ปุ้ย TPN เผยความพร้อม แอนนา ทำได้เต็มที่ ลงศึกชิงมงใหญ่ มิสยูฯ

Home » ปุ้ย TPN เผยความพร้อม แอนนา ทำได้เต็มที่ ลงศึกชิงมงใหญ่ มิสยูฯ


ปุ้ย TPN เผยความพร้อม แอนนา ทำได้เต็มที่ ลงศึกชิงมงใหญ่ มิสยูฯ

ปุ้ย TPN เผยความพร้อม แอนนา ทำได้เต็มที่ ลงศึกชิงมงใหญ่ มิสยูฯ – เชื่อ เงื่อนไขใหม่ แอน จักรพงษ์ สนับสนุนความเท่าเทียมในสังคม

ปุ้ย TPN เผยความพร้อม แอนนา / เป็นที่ฮือฮาในวงการประกวดสาวงาม เมื่อ ‘แอน’ จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ เข้าซื้อกิจการ พร้อมประกาศตัวเป็นเจ้าของเวทีมิสยูนิเวิร์ส 100 เปอร์เซ็นต์ และเตรียมออกเงื่อนไขใหม่ ที่อนุญาตให้ผู้หญิงข้ามเพศและผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว สามารถมาสมัครประชันความงามได้ เพื่อเป็นการสนับสนุนความเท่าเทียมในสังคม

ปุ้ย TPN เผยความพร้อม แอนนา

ล่าสุดค่ำวันที่ 11 พ.ย. “ปุ้ย TPN” หรือ ‘ปุ้ย’ ปิยาภรณ์ แสนโกศิก กรรมการผู้จัดการบริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด (TPN Global) ผู้ถือลิขสิทธิ์เวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ที่เดินทางมาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน Miss Mimosa Queen Thailand 2022 (มิสมิโมซ่าควีนไทยแลนด์ 2022) ครั้งที่ 8 ได้ให้สัมภาษณ์ถึงมุมมองต่อความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นบนเวทีประกวด รวมทั้งได้พูดถึงความพร้อมของสาว “แอนนา เสืองามเอี่ยม” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 ก่อนเดินทางไปคว้ามงฯ 3 ให้ประเทศไทย

ปุ้ย เผยว่า “เดี๋ยวเราจะบินกันช่วงประมาณหลังคริสต์มาส น้องก็เทรนอย่างหนัก ซ้อมอย่างหนัก หลายๆ ท่านก็คงจะเห็นแล้วว่า แอนนาเป็นเด็กที่สู้ไม่ถอยเลย แล้วเขาไม่คิดอะไรมากเลย เขามีหน้าที่เติมน้ำให้กับตัวเองตลอดเวลา แล้วก็เป็นน้ำที่ไม่เคยล้นแก้วเลย นั่นคือสิ่งที่เราสบายใจ เช่นเราบอกว่าแอนนาคะ คุณแม่และทีมคิดว่า เราต้องปรับตรงนี้อีกนิดหนึ่ง เขาก็จะบอกว่าได้ค่ะ ไม่เคยมีสักครั้งที่จะบอกว่าหนูถนัดแบบนี้ๆ หรือหนูคิดว่าแบบนี้ดีแล้ว เพราะฉะนั้นอันนี้มันเป็นสิ่งที่จะทำให้ศักยภาพของน้องมีมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็ขยันมากค่ะ”

ปุ้ย TPN เผยความพร้อม แอนนา

ความพร้อมตอนนี้ให้กี่เปอร์เซ็นต์ดี? “ตอนนี้คิดว่า 85 เปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ ขอเติมต่ออีก เพราะว่าเรายังมีเวลากันนะคะก่อนบิน ถามว่ามีอะไรต้องเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วนไหม ก็คือการกำกับจิตตัวเองค่ะ เพราะเวทีใหญ่ มันมีความขลังของตัวเอง เพราะฉะนั้นไปปุ๊บ มันอาจจะเกิดภาวะอะไรขึ้นก็ได้ ก็จะต้องสอนให้น้องตั้งสติให้ดี แต่โชคดีแอนนาเป็นเด็กที่ทำสมาธิ แล้วก็สวดมนต์อยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวเราคอยดูแล้วกัน ว่าหลังจากการประกวดแล้ว เราจะได้เห็นอะไร ว่าน้องกำกับสติตัวเองได้แค่ไหน อันนี้สำคัญมากค่ะ”

