สตูล ผงะ! พบรังช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-มาเลเซีย เชื่อเส้นทางค้ามนุษย์ เจ้าหน้าที่รัฐมีเอี่ยวเร่งรวบรวมหลักฐานจับตัวการใหญ่

25 พ.ย. 65 – นายพีรพัฒน์ เงินเจริญ นายอำเภอควนโดน พ.อ.เรวัติ เซ่งเข็ม ผบ.ทหารร้อย ร. 5 พัน 2 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจสภ.ควนโดน กอ.รมน. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทะเลบัน ร่วมบูรณกำลังหลายฝ่าย เฝ้าติดตามขบวนการลักลอบทำสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดน

ล่าสุดนายอำเภอควนโดน ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ มีการลักลอบใช้เส้นทางธรรมชาติหลบหลีกเจ้าหน้าที่ เพื่อเคลื่อนย้ายสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะยาเสพติด เชื่อว่าเป็นเส้นทางค้ามนุษย์ รวมทั้งสินค้าหลบหนีภาษีบางชนิด พื้นที่ตลาดนัดชายแดนวังประจัน หมู่ที่ 4 ต.วังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล

จากการเข้าตรวจสอบของกำลังเจ้าหน้าที่ พบมีการสร้างบันไดลิงที่ทำขึ้นเอง ความสูงประมาณ 150 ถึง 200 เมตร ซึ่งเส้นทางขึ้นอยู่บริเวณด้านหลังร้านค้าภายในตลาดชายแดนติดเขา เพื่อ บังตา คนที่ผ่านไปมา

สำหรับ เส้นทางขึ้นไปบนเขาดังกล่าว เป็นรอยต่อรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย และตลอดเส้นทางเดินพบร่อยรอยการตัดไม้ เคลียร์เส้นทาง และยังพบขยะขวดน้ำดื่ม กาแฟ ขนม จำนวนมาก รวมทั้งเพิงพักหลบฝน อีกทั้งตลอดเส้นทางเดินยาวร่วม 1 กิโลเมตร ก่อนจะข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนเส้นทางขึ้นอยู่ในพื้นที่ มีเจ้าหน้าที่รัฐหลายฝ่ายตามชายแดนผ่านไปมาตลอดเวลา กลับไม่มีใครรู้เห็น

หลังจากนั้น นายอำเภอควนโดน สั่งให้มีการทำลายเส้นทางลักลอบหลบหนีเคลื่อนย้ายสิ่งผิดกฎหมายทางธรรมชาติ โดยกำลังทหารนำลวดหนามหีบเพลงเข้าปิดช่องโหว่และเฝ้าเวรยามอย่างใกล้ชิด ซึ่งเชื่อว่าเส้นทางนี้มีการทำขึ้นหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ใช้ลำเลียงสิ่งเสพติด อีกทั้งเชื่อว่าเป็นเส้นทางค้ามนุษย์ในการข้ามไปเพื่อนบ้านได้ง่าย

ส่วนงานการข่าวยังพบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐบางคนเข้าไปเอี่ยวรู้เห็นการกระทำผิดในครั้งนี้ด้วย ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเข้มงวดและตรวจตราอย่างใกล้ชิดทุกช่องทางธรรมชาติ

นายพีรพัฒน์ เปิดเผยว่า ชาวบ้านได้แจ้งว่า การเปิดเส้นทางธรรมชาตินี้ เริ่มมีขึ้นหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย 1 เดือน หลังมีการรื้ออาคารร้านค้า พบว่า มีรถยนต์ 6 คัน รถจักรยาน 40 คัน มาจอดตี 3 และ 6 โมงเช้าบริเวณนี้ ซึ่งไม่มีร้านค้า ไม่มีสวนชาวบ้าน

เจ้าหน้าที่รัฐจึงได้พิกัดในการรื้อถอนการขึ้นลงทั้งหมด ทำให้การลำเลียงยากขึ้น แต่ขั้นตอนต่อไปต้องหาตัวการใหญ่ให้ได้ซึ่งได้รายงาน กอ.รมน.ในการเร่งดำเนินการต่อไป