ป่าไม้ นำเจ้าหน้าที่บุกตรวจสอบที่ดิน สมปอง กว่า 300 ไร่ ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ พบนอมินี 2 แปลง เร่งตรวจสอบส่วนที่เหลือยังไม่ทราบชื่อผู้ครอบครอง
จากกรณี นายสมปอง นครไธสง กว้านซื้อที่ดิน ส.ป.ก. ในท้องที่ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ กว่า 300 ไร่ เพื่อปลูกยางพารา หรือให้ญาติถือครองที่ดินแทน ต่อมาสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้ทำการตรวจสอบพบที่ดินส่วนใหญ่อยู่นอกเขตดำเนินการปฏิรูปที่ดิน และมีเพียง 1 แปลง เนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ ที่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน และเกษตรกรผู้ซึ่งได้รับอนุญาตฯ ยังคงทำประโยชน์ในที่ดินด้วยตนเองโดยการปลูกหมากและมะพร้าว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : ส.ป.ก. แจงแล้ว! ปม สมปอง ซื้อที่ดิน300ไร่ พบ 1แปลงอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน
ล่าสุดวันที่ 9 ก.พ.2565 นายดุสิต กมลพาณิชย์ ผอ.ศูนย์ป่าไม้ชัยภูมิ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบที่ดินของ นายสมปอง ที่ระบุว่ามีการกว้านซื้อที่ดินกว่า 300 ไร่ บริเวณรอยต่อเขต ส.ป.ก. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว และเขตป่าสงวนแห่งชาติ ในอ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ว่า ผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรจัดการป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินของนายสมปองวันนี้ พบว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวเดิมสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) เคยประกาศเป็นเขต ส.ป.ก. แต่สภาพไม่เหมาะกับการทำเกษตรกรรม จึงส่งมอบพื้นที่คืนให้กรมป่าไม้
นายดุสิต กล่าวต่อว่า ซึ่งเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่ดินบริเวณดังกล่าวแล้ว ซึ่งมีพื้นที่รวมทั้งหมด 67 แปลง ที่อยู่ในความรับผิดชอบของป่าไม้ โดยตรวจไปแล้ว 10 แปลง เนื้อที่กว่า 200 ไร่ พบอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูซำผักหนาม อ.คอนสาร ทั้งทั้งหมด 200 ไร่ ส่วนที่เหลือจะตรวจสอบต่อในวันนี้ซึ่งบางส่วนอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนฯ ที่เตรียมการประกาศเป็นพื้นที่จัดสรรที่ทำกิน ตามนโยบายคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ให้ราษฎรไร้ที่ดินทำกินด้วย
นายดุสิต กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม หากมีการตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดแล้ว จะให้เจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความหาผู้กระทำผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้แห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ อ่านข่าว : ‘ทิดสมปอง’ อ่วม! กรมป่าไม้ ชี้ขาดที่ดิน รุกป่าสงวน 200 กว่าไร่ เตรียมแจ้งเอาผิด
นายดุสิต กล่าวด้วยว่า ในส่วนที่ทำการตรวจสอบจำนวน 10 แปลง จากการตรวจสอบพบว่าเป็นแปลงที่ นางตาล นครไธสงค์ เป็นผู้ครอบครองจำนวน 2 แปลง ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย 1 แปลง 5 ไร่ ส่วนอีก 1 แปลงเป็นพื้นที่ปลูกยางพารา 16 ไร่ ส่วนที่เหลือยังไม่ทราบชื่อผู้ครอบครอง ซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบสวนให้ชัดเจนต่อไป