“แต่ในเรื่องความประหม่าก็สำคัญ เราก็มีวิธีสอนเรื่องมายด์เซ็ต ทั้งจากหลายคนที่มีความรู้ หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการประกวดนางงาม คือเราจะสอนเขาว่า ไม่ว่าจะมีคำถามอะไรมา เราจะต้องตั้งสติ ตอบด้วยตรรกะ และด้วยความจริง เพราะฉะนั้นถ้าเราคิดว่าตรงนี้เป็นที่ยืนของเรา ความประหม่ามันจะลดลง แล้วเราก็พร้อมที่จะปะทะหรือสู้ออกไป อันนี้ก็จะบอกน้อง ว่าถ้าไปยืนบนเวทีแล้วเห็นไฟ เห็นคน เห็นกล้อง ระดับอินเตอร์เนชั่นแนลจริงๆ เราก็ต้องคิดว่าไม่เห็นเป็นไรเลย นี่เป็นที่ของฉัน วันนี้ ตรงนี้ เป็นที่ของฉัน ซึ่งกระบวนการอันนี้มันช่วยได้นะคะ น้องฮึกเหิม”

ยังมีเรื่องไหนที่เป็นห่วงบ้าง? “เรื่องพูดน้องก็ไม่ค่อยเกร็งแล้วตอนนี้ ก็คงเป็นเรื่องความประหม่านี่แหละ ที่ว่าคนเรามันพูดได้สารพัด แม้กระทั่งตัวเราเอง แต่เวลาไปอยู่ในสถานการณ์จริงแล้วจะเป็นอย่างไร อันนั้นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะฉะนั้นตรงนี้แหละ ที่น้องเขาพยายามจะเรียนรู้แล้วก็พัฒนา ในการกำจัดจุดอ่อนเรื่องความประหม่า แต่ก็รู้สึกว่าเขาทำดีขึ้นเรื่อยๆ”

ถามถึงเรื่องที่ประกาศปลด “นิโคลีน ลิมศนุกาญจน์” พ้นตำแหน่ง รองอันดับ 1 Miss Universe Thailand 2022? “เกิดอะไรขึ้นทุกคนก็คงจะทราบอยู่แล้ว ถ้าสมมติว่าใครก็ตาม ไม่สะดวกในการปฎิบัติหน้าที่ จะด้วยอะไรก็ตาม มันก็ต้องมีการปรับตำแหน่ง ให้คนที่เขาสะดวกได้อัพเลเวลขึ้นมาตามศักยภาพของเขา เพราะฉะนั้นมันก็เป็นอย่างที่เห็น รอง 2 ปรับเป็นรอง 1 รอง 3 ปรับเป็นรอง 2 ขึ้นมา แล้วก็พร้อมที่จะเดินหน้ากันเป็นแผงเพื่อทำประโยชน์ ทำงานให้กับองค์กรแล้วก็สังคม”

ปุ้ย TPN เผยความพร้อม แอนนา

ก่อนประกาศได้มีการพูดคุยกันไหม? “ปุ้ยไม่ได้คุยค่ะ เพราะเรามีทีมงานที่เป็นผู้คุย ไม่ว่าจะเป็นทีมพี่เลี้ยง หรือว่าทีมดูแลตารางงานเขาก็คุย ส่วนตัวเราเคยมีคุย 1-2 ครั้งแรกๆ ว่าทิศทางจะเป็นอะไรยังไง แต่ว่าตอนนั้นน้องก็มีคิวที่จะต้องไปต่างจังหวัด ก็เลยยังไม่ได้คุยกันต่อเนื่อง ถามว่าเจ้าตัวรู้ก่อนไหมว่าจะโดนปลด อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะปุ้ยไม่ได้เป็นคนทำตรงนี้ ก็คงจะเป็นเรื่องของทางฝ่ายกฎหมายและฝ่ายนโยบาย แล้วมันก็เป็นมติของที่ประชุมด้วยค่ะ คิดว่าน้องก็ไม่ได้มีฟีดแบ็กอะไรที่ไม่ดีกลับมานะคะ อันนี้ก็ยังไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เงียบๆ ไป เธอก็อาจจะยุ่งในภารกิจของเธอด้วย”

ตัดสินใจยากไหม ที่ต้องทำแบบนี้? “ก็ไม่ยากหรอกค่ะ มันก็เป็นบทบาททั่วๆ ไป สมมติว่าเราจะต้องไปทำการแข่งขันอะไร แล้วเรามีลำดับขั้นอยู่ คนที่พร้อมในการปฎิบัติหน้าที่ ก็จะต้องได้ปฎิบัติเท่านั้นเอง มันไม่ได้มีอะไรยุ่งยากเลย อันนี้มันเป็นแฟ็กต์มากค่ะ ปุ้ยคิดว่า เรื่องของคนเนี่ย มันกำหนดกฎเกณฑ์ไม่ได้หรอกค่ะ คนก็คือคน แล้วมันก็ไม่ได้มีครั้งนี้เป็นครั้งแรก ถ้าเราย้อนประวัติศาสตร์ดู มันมียิ่งกว่านี้อีกนะคะ เพราะฉะนั้นก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ถ้ามีคนที่ไม่พร้อม ก็ต้องปรับต่อไป”

