ป้าวัย 51 ปี ชาว อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เครียดจัด ไปค้ำประกันเงินกู้รายวันให้กับเพื่อน แต่เพื่อนหนีหน้าไม่สนใจ ถูกแก๊งเงินกู้ขู่ ถือมีดจับหลานคนกู้ วัย 7 ขวบ มาเป็นตัวประกัน ให้มาใช้หนี้ คนกู้โผล่รับสารภาพ กู้เงินไปเล่นการพนัน

วันที่ 15 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น.ได้รับแจ้งมีคนคุ้มคลั่ง ใช้มีดดาบจับตัวเด็กชายวัย 7 ปี ไปขังไว้ในบ้านเพื่อเป็นตัวประกัน สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก เมื่อผู้สื่อข่าวไปถึง พบว่าเด็กได้ถูกปล่อยออกมาแล้วในสภาพมีบาดแผลถูกของมีคมบริเวณนิ้วโป้งซ้าย ชาวบ้านช่วยปฐมพยาบาลไว้เบื้องต้น ซึ่งจากการสอบถาม

ด.ช.เอ (นามสมมุติ)อายุ 7 ขวบ เล่าว่า ตอนนั้นกำลังนั่งเล่นอยู่หน้าบ้านยาย ได้มียายทัศน์ ชาวบ้านในหมู่บ้านเดินเข้ามาชวนไปซื้อขนม พร้อมกับจูงมือไป ตนดีใจจะได้กินขนม จึงเดินตาม แต่กลับไม่ได้กินขนมอย่างที่คิด ยายทัศน์ ลากไปที่บ้าน แล้วพยายามข่มขู่ให้เงียบ จากนั้นยายทัศน์ ได้โทรศัพท์หายายของตัวเองด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ก่อนจะเอามีดดาบมาจ่อคอ ตนรู้สึกกลัวจึงสะบัดออก จนมีดบาดมือที่นิ้วมือ ยอมรับว่ากลัวมาก จึงบอกยายว่า “ผมขอโทษครับ จะให้ผมทำอะไร ให้บอก” ก่อนที่ไม่นานจะมีเจ้าหน้าที่มาช่วยตนออกมาได้

สอบถาม นางสุทัศน์ อายุ 51 ปี ชาว ต.หินลาด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ คนอุ้มเด็กเป็นตัวประกัน เล่าว่า ยอมรับว่าทำกับเด็กจริง เพราะเครียดมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้ไปกู้เงินรายวัน และค้ำประกันเงินกู้รายวันให้กับนางจันทร์เพ็ญ อายุ 48 ปี เพื่อนในหมู่บ้านเดียวกัน โดยแต่ละคนจะต้องจ่ายรายวันคนละประมาณ 3,000 บาทต่อวัน

ตนมีอาชีพขายน้ำดื่ม พอมีเงินจ่ายรายวันได้ ต่อมานางจันทร์เพ็ญ หนีหน้าออกไปจากหมู่บ้าน ไม่ยอมจ่ายรายวัน ทำให้แก๊งเงินกู้ มาบีบให้ตนจ่ายหนี้แทน พอติดต่อนางจันทร์เพ็ญ แต่กลับได้รับคำตอบว่า “ให้จ่ายแทนไปก่อน” ตนก็ยอม แต่หลายวันเข้า ตนจ่ายไม่ไหว แล้วติดต่อนางจันทร์เพ็ญไม่ได้ ยอมรับไม่มีทางออก จึงไปจับหลานนางจันทร์เพ็ญ มาเป็นตัวประกัน เพื่อต่อรองให้นางจันทร์เพ็ญออกมารับผิดชอบหนี้ที่ก่อไว้ ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้

ด้านนางจันทร์เพ็ญ ตองติดรัมย์ ผู้ถูกพาดพิง ได้ออกมาระบุว่า ได้ไปกู้เงินและค้ำประกันเงินกู้รายวันจริง แต่หมุนเงินไม่ทัน ยอมรับว่าเงินที่กู้มาเอามาเล่นการพนัน แต่เสียเป็นส่วนใหญ่ จึงจำเป็นต้องหลบหน้า แต่ไม่คิดว่าคนค้ำประกันถึงต้องไปจับหลานมาเป็นตัวประกัน เพราะมันรุนแรงเกินไป