ฉันนั่งและร้องไห้ตลอดเที่ยวบิน” คือคำบอกเล่าของ Réaltán Ní Leannáin นักเขียนชาวไอริช และผู้โดยสารสาวที่ตกเป็นประเด็นร้อนแรง เธอเป็นผู้หญิงจากเบลฟัสต์ ซึ่งเข้ารับการผ่าตัดมะเร็งเต้านมเมื่อ 15 ปีที่แล้ว และจำเป็นต้องสวมอุปกรณ์เทียมนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เธอต้องเผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด ขณะเตรียมขึ้นเครื่องบินเดินทางไปยังโดเนกัล เมื่อเครื่องสแกนร่างกายที่สนามบินดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ส่งสัญญาณเตือนเนื่องตรวจพบ “อวัยวะเทียม” ในร่างกายของเธอ ซึ่งก็คือเต้านมเทียม (Breast reconstruction)
แต่ตามคำบอกเล่าของเจ้าตัว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรงเข้ามาหยุดเธอ และบอกให้เธอ “เอามันออกมา” ต่อหน้าผู้โดยสารคนอื่นๆ ในพื้นที่สาธารณะ พร้อมย้ำว่า “จำเป็นต้องเห็นมัน” โดยไม่มีการเสนอที่จะทำการตรวจค้นร่างกายเป็นการส่วนตัว ทำให้เธอรู้สึกว่า “ศักดิ์ศรีไม่ได้รับการปกป้องในวันนั้น”
พร้อมทั้งเรียกร้องให้สนามบินดับลิน ดำเนินการให้ดีเหมือนเช่นสนามบินอื่นๆ เช่น ในสนามบินกลาสโกว์ และอัมสเตอร์ดัม ที่เธอเคยเดินทางไปมาแล้ว โดยมีการระบุระเบียบปฏิบัติของสนามบินไว้อย่างชัดเจนทางออนไลน์ สำหรับตัวเธอเองและคนอื่นๆ ที่อยู่ในสถานการณ์คล้ายกัน
“ฉันต้องการแน่ใจว่า จะไม่มีผู้หญิงที่เคยรักษามะเร็งเต้านมคนใด ได้รับผลกระทบจากการนำเทคโนโลยีใหม่นี้มาใช้” เธอกล่าว
ทั้งนี้ เธอยังเปิดเผยด้วยว่า ได้ส่งอีเมลไปยัง DAA ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการสนามบินดับลิน หลังจากเหตุการณ์เมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อขอให้มั่นใจว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก แต่ทางสนามบิน “ไม่สามารถให้คำตอบนั้นได้” และนั่นคือสาเหตุที่เธอออกมาพูดเรื่องนี้ต่อสาธารณะ
ล่าสุด ทางด้าน DAA ผู้ดำเนินการสนามบินดับลิน กล่าวในแถลงการณ์ว่ารู้สึกเสียใจที่ผู้โดยสารมี “ประสบการณ์เชิงลบ” กับการตรวจสอบความปลอดภัย “ผู้โดยสารทุกคนที่ตกอยู้ในสถานการณ์เช่นนี้ สามารถขอการตรวจค้นแบบส่วนตัวได้ ซึ่งจะได้รับการอำนวยความสะดวกโดยพนักงานที่ได้รับการฝึกอบรมมาแล้ว”
“เราขออภัยต่อผู้โดยสารอย่างเต็มที่ และรับรองกับเธอได้ว่าได้ดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์นี้ตามขั้นตอนอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้แน่ใจว่าสถานการณ์ที่คล้ายกันจะถูกหลีกเลี่ยงในอนาคต” , “หวังว่าจะได้ต้อนรับ Ní Leannáin กลับมาที่สนามบินดับลินเร็วๆ นี้ เรารับรองว่าเธอจะได้รับประสบการณ์เชิงบวกมากขึ้น”