ปิดฝึก ‘คอบร้าโกลด์’ ยิ่งใหญ่ 609 ทหารจาก 5 ชาติ ร่วมซ้อมรบด้วยกระสุนจริง สหรัฐฯโชว์ยิงจรวดหลายลำกล้อง HIMARS ที่ส่งความช่วยเหลือให้ยูเครน
เมื่อวันที่ 10 มี.ค.66 พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทสส. และ พล.ต.สตีเฟน จี สมิธ (Stephen G. Smith) ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการฝึกคอบร้าโกลด์ 2023 ณ สนามยิงปืนใหญ่ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี พร้อมทั้งชมการสาธิตการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง (CALFEX) โดยมีผู้แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุดมิตรประเทศ และผู้แทนผู้บัญชาการเหล่าทัพ ร่วมในพิธีด้วย
การฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ประกอบด้วย กำลังพลและยุทโธปกรณ์จากกองทัพไทย กองทัพสหรัฐอเมริกา กองทัพสิงคโปร์ กองทัพมาเลเซีย และกองทัพอินโดนีเซีย ยอดผู้เข้าร่วมการฝึก 609 นาย กิจกรรมการฝึกฯ
ประกอบด้วย การกระโดดร่มแทรกซึมเบื้องสูง การซุ่มยิง การบินขัดขวางทางอากาศ การยิงเตรียมและการยิงสนับสนุนของปืนใหญ่ การเจาะช่องเปิดเส้นทางของทหารช่าง การเคลื่อนที่ประกอบการยิง การโจมตีทางอากาศ การสนับสนุนทางอากาศใกล้ชิด
การยุทธ์เคลื่อนที่ทางอากาศ การส่งกลับสายแพทย์ทางอากาศ และการเข้ายึดที่หมาย โดยมียุทโธปกรณ์สำคัญที่เข้าร่วมการฝึกฯ ประกอบด้วย รถเกราะล้อยาง BTR เครื่องบินขับไล่ F-16 จากกองทัพไทย และเครื่องบินขับไล่ F-16 จรวดหลายลำกล้อง HIMARS จากกองทัพสหรัฐอเมริกา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ HiMARS เป็นระบบยิงจรวดหลายลำกล้อง เคลื่อนที่คล่องตัวสูง ติดตั้งอยู่บนรถบรรทุกหนัก 5 ตัน โดยยุทโธปกรณ์ดังกล่าวสหรัฐ ส่งความช่วยเหลือด้านการทหารให้ยูเครนไปก่อนหน้านี้
ปัจจุบันการฝึกคอบร้าโกลด์ ถือเป็นการฝึกทางทหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกองทัพไทยและกองกำลังสหรัฐอเมริกา ภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกในประเทศไทยเป็นประจำทุกปี การฝึกคอบร้าโกลด์ที่ผ่านมา นับว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างสูง ในการพัฒนาขีดความสามารถกำลังพลของประเทศที่เข้าร่วมการฝึกฯ และเป็นศูนย์รวมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาการ หลักนิยม และเทคโนโลยีทางทหาร
รวมทั้งเพิ่มพูนประสบการณ์ให้กับกำลังพลของกองทัพไทยและกองทัพมิตรประเทศในปฏิบัติการร่วม/ผสม สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการที่จะเสริมสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน เพื่อรักษาเสถียรภาพและผลประโยชน์ร่วมกันของภูมิภาคโดยรวม นอกจากนั้น ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น รวมทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ในสายตาของกำลังพลมิตรประเทศที่เข้าร่วมการฝึกอีกด้วย