ป้าวัย 58 ปี ร้องสื่อ ถูกแจ้งตายโดยไม่ทราบสาเหตุ คาดลูกชายเป็นคนแจ้ง หลังเลิกรากับอดีตสามีมานานกว่า 40 ปี 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (7 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องขอความช่วยเหลือจาก นางทองเย็น หิรัญเพิ่ม อายุ 58 ปี อยู่ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่า ตนเองกำลังกังวลใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่สมาชิกในบ้านจำนวน 5 คน ล้มป่วยติดเชื้อโควิด-19 ไปแล้ว 4 คน เป็นพี่สาว น้องชาย และหลานอีก 2 คน

ส่วนตนเองซึ่งเป็นคนสุดท้ายของบ้าน เริ่มมีอาการบ้างแต่ยังไม่ถึงขั้นล้มป่วย ทำให้ต้องกักตัวอยู่บ้านตามลำพังเพียงคนเดียวในตอนนี้ เนื่องจากบัตรประชาชนรุ่นเก่าแบบที่กระดาษรูปถ่ายขาวดำของตนเองหมดอายุมานานแล้ว ปรากฏว่าหลังคนในครอบครัวทั้ง 4 ราย ซึ่งตรวจพบเชื้อโควิดถูกนำส่งไปรักษาตัวแล้ว

แต่ตนเองซึ่งมีแต่บัตรประชาชนรุ่นเก่าและบัตรก็หายไปนานแล้ว เมื่อไปตรวจสอบสิทธิ์ที่จะขอเข้ารับการรักษาตัว ก็พบว่าชื่อของตนในทะเบียนราษฎร์ถูกแจ้งว่าเสียชีวิตไปแล้ว ทั้งๆ ที่ตนยังคงมีชีวิตอยู่

สร้างงงงวยให้กับตนเป็นอย่างมาก ทำให้ตนเองไม่มีสิทธิ์เข้ารับการรักษาตามสวัสดิการต่าง ๆ ปัจจุบันตนทำได้เพียงแค่กักตัวรักษาตัวที่บ้านเท่านั้น โดยมีเจ้าหน้าที่มาส่งอาหารและยารักษาโรคให้ 

นางทองเย็น กล่าวอีกว่า พื้นเพเดิมตนเป็นคนจังหวัดปราจีนบุรี เข้ามาทำงานอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ จนได้สามีคือนายผดุง จำนามสกุลไม่ได้ เป็นชาวจังหวัดพิษณุโลก จากนั้นต่อมาได้ย้ายรกรากไปอยู่ที่บ้านสามีที่จังหวัดพิษณุโลก โดยสามีเป็นคนทำเรื่องย้ายชื่อของตนเข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านเขาตอนที่ตนตั้งท้องลูกชายคนแรก

แต่ต่อมาตนกับสามีได้แยกทางกัน ตนจึงหนีกลับมาอยู่อาศัยที่จังหวัดนนทบุรี โดยที่ลูกชายอยู่กับนายผดุง จนเหตุการณ์ผ่านมานานเกือบ 40 ปี จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกับนายผดุงและลูกชายมาอีกเลย

จนกระทั่งเมื่อตนไปแจ้งชื่อเพื่อจะขอใช้สิทธิ์รักษาตัว ก็พบว่าชื่อในสำนักทะเบียนราษฎร์ของตน ถูกแจ้งเสียชีวิตไปแล้ว โดยไม่ทราบว่าใครเป็นคนแจ้ง อาจจะเป็นลูกชายที่ตนเองทิ้งเขามาก็ได้

เมื่อเขาเห็นว่าตนหายไปนานมาก ไม่มีการติดต่อกลับไปหาลูกชายเลย เขาอาจจะเข้าใจผิดหรือคิดไปเองว่าตนเองได้เสียชีวิตไปแล้ว เขาจึงไปแจ้งตายเพื่อคัดชื่อออกจากทะเบียนบ้านของพ่อเขา แต่ตนไม่ได้โกรธหรือโทษใคร ทุกอย่างเป็นความผิดของตน ตนยอมรับ

นางทองเย็น กล่าวอีกว่า ระหว่างที่ต้องกักตัวอยู่บ้านเพียงคนเดียวนั้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีตัวแทนของนายมนตรี ตั้งเจริญถาวร ส.ส.นนทบุรี ที่ทราบข่าวได้เดินทางนำข้าวสาร อาหาร น้ำดื่ม จำนวนหนึ่งมามอบให้กับตนเพื่อใช้ประทังชีวิต

ซึ่งตนก็ได้ฝากเรื่องให้ทาง ส.ส.นนทบุรี ช่วยเหลือตนในเรื่องการแก้ไขสถานะในทะเบียนราษฎร์ให้กับตนกลับมามีสิทธิ มีบัตรประชาชนตามเดิม มีเลข 13 หลัก เพื่อเข้าถึงสิทธิในการเข้ารับการรักษาตัวตามสิทธิต่างๆ ต่อไป