เมื่อวันที่ 3 ต.ค.64 ที่ผ่านมา บริเวณหน้าที่ทำการสายตรวจคลองแม่ลาย ต.คลองแม่ลาย อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ขณะที่ชาวบ้านที่กำลังจับจ่ายซื้อของหน้าตลาดกันอยู่ ต่างตื่นตกใจเหตุชุลมุนที่เกิดขึ้น เมื่อมีชายคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากร้านสะดวกซื้อ และตรงเข้าขวางหน้ารถยนต์เก๋งสีขาว
ซึ่งภายในรถคันนั้น มีหญิงสาวคนและเพื่อนสาวนั่งมาด้วยกัน ชายคนดังกล่าวที่เข้ามาขวาง ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแต่อย่างใด ตำรวจที่ประจำการอยู่ภายในป้อมเห็นเหตุการณ์ ได้เข้าไปห้ามปรามและแจ้งให้หยุดรถ เนื่องจากเกรงจะเกิดอันตรายได้ หลังจากนั้นจึงเข้าสอบถามถึงกรณีที่เกิดขึ้น
ทราบชื่อชายที่เข้าไปขวางรถ คือ นายธนสิทธิ์ อายุ 59 ปี ชาว ต.ไตรตรึงษ์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เขาเล่าว่า หญิงสาวที่ขับรถนั้น คือ แฟนสาวของตน อายุ 27 ปี ทั้งเขาและเธอเดินทางมาจากบ้าน หลังจากที่แฟนสาว ได้โทรศัพท์นัดหมายว่าจะมาหาตนในวันนี้ ต่อมาจึงได้ชักชวนกันมาหาซื้อของกินกันที่ร้านสะดวกซื้อ บริเวณตลาดคลองแม่ลาย ซึ่งก่อนหน้านั้นตนก็นั่งรถมาด้วยกันตามปกติไม่มีปัญหาอะไร แต่พอมาถึงที่ร้านสะดวกซื้อ แฟนสาวให้ตนลงไปซื้อของตามลำพัง พอตนกำลังจะเดินเข้ามาในร้านก็สังเกตุเห็นว่า แฟนได้ค่อยๆขับรถออกจากที่จอด เมื่อเห็นดังนั้น ตนจึงกระโดดเข้าขวางหน้ารถยนต์ไว้ แต่แฟนก็ยังไม่ยอมหยุด จนรถเคลื่อนมาถึงหน้าที่ทำการสายตรวจและมีเจ้าหน้าตำรวจออกมาห้ามปรามไว้
บรรยากาศการเจรจา ระหว่างนายธนสิทธิ์และแฟนสาวเป็นไปอย่างตึงเครียด ท่ามกลางชาวบ้านที่ยืนดูเหตุการณ์จำนวนมาก
“ไหนว่าจะมาหาพี่ แล้วจะหนีพี่ทำไม รถก็ซื้อให้ เอาจำนำก็ไปเอาออกมาให้ 50,000 บาท เมื่อปีที่แล้วขอให้ซื้อรถยนต์ และทองคำให้เพื่อไว้เป็นของหมั้นตนก็ซื้อให้ กำหนดเดือน 6 ปีที่แล้ว ว่าจะทำพิธีผูกแขนแต่งงานกัน แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยง หลบหน้าตามาโดยตลอด ซึ่งทุกครั้งที่หายหน้าไปก็จะให้ตนโอนเงินไปให้ตลอด ซึ่งตนโดนหลอกมาโดยตลอด ให้ตนโอนเงินให้อย่างเดียว รถยนต์คันนี้ตนก็ซื้อให้เป็นเงินสดในราคา 170,000 บาท นำเอาไปให้กับพ่อฝ่ายหญิง และให้เป็นชื่อของฝ่ายหญิง เพื่อความสบายใจ คบหากันมากว่า 1 ปีแล้ว แต่ฝ่ายหญิงไปๆมาๆ คือนานๆจะมาสักครั้ง ซึ่งเรื่องเงินตนจะโอนให้ตลอดหากมีการร้องขอมา ช้ำใจมากที่ทำแบบนี้” นายธนสิทธิ์ กล่าว และขอให้แฟนสาวลงจากรถเพื่อมาคุยกันดีๆ แต่เธอก็ไม่ยอมลง
ตำรวจจึงได้เชิญตัวทั้ง 2 คน ไปที่ สถานีตำรวจเมืองกำแพงเพชร แฟนสาวจึงยอมเปิดใจว่า ที่ผ่านมาเธอยอมรับว่านายธนสิทธิ์ เป็นคนที่ดูแลตนมาเป็นอย่างดี เปรียบเสมือนหัวหน้าครอบครัว แต่ว่านายธนสิทธิ์ เป็นคนโมโหร้าย รุนแรง เธอไม่คิดว่าจะมาอยู่ตั้งหลักปักฐานกับเขา และในวันนี้คิดจะหนีจริงๆ เพราะเขาจะให้เธออยู่กับเขาเลยไม่ให้ไปไหน ที่ผ่านมานานๆครั้งที่เธอจะมาหาเขา ซึ่งตัวเขาเองก็มีเด็กที่เลี้ยงไว้เยอะ ยังเคยคุยว่าโอนไปให้คนโน้นคนนี้ ส่วนที่เขาให้เงินเธอ เธอก็เอา และเรื่องรถยนต์เธอคงไม่คืนให้เพราะสิ่งที่เธอเสียไปมันมากกว่า และที่สำคัญ เขาได้โอนรถยนต์คันนี้เป็นชื่อเธอแล้ว สรุปคือจะไม่หวนไปหาเขาอีก
ความคืบหน้า ล่าสุด วันนี้ (5 ต.ค.64) นายธนสิทธิ์ เปิดใจด้วยสีหน้าท่าทางเศร้า กึ่งจะร้องไห้ว่า รู้สึกเสียใจมากที่ทุ่มเทไปมากมาย ไม่อยากอยู่ด้วยกันตนก็ไม่ว่าอะไร ตอนนี้ตนรู้สึกเข็ดกับชีวิตที่ผ่านมา ตนจะตั้งหน้าทำงานของตนต่อไป คือ เพาะหน่อกล้วยจำหน่าย ตนจะไม่สนใจอีกแล้ว รายได้ของตนได้วันละ 2,000-3,000 บาท เป็นธรรมดาก็จะมีผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวพันเป็นจำนวนมากตนเข็ดแล้วจริงๆ ในวันนี้ตนได้รับโทรศัพท์จากทางธนาคารที่ตนได้ทำเรื่องกู้ไว้จำนวน 3 แสนบาท ซึ่งผู้หญิงคนนี้ก็ทราบดี ไม่ทราบว่าจะย้อนกลับมาหาตนอีกหรือไม่ ส่วนตัวตนจะไม่ยุ่งอีกแล้ว