ป้าเปิดใจ ตัดกล้วยในที่ตัวเอง กลับถูกจับนอนคุก 2 คืน ตำรวจโร่แจง

Home » ป้าเปิดใจ ตัดกล้วยในที่ตัวเอง กลับถูกจับนอนคุก 2 คืน ตำรวจโร่แจง


ป้าเปิดใจ ตัดกล้วยในที่ตัวเอง กลับถูกจับนอนคุก 2 คืน ตำรวจโร่แจง

ป้าเปิดใจ ตัดกล้วยในที่ตัวเอง กลับถูกจับนอนคุก 2 คืน ตำรวจโร่แจงเหตุถูกจับ ไม่มาตามหมายเรียก 2 ครั้ง จึงถูกออกหมายจับ

จากกรณี นางดอกไม้ ยอดรัก อายุ 73 ปี และ นางกุสุมา อ่วมคุ้ม อายุ 55 ปี ชาว อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เดินทางมาที่นำเนียบรัฐบาล และร้องเพจสายไหมต้องรอด เรื่องข้อพิพาทกับเพื่อนข้างบ้าน ถูกกล่าวหาว่าไปตัดต้นกล้วยของเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน จนเรื่องบานปลาย ถึงขั้นขึ้นโรงพักแจ้งความดำเนินคดีกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่กลายเป็นว่า ทางฝั่งของ นางกุสุมา และ นางดอกไม้ ต้องไปนอนคุกที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ถึง 2 คืน

ล่าสุดวันที่ 9 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่บ้านยางโทน ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ บ้านของ นางดอกไม้ และ นางกุสุมา สองแม่ลูก ก่อนพาไปดูต้นกล้วยที่มีปัญหา พบว่า อยู่ในพื้นที่บ้านของ นางกุสุมา และต้นกล้วยดังกล่าว แต่เดิมถูกตัดทิ้งไปแล้ว แต่ขณะนี้ได้มีหน่อกล้วยผุดขึ้นมาใหม่ ซึ่ง นางกุสุมา ยืนยันว่า กล้วยต้นนี้เป็นคนปลูกเอง และก็อยู่ในอาณาเขตบ้านของตนด้วย แต่ทำไมถึงต้องเป็นฝ่ายผิดไปนอนคุกถึง 2 คืน

นางกุสุมา เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องไปร้องขอความเป็นธรรมเพราะต้องนอนคุกถึง 2 คืน แถมยังถูกเจ้าหน้าที่รัฐคุกคาม โดยเฉพาะ อบต. ที่ไปแจ้งความไล่ให้ตนและครอบครัวออกจากพื้นที่ แม่ก็ชรา ตนก็ป่วย แต่ถูกคุกคามกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่รัฐมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 50 จนกระทั่งมามีปัญหากับเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน ก็ถูกกลั่นแกล้งหนักเข้าไปอีก หวังจะให้ตนเข้าคุกให้ได้

และก่อนหน้านี้ ตนเคยไปแจ้งความร้องเรียนทั้งเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาบุกรุกกลั่นแกล้ง รวมถึงแจ้งความเอาเรื่องเพื่อนบ้านที่มาทำร้าย แต่ตำรวจก็ไม่มีการดำเนินการอะไรเลย กลับกลายเป็นว่ามาดำเนินคดีกับตน แถมยังมาไล่ที่ตนเพียงฝ่ายเดียว แต่ฝ่ายเพื่อนบ้านไม่โดนอะไรสักอย่าง ทั้งที่ต้นกล้วยก็ของตน จะตัดทิ้งมันก็สิทธิ์ของตน แต่เพื่อนบ้านกลับอ้างหน้าตาเฉยว่าเป็นต้นกล้วยของเขา และตำรวจก็เชื่อมาจับตนไปนอนคุกถึง 2 คืน

เมื่อถามถึงกรณีที่มีเพื่อนบ้านหลายคนกล่าวหาว่าบ้านของ นางกุสุมา ชอบไปเอะอะโวยวาย และไปต่อว่าใครต่อใครในละแวกแถวบ้าน นางกุสุมา ยืนยันว่า เรื่องจริง แต่ก็จะว่ากับคนที่ไม่ดีกับบ้านตนเท่านั้น แต่กับคนอื่นที่เขาดีด้วย ตนไม่เคยด่าว่าร้ายเลย ส่วนบ้านที่อยู่ตอนนี้ เดิมเป็นที่รกร้างว่างเปล่า เป็นสาธารณประโยชน์ ไม่มีโฉนด ซึ่งครอบครัวตนก็ย้ายมาจับจองสร้างบ้านกว่า 30 ปีแล้ว ซึ่งหลายๆ คนที่ย้ายมาก็อาศัยอยู่ในที่หลวงกันแทบทั้งสิ้น แต่กลับไม่ถูกไล่ มีแต่ครอบครัวตนที่โดนไล่ แบบนี้มันไม่ยุติธรรมแล้วหรือ ฝากไปยังหน่วยงานที่สามารถให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวตน โปรดมาช่วยด้วย

จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.สุทัศน์ ม่วงสุข สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองนครสวรรค์ เจ้าของคดี โดยเปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ นายชำนาญ เพื่อนบ้านของ นางกุสุมา ได้มาที่โรงพัก เพื่อให้ลงบันทึกประจำวันว่า นางกุสุมา ไปตัดต้นกล้วยของเขา แต่ไม่ประสงค์จะเอาเรื่อง ต้องการให้ตำรวจไปช่วยไกล่เกลี่ย เนื่องจากที่ผ่านมา นางกุสุมา มักจะชอบหาเรื่องไปด่าว่าทางฝั่งของ นายชำนาญ อยู่เป็นประจำ

ประกอบกับในตอนนั้น ทาง อบต.นครสวรรค์ตก เคยแจ้งความ นางกุสุมา บุกรุกที่ด้วยด้วย จึงทำให้ตนต้องไปกับทางรอง นายก อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และฝ่ายปกครอง เพื่อพูดคุยเจรจากับ นางกุสุมา แต่เมื่อไปถึงปรากฏว่า นางกุสุมา เกิดมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับ นายชำนาญ จึงต้องห้ามกันวุ่นวาย ตนยืนยันว่าวันนั้น ไม่มีใครไปทำร้ายซ้ำเติม นางกุสุมา เลย

เมื่อถามถึงกรณีที่ นางกุสุมา ระบุว่า ต้นกล้วยเป็นของเขาและก็ปลูกในที่ตนเอง แต่พอไปตัดทำไมถึงต้องติดคุก พ.ต.ท.สุทัศน์ กล่าวว่า หลังจากที่ นางกุสุมา มีเรื่องมีกับ นายชำนาญ ปรากฏว่า นางกุสุมาเดินทางมาแจ้งความถูกทำร้ายร่างกาย จึงทำให้ นายชำนาญ ก็มาแจ้งความกลับ ฐานทำร้ายร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์เช่นกัน โดยเจ้าตัวยืนยันว่า เขาเป็นเจ้าของต้นกล้วย ซึ่งในส่วนคดี ตนก็อยู่ในเหตุการณ์ เห็นหมดทุกอย่างว่า นายชำนาญ ไม่ได้เข้าข่ายทำร้ายร่างกาย มีแต่ นางกุสุมา ที่เดินปรี่เข้าใส่ นายชำนาญ ฝ่ายเดียว

ส่วนเรื่องที่ทำให้ นางกุสุมา ต้องนอนคุก เนื่องจากถูก นายชำนาญ แจ้งความทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งตนก็มีหมายเรียกให้ นางกุสุมา นำหลักฐานมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้ง 2 ครั้ง แต่เจ้าตัวไม่ยอมมาว่าเป็นเจ้าของต้นกล้วย เมื่อโดนหมายเรียกถึง 2 ครั้งไม่มา จึงโดนหมายจับ

ตอนออกหมายจับ ตนก็ไม่ได้ไปรีบตามจับ กระทั่ง นางกุสุมา เดินทางมาที่โรงพัก เพื่อแจ้งความว่าถูกเจ้าหน้าที่ประปาหมู่บ้านกลั่นแกล้งปล่อยน้ำไปขังบ้าน ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่ นางกุสุมา มีหมายจับติดตัว จึงโดนจับบนโรงพักทันที และวันที่จับก็เป็นวันเสาร์ ติดวันหยุดราชการ จึงทำให้ส่งฟ้องศาลไม่ได้ เลยต้องนอนอยู่ในห้องขัง 2 คืน รอจนถึงวันจันทร์ ถึงส่งฟ้องศาล

เมื่อถามเรื่องถูกไล่ที่ พ.ต.ท.สุทัศน์ กล่าวว่า ทาง อบต.ได้มาแจ้งความไว้นานแล้ว อยู่ระหว่างไกล่เกลี่ย ต้องอธิบายก่อนว่าเป็นที่สาธารณะ อยู่ในความรับผิดชอบของ อบต. และที่บ้านของ นางกุสุมา อยู่ในบริเวณของการประปาหมู่บ้าน อบต. ซึ่งทาง อบต.ต้องการเรียนคืน แต่ไม่รู้จะดำเนินการพัฒนาที่ดินเป็นอะไร แต่ทราบเพียงว่า ที่ผ่านมา นางกุสุมา มักจะมาร้องเรียนในเรื่องของน้ำที่ระบายออกจากประปาหมู่บ้านมาขังอยู่ในที่บ้านของ นางกุสุมา เสมอ ซึ่งเรื่องนี้ ต้องให้ทางฝ่าย อบต.ชี้แจงเอง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