คนขับพ่วงเล่านาทีระทึกชนประสานงานเก๋ง เจ็บสาหัส 4 ราย ติดภายในรวมเด็ก 8 ขวบ คาดหลงช่องจราจร เหตุบังคับวิ่งสวนทางปิดถนนซ่อม
เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 25 เม.ย. 66 ร.ต.อ.หญิง สุดารัตน์ บัวยง รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านวิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุรถยนต์เก๋งชนกับรถบรรทุกพ่วง บนถนนสายเอเชีย 41 กม.ที่ 11 หมู่ที่ 6 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร มีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายในรถ จำนวน 4 ราย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ชีพกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์
ที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง โตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน กฉ4864 ชุมพร สภาพด้านหน้าพังยับเยิน จอดอยู่ในเลนจราจรช่องซ้าย ส่วนภายในพบผู้บาดเจ็บ จำนวน 4 ราย ทราบชื่อคือนายถาวร อายุ 49 ปี เป็นคนขับ และมีชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 50 ปี นั่งเบาะซ้ายด้านหน้า
โดยทั้ง 2 คนถูกอัดติดอยู่กับพวงมาลัย แขน ขาหัก และใบหน้าถูกแรงกระแทกเป็นแผลฉีกขาด มีอาการสาหัส บริเวณเบาะด้านหลังพบผู้บาดอีก 2 ราย คือ ด.ช. อายุ 8 ปี ซึ่งนั่งมาด้านซ้าย และมีหญิง ไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 40 ปี นั่งเบาะด้านขวาหลังคนขับ อยู่ในอาการสะลึมสะลือ เจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยจึงต้องใช้เครื่องตัดถ่างมาตัดอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถ จนสามารถนำตัวทั้งหมดออกมาได้ ก่อนนำตัวส่ง รพ.ชุมพร อย่างเร่งด่วน
ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ฮีโน่ สีขาว ส่วนตัวหัวลาก ทะเบียน 82-4673 สมุทรสาคร และส่วนหาง ทะเบียน 82-4679 สมุทรสาคร จอดอยู่เลนจราจรช่องขวา สภาพด้านหน้าข้างขวาถูกชนอย่างแรง จนกันชนพัง ลูกหมากคันชักล้อหน้าขาด ส่วนคนขับอยู่ในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อ นายเกียรติประดิษฐ์ อายุ 45 ปี
นายเกียรติประดิษฐ์ กล่าวว่า ตนขับรถไปบรรทุกสินค้ามาจาก จ.สงขลา เพื่อไปส่งปลายทางที่ จ.สมุทรสาคร จนกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งทางกรมทางหลวงได้มีการทำถนน และปิดช่องจราจรขาขึ้น โดยเปิดช่องทางให้รถทุกชนิดวิ่งสวนกันในช่องจราจรขาล่อง โดยมีกระบอกกรวยสะท้อนแสงเป็นสัญญาณบังคับการเดินรถสองช่องทางแบบสวนทางกัน
ตนขับมาด้วยความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม.และสังเกตว่ามีรถยนต์วิ่งมาในโค้งเปิดไฟสูงสวนทางมา จนกระทั่งขับผ่านโค้งมาด้วยความเร็ว ยอมรับตกใจมาก เพราะรถเก๋งคันดังกล่าววิ่งมาในเลนจราจรช่องด้านขวา เหมือนขับย้อนศร ตนพยายามเบรกบังคับรถให้จอด แต่ไม่ทันรถเก๋งพุ่งชนอย่างจัง เข้าบริเวณกันชนด้านขวาและชนกระแทกเข้ากับล้อหน้าอย่างแรง จนรถกระเด้งกลับไป จึงลงมาเพื่อช่วยเหลือและแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้ เพื่อรอสอบปากคำ นายถาวร ซึ่งเป็นคนขับรถเก๋งอีกครั้ง เพื่อสรุปสำนวนในคดีนี้ต่อไป