ภายหลังที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวตอนหนึ่งในการให้สัมภาษณ์ต่อเครือข่ายสถานีโทรทัศน์เอบีซีนิวส์ โดยอ้างข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย มีส่วนเกี่ยวข้องในการวางยาพิษอเล็กซี นาวัลนี อดีตผู้นำฝ่ายค้านคู่อริผู้นำหมีขาว โดยพิธีกรผู้สัมภาษณ์ถามไบเดนว่า มองปูตินเป็น “ฆาตกร” ผู้วางยานาวัลนีหรือไม่ ไบเดน ตอบว่า “ใช่ ผมคิดเช่นนั้น”
- รัสเซียยัวะ! เรียกทูตกลับประเทศ หลัง “ไบเดน” กล่าวหา “ปูติน” เป็นฆาตกร
ขณะเดียวกันไบเดน ยังกล่าวอ้างข้อมูลจากฝ่ายความมั่นคงอีกว่า รัสเซียมีส่วนในความพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ที่จะเป็นประโยชน์ในประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะเลือกตั้งสมัยที่ 2 ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า “รัสเซียจะต้องชดใช้ ที่พยายามบั่นทอนการเลือกตั้ง อีกไม่นานจะได้เห็นกัน”
เพียงไม่นานหลังไบเดนกล่าวให้สัมภาษณ์ รัฐบาลมอสโกได้เรียกตัว อนาโตลี อันโตนอฟ เอกอัครราชทูตประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เดินทางกลับประเทศทันที โดยรัสเซียระบุว่า “เพื่อทบทวนและหารือถึงทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับสหรัฐฯ และวิเคราะห์ว่าจะมีมาตรการใดต่อไป”
เรื่องดังกล่าวส่งผลให้ด้านประธานาธิบดีปูติน ออกมาตอบโต้ผู้นำสหรัฐฯ จากการที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรมีส่วนเกี่ยวข้องลอบวางยาพิษนาวัลนี โดยปูตินกล่าวว่า เขาต้องการเชิญประธานาธิบดีโจ ไบเดน หารือผ่านวิดีโอคอรเฟอเรนซ์เพื่อหารือความสัมพันธ์แบบทวิภาคี
“ผมอยากเชิญท่านประธานาธิบดีไบเดนหารือเรื่องของเรา ผ่านการประชุมออนไลน์ อาจจัดขึ้นเร็วๆนี้ในวันศุกร์หรือวันจันทร์ แล้วแต่ทำเนียบขาวจะสะดวก”
ผู้นำรัสเซียยังกล่าวถึง กรณีที่ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวหาเป็นฆาตกรโดยแนะว่า เราควรคุยแบบตัวต่อตัวอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชนอย่างเร่งด่วนเนื่องจากคำพูดของไบเดนเป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งของประชาชนชาวรัสเซียและชาวสหรัฐฯ เพราะเรื่องนี้ทำให้ความสัมพันธ์สองชาติสั่นคลอนอีกครั้ง
ปูตินย้อนเกล็ดผู้นำสหรัฐฯ กรณีเป็นฆาตกรว่า “เขาก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน” ผู้นำรัสเซียย้อนถามไบเดนว่าในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ มีการปฏิบัติต่อกลุ่มชาติพันธุ์ชาวอินเดียนแดง และคนเชื้อสายแอฟริกันอย่างไร รวมไปถึงกรณีสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งกองทัพสหรัฐฯ ทิ้งระเบิดปรมาณู 2 ลูกใส่ญี่ปุ่นนั้น ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า “พวกเขา (สหรัฐ) คิดว่าเราเป็นเหมือนกัน แต่แท้จริงพวกเราต่างกัน เพราะเรามีรหัสพันธุกรรมทางวัฒนธรรม และศีลธรรมที่ไม่เหมือนพวกเขา”
ประธานาธิบดีรัสเซียยังกล่าวทิ้งท้ายอวยพรถึงผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งมีอายุ 78 ปีแล้วว่า “ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง” พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลมอสโกมีความพร้อมและยินดีร่วมมือกับวอชิงตัน บนพื้นฐานของการรักษาผลประโยชน์สูงสุดให้กับสองฝ่าย
ทั้งนี้ ด้านเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว ระบุในการแถลงประจำวันว่า ประธานาธิบดีไบเดนไม่ได้เสียใจที่มองปูตินเป็นฆาตกร ทั้งกล่าวถึงการที่มอสโกเรียกร้องพูดคุยหารือแบบตัวต่อตัวว่า ผู้นำทั้งสองชาติเคยหารือทางโทรศัพท์ก่อนหน้านี้แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องพูดคุยหารือกันอีกในเร็วๆ นี้