ผงะ เจอกะโหลก โครงกระดูกมนุษย์ ซุกท่อระบายน้ำ ทางลงด่วนงามวงศ์วาน คาดเป็นเพศชายเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 เดือน แต่ยังไม่เกิน 1 ปี

เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 16 มี.ค.2566 พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี รับแจ้งพบหัวกะโหลกและโครงกระดูกมนุษย์ในท่อระบายน้ำ ริมถนนทางลงทางด่วนงามวงศ์วาน 1 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลริธิป่อเต็กตึ้ง รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุช่วงท่อระบายน้ำข้างทางด้านซ้ายตรงทางโค้งลงทางด่วนศรีรัช มุ่งหน้าถนนงามวงศ์วาน ไปแยกแคราย พบคนงานลอกท่อระบาย โดยมีนายวิเชียร สวนมะลิ อายุ 50 ปี หัวหน้าคนงาน นำคนงานจำนวน 28 คน มาทำการลอกท่อนำเศษขยะและเศษดินออกจากท่อระบายน้ำตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. ตามที่บริษัททางด่วนได้ว่าจ้าง ปรากฏว่าระหว่างที่คนงานกำลังลงไปตักเลนและเศษขยะตกค้างออกจากท่อนั้น

โดยนายวิทยา รักธัญกิจ อายุ 34 ปี คนงานลอกท่อ ได้ใช้ถังพลาสติกตักเลนแล้วพบหัวกะโหลกของมนุษย์ติดมากับถัง สร้างความตกใจให้กับนายวิทยา จากนั้นเพื่อนคนงานที่เห็นเหตุการณ์จึงได้บอกนายวิเชียรหัวหน้างานให้ทราบแล้วแจ้งตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ทางด่วนให้มาตรวจสอบและช่วยกันค้นหาจนพบเพิ่มเติมอีกประมาณ 28 ชิ้น ประกอบด้วย กระดูกเชิงกราน กระดูกท่อนขา กระดูกท่อนแขน กระดูกซี่โครง กระดูกชิ้นส่วนอื่นๆ และกางเกงในผู้ชาย

จากการสอบถาม นายวิทยา รักธัญกิจ อายุ 34 ปี คนงานลอกท่อที่พบหัวกะโหลก ให้การว่า ตนมาลอกในจุดพบกระโหลกมนุษย์ตอนประมาณ 4 ทุ่ม ซึ่งในตอนที่ตักขึ้นมาแล้วพบว่าเป็นหัวกะโหลกของคนก็รู้สึกตกใจเช่นกัน เพราะไม่คิดว่าจะมาเจอหัวกะโหลกคนในท่อระบายน้ำแบบนี้

ด้านเจ้าหน้าที่ทางด่วน กล่าวว่า ท่อระบายน้ำจุดนี้ลอกครั้งสุดท้ายเมื่อ 2 ปีก่อน และจุดนี้มีฝาท่อเป็นเหล็กมีน้ำหนักประมาณ 80 กก. การจะเปิดฝาท่อได้นั้นต้องใช้คนงานที่แข็งแรง 2 คนช่วยกันยกถึงจะเปิดฝาท่อออกมาได้ และจุดนี้จะมีเจ้าหน้าที่ทางด่วนตรวจตราความเรียบร้อยเป็นประจำ ฝาท่อปิดสนิทตลอดเวลา จึงไม่น่าที่จะมีคนมาเดินตกลงไปได้ จึงยังไม่ทราบว่าผู้ตายเข้าไปเสียชีวิตอยู่ในท่อระบายน้ำตรงนี้ได้ยังไง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรวบรวมหัวกะโหลกและเศษโครงกระดูกที่พบ ตรวจสอบพบว่าโครงกระดูกที่พบเป็นเพศชายเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 เดือน แต่ยังไม่เกิน 1 ปี ซึ่งจะได้นำโครงกระดูกที่พบส่งให้ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบหาอัติลักษณ์และสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป