นิวัติไชย แจง ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจยุบพรรค เผยจับตาปมไลน์หลุด พรรคเล็กรับกล้วยอยู่ แจงรอสอบข้อเท็จจริง ไม่เหมือนคดียืมนาฬิกาเพื่อน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 ก.ค.2565 ที่รัฐสภา นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีไลน์หลุด ประเด็นส.ส.กลุ่มพรรคเล็กรับเงินว่า ขณะนี้ป.ป.ช.ได้ให้สำนักการข่าวและกิจการพิเศษรวบรวมข้อมูลอยู่ ตั้งแต่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ป.ป.ช.ก็มีการตั้งวอร์รูมติดตามรับฟัง ว่ามีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นใดบ้าง รวมทั้งมีกระแสข่าวที่มีความต่อเนื่อง เช่น กรณีมีสลิปการโอนเงินหลุดออกมา เราก็มอนิเตอร์อยู่ และรวบรวมข้อเท็จจริงในประเด็นต่างๆ
หากถามว่าจะเสนอคณะกรรมการป.ป.ช. ได้เมื่อไหร่นั้น ต้องรอดูรายละเอียดข้อเท็จจริงที่จะต้องรวบรวมมาว่าจะต้องครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ และอยู่ในอำนาจหน้าที่ของป.ป.ช.หรือไม่
เมื่อถามว่าเรื่องดังกล่าวป.ป.ช.ดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคนมาร้องใช่หรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า ต้องดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เท่าที่ฟังจากข่าวเป็นการยืมเงิน เราต้องไปดูว่ายืมเงินจริงหรือไม่ ถ้ายืมเงินจริง เขาก็ไม่ได้ผิด แต่หากไม่ใช่กู้ยืม เป็นการให้ ก็จะเป็นอีกกรณีหนึ่ง ต้องดูว่าให้เพราะอะไร ถ้าให้เฉยๆ ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ ต้องดูกรอบกฎหมายเรื่องการรับทรัพย์สินเกินกว่า 3,000 บาท เพราะคณะกรรมการป.ป.ช.ประกาศและส.ส. เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายนี้
นายนิวัติไชย กล่าวต่อว่า หากจะรับเงินเกินกว่า 3,000 บาท ต้องรายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อทราบและอนุญาตเพื่อถือครองทรัพย์สินนั้นได้ แต่ถ้าเกิดให้เพื่อจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ อาจเป็นกรณีการรับหรือมีการเรียกรับไว้ เพื่อกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งในตำแหน่ง ต้องไปดูว่า ส.ส. มีหน้าที่ลงคะแนนเสียงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ หรือมีหน้าที่พิจารณาผ่านร่างกฎหมายต่างๆ
ดังนั้น หากไปรับเงินโดยมีมูลเหตุจูงใจ ก็อาจเข้าข่ายความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ได้ ซึ่งต้องดูเป็นกรณีไป นอกจากนี้ ยังมีความผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ ซึ่งต้องพิจารณาดูอีกครั้ง ส่วนข้อเท็จจริงตอนนี้เท่าที่ทราบเป็นการยืมเงินเฉยๆ หากยืมเงินเฉยๆ ก็ยังไม่ต้องหยิบยกอะไรมาพิจารณา
เมื่อถามว่าแชทไลน์หลุดถือเป็นหลักฐานหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า ถือเป็นหลักฐานชิ้นหนึ่งที่ใช้พิจารณาได้ แต่เราต้องมีการรวบรวมประเด็นในการพิจารณาก่อน ต้องตรวจสอบว่าเป็นการกู้ยืมหรือการให้ อย่างไรก็ตาม เราต้องเคลียร์ประเด็นนี้ก่อน
เมื่อถามว่าสังคมมองว่าคดีนี้ ท้ายที่สุดจะเหมือนคดียืมนาฬิกาเพื่อน นายนิวัติไชย กล่าวว่า คงไม่เหมือนกัน เพราะคดีนั้นมีการวินิจฉัยที่ชัดเจนแล้ว ฉะนั้น บรรทัดฐานในเรื่องนี้ต่างกัน เรื่องการยืมนาฬิกาเพื่อนก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่ถ้าเป็นเรื่องการให้ มันแตกต่างกัน
เมื่อถามย้ำว่ากลุ่มพรรคเล็กชี้แจงยืนยันประเด็นไลน์หลุดว่าเป็นการยืมเงินกัน นายนิวัติไชย กล่าวว่า การให้มีหลายแบบ เช่น การให้แบบให้ไปเลย ให้รถยนต์ ให้เงิน แต่หากให้กู้ก็จะมีเรื่องผลประโยชน์ตอบแทนมา ส่วนนี้จะเป็นไปเพื่อประโยช์ทางพาณิชย์หรือประโยชน์ของตัวผู้ให้กู้และตัวผู้กู้เอง ซึ่งจะต้องมีการตกลงเป็นข้อสัญญา ซึ่งก็แล้วแต่กรณีต้องมีการแยกแยะให้ชัดเจนก่อน จะมาเหมารวมไม่ได้ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกคน
เมื่อถามว่าหากกรณีผิดทั้งผู้ให้และผู้รับจะเป็นอย่างไร นายนิวัติไชย กล่าวว่า ปัญหามีอยู่ว่าผู้ให้ ให้เพื่ออะไร เช่น ให้เพื่อจูงใจ ให้เขาปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติในหน้าที่แบบนี้ ผู้ให้ถือว่าผิด ถือเป็นการติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ให้ถือว่าผิด เพราะมีผลประโยชน์แอบแฝง มีมูลเหตุจูงใจว่าจะให้เขากระทำอะไร เช่น เพื่อให้เขาออกใบอนุญาตให้ ซึ่งแบบนี้ก็จะผิดทั้งผู้ให้และผู้รับ แต่ความผิดจะแตกต่างกันเพราะใช้กฎหมายคนละมาตรา
เมื่อถามว่าเรื่องดังกล่าวจะนำไปสู่การขยายผลเพื่อยุบพรรคได้หรือไม่ นายนิวัติไชย ตนไม่ขอก้าวล่วงไปถึงเรื่องยุบพรรค เพราะไม่ใช้อำนาจหน้าที่ของป.ป.ช. แต่ความผิดทุกอย่าง ถ้าป.ป.ช.วินิจฉัยแล้ว จะส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กกต. เพื่อให้เขารู้เป็นฐานข้อมูล ส่วนการดำเนินการจะเป็นอย่างไร เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของกกต. ถ้าผลถึงขนาดนั้น แต่วันนี้ผลยังไม่ถึงขนาดนั้น