ล่าสุด “แอน จักรพงษ์” เตรียมออกเงื่อนไขใหม่ๆ บนเวทีมิสยูนิเวิร์ส เพื่อชูความเท่าเทียม? “ก็รู้สึกว่า…สำหรับผู้หญิงข้ามเพศในประเทศไทยเนี่ย คุณแอนก็เคยบอกไว้ ว่าต้องมีกฎหมายรองรับว่าให้เป็นมิส อันนี้ก็ชัดเจน แต่สำหรับคนที่แต่งงานแล้ว หรือว่ามีบุตร หรือหย่าร้าง ปุ้ยก็เฉยๆ เขาก็คือผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เขาสามารถจะมาแสดงศักยภาพของเขา ในเวทีระดับจักรวาลได้ อันนี้ก็ไม่ค่อยตื่นเต้น แล้วที่สำคัญสมัยนี้ บางคนลูก 4 หุ่นเช้งกระเด๊ะกว่านางงามที่เดินไปเดินมาเสียอีก ก็น่าจะเป็นสีสันที่ดี ก็เป็นการเชิดชูความเท่าเทียมกันที่เป็นรูปธรรมค่ะ”

ปุ้ย TPN เผยความพร้อม แอนนา

เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ใช่ไหม? “ก็เห็นด้วยค่ะ คือปุ้ยคิดว่า เวลามันมีการทรานส์ฟอร์ม หรือมีการเปลี่ยนแปลงในแพลตฟอร์มต่างๆ เนี่ย แน่นอนว่ามนุษย์มักจะกลัวการเปลี่ยนแปลง มันก็จะเกิดความวิตกกังวลไป แต่เราเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลง มักจะนำมาซึ่งการพัฒนา และการพัฒนา ก็จะนำมาซึ่งสิ่งที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นก็ไม่เป็นไร คนที่เขาไม่เห็นด้วย แต่ว่าถ้าการเปลี่ยนแปลงนี่มันสนุกสนานและมันดีขึ้น ไอ้เรื่องที่กังวลและไม่เห็นด้วยก็จะเปลี่ยนไป กลายเป็นเห็นด้วย คิดว่าอย่างนั้นค่ะ”
จะอลเวงไหมแบบนี้? “เรื่องความอลเวงนี่ยังไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้จัดเนาะ แต่คิดว่าทุกอย่างมันก็จะดำเนินได้ ด้วยเราจะต้องกำกับหัวใจและบริบทของเวทีให้มันดี ถ้าเรามีธงที่ตั้งไว้ ว่าจุดประสงค์ของเวทีมิสยูนิเวิร์สคืออะไร แล้วเราก็ไปตามนั้น เพราะฉะนั้นตรงนี้มันก็จะทำให้ความสับสนอลหม่านคลายลงค่ะ”

ทุกคนก็ต้องพร้อมปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนางงาม? “แน่นอนว่าคนที่จะมาประกวดเนี่ย สมมติว่าคุณเป็นคนที่มีลูก คุณจะต้องไม่บกพร่องต่อหน้าที่ประจำนั้นๆ เพราะการมาประกวดเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ หรือมิสยูนิเวิร์สใหญ่เลยเนี่ย คุณต้องแสดงให้เห็นว่าคุณมี Empower จริงๆ คุณสามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างดีเยี่ยม และไม่มีอะไรด้อยไปกว่ากันเลย เพราะมันเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าคนที่เขามีลูกแล้วมาประกวด มันต้องเก็บตัวเป็นเดือนๆ ต้องทำกิจกรรมอย่างหนัก แล้วไปทำให้เด็กคนหนึ่งขาดความรัก ความอบอุ่นจากแม่ ที่จะต้องดูแล ปุ้ยคิดว่าคงไม่มีใครเสียสละทิ้งลูกมาประกวดหรอก คนที่มาประกวดต้องเป็นคนที่พร้อมจริงๆ ค่ะ”

“สำหรับเรื่องความพร้อม ถ้าคุณจัดสรรเวลาครอบครัวไม่ได้ คุณบกพร่องในหน้าที่ สำหรับเราหน้าที่ของความเป็นแม่ คือมงกุฎที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะฉะนั้นคนที่เป็นคุณแม่เนี่ย มั่นใจว่าคงไม่ใช่ประเภทลูกอ่อนมาหรอกค่ะ อาจจะเป็นคุณแม่ที่สาวสวยปิ๊ง แล้วลูกโตแล้ว ดูแลตัวเองได้แล้ว ปีหน้าก็เริ่มเลยค่ะ เริ่มตามไปพร้อมกับเวทีแม่ค่ะ”

แอนนา กดดันไหม เวทีใหญ่คนไทยเป็นเจ้าของแล้ว? “ไม่เลยค่ะ เพราะเราบอกแอนนา อย่างที่คุณแอนพูด ถ้าจะเป็นเสือ ก็ต้องไปขย้ำเอาเอง ปุ้ยบอกแอนนาไปว่าทำทุกอย่างให้เต็มที่ ทำจนคนทั้งโลกบอกว่าไทยแลนด์ไม่เข้าไม่ได้หรอก ของพวกนี้มันค้านสายตาไม่ได้ สมมติเราศักยภาพไม่ถึง กรรมการไม่ใช่คุณแอนนะคะ คุณแอนเป็นคนยุติธรรมมาก เราจะไปบอกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิว่าล็อกคนนี้ๆ สปอนเซอร์ค่ะเอาคนนี้ ไม่มีทางค่ะ แล้วมันจะหายนะ เรามีหน้าที่อย่างเดียวคือทำให้ดีที่สุด สู้ให้สุดชีวิต ให้ทุกคนมองว่ายูต้องเข้า มันค้านสายตาไม่ได้ นั่นคือสิ่งที่เรากำลังใส่ในมายด์เซ็ตของน้องแอนนา”

“เราอย่าคิดแง่ลบ ถ้าเราคิดแง่ลบ ประเทศไทยจะไม่มีวันพัฒนาหรอก เพราะพอเข้ารอบก็จะมองว่าแหม ก็เจ้าของเป็นคนไทย คุณแอนเขาก็ไม่เอาธุรกิจอันยิ่งใหญ่ของเขา มาเสี่ยงกับการทำอะไรโง่ๆ บ้าๆ แบบนี้แน่นอน ทุกอย่างมันต้องโปร่งใส เราอย่าไปคิดว่าถ้าเข้ารอบไปเดี๋ยวคนครหา ต้องคิดว่าเราเข้าไปแล้วมีแต่คนบอกว่ายอม”

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เหลือสัญญากี่ปี? “เหลืออีก 2 ปีค่ะ ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะคุณแอนบอกปุ้ยลุยนะลุย แกน่ารักค่ะ ก็ไม่ได้คุยกันเยอะ เพราะเธอยุ่งมาก เธอบอกว่าให้ลุยไป ทำให้ดีที่สุด สิ่งหนึ่งคือเราก็อยากจะยกระดับคำว่ามิสยูนิเวิร์ส โดยเฉพาะความเป็นไทยแลนด์ของเราต้องยืนหนึ่งค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิสัยทัศน์ในการจัด โปรดักชั่นของเรา อีเวนต์ของเรา เราต้องทำให้ทั่วโลกเขาเห็นว่าเรามีดีอะไร แล้วก็โชว์ซอฟต์พาวเวอร์ของไทยแลนด์ให้เต็มที่ค่ะ”

มีโอกาสหลุดมือไหม หลายคนจ้องอยากเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์? “ไม่หลุดหรอกค่ะ ก็ลองดูไปนะคะ ก็คงทำไปเรื่อยๆ ค่ะ ถ้าเกิดว่าเขาเห็นความสามารถของเรา เห็นศักยภาพของเรา เราก็ทำไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ปี 2019 ที่เราเริ่มทำมา เราไม่เคยดร็อปลงเลยสักปี แม้กระทั่งปีที่ยอมเลย 2020-2021 เลือดตาแทบกระเด็น เพราะมันเป็นยุคที่โควิดถาโถมหนักมาก แล้วเราไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ จากภาครัฐ”

“เราสู้ เราลุย จนจัดให้ได้ เพราะอยากให้ทุกคนในโลกเห็นว่าไทยแลนด์ทำได้ แล้วเราก็ทำจริงๆ ก็บากบั่นกันมา ถึงวันนี้มันก็คงไม่มีอะไรยากไปกว่าตอนนั้นแล้วค่ะ สุดๆ มีอย่างเดียวคือจะพัฒนาโชว์ของเราให้สนุกยังไง เนื้อหาสาระที่จะเติมเต็มเข้ามาจะเป็นยังไง โดยเฉพาะถ้าเกิดมีสาวที่แต่งงานแล้ว หรือมีคุณแม่ หรือมีสาวที่หย่าร้างมา มันก็เป็น Empower อีกมุมหนึ่งนะ”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