วันนี้ 30 มิ.ย. 66 รอง ผบ.ตร. สุรเชษฐ์ หักพาล (บิ๊กโจ๊ก) นำแถลงการณ์ ปิดสำนวนคดี “แอม ไซยาไนด์” ฆาตกรต่อเนื่อง ที่มีผู้เสียชีวิตเยอะที่สุดในประเทศ ซึ่งหากย้อนไปช่วงเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา เกิดเหตุสะเทือนขวัญ ที่มีจำนวน 15 คดี มีผู้เสียชีวิต 14 ราย รอดชีวิต 1 ราย โดยฉนวนของการจับกุม แอม ไซยาไนด์ ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากการพบศพ “น้องก้อย” นางสาวศิริพร ขันวงษ์ หญิงสาววัย 32 ปี ชาวจังหวัดราชบุรี ที่วูบหมดสติเสียชีวิตแบบปริศนา ขณะทำบุญปล่อยปลา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยคนสุดท้ายที่ ก้อย อยู่ด้วยคือ นางสรารัตน์ หรือ แอม
โดยหลังจากพบศพ ทางครอบครัวได้ทำการสืบหาความจริง พร้อมเรียกร้องความยุติธรรม เพราะยังไม่ปักใจเชื่อกับสาเหตุการเสียชีวิต อีกทั้งยังมีทรัพย์สินของ ก้อย ที่หายไปหลังจากการเสียชีวิต
เรื่องราวที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่กลับกลายเป็นปม ฆาตกรต่อเนื่องสุดโหด ที่มียาพิษอย่าง ยาไซยาไนด์ เข้ามาเป็นเครื่องมือ และในท้ายที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุม แอม ไซยาไนด์ ได้ในวันที่ 25 เม.ย. 66 เวลา 11.00 น. แอมตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1285/2566 ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” พร้อมของกลาง ขวดไซยาไนด์ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่เชื่อได้ว่า แอม มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ น้องก้อย
- เสร็จแล้ว ผลชันสูตร ลูกแอม ไซยาไนด์ พบว่าเป็นการเสียชีวิตผิดธรรมชาติ
- ครอบครัว แอม ไซยาไนด์ คาใจ! ส่งทนาย ยื่นหนังสือขอชันสูตรร่างทารก
- ผอ. เรือนจำหญิง เผย แอม ไซยาไนด์ ไม่เครียดเพราะแท้งบ่อย
หลังจากนั้น เรื่องนี้กลายเป็นคดีระดับชาติ ที่มีผู้ตายหลายรายในหลายจังหวัดที่ต้องเสียชีวิต เพราะจากการสืบสวน และค้นหลักฐาน กลายเป็นว่ามีญาติผู้เสียชีวิตอีกหลายราย ออกมาร้องเรียนถึงการเสียชีวิตของครอบครัว แม้เวลาจะผ่านไปนานเป็นปีๆ แต่ครอบครัวของเหยื่อนั้นก็สามารถเรียกร้องความเป็นธรรมให้ผู้ตายได้ รวมทั้งหมด 15 คดี นั้นเอง
โดยวิธีการของ แอม ไซยาไนด์ นั้นจะเข้ามาตีสนิทกับเหยื่อ และจะชักชวนเล่นแชร์หรือลงทุน รวมไปถึงยืมเงิน และก่อนการฆาตกรรม มักจะนัดเหยื่อไปกินข้าวหรือเดินทางไปที่เปลี่ยวสองต่อสอง จากนั้นนำ ไซยาไนด์ ผสมอาหารหรือน้ำดื่ม ให้เหยื่อกินจนเสียชีวิต
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบพยานไป 918 ปาก พิสูจน์หลักฐานตรวจทั้งหมด 904 รายการ พยานหลักฐานทั้งหมด ทำให้มั่นใจได้ว่า แอม ไซยาไนด์ ผิดจริง แต่ผลการตรวจ นั้นไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะจะนำไปสู้ในชั้นศาล
บิ๊กโจ๊ก นั้นได้กล่าวปิดท้ายว่า“วันนี้ในส่วนของตำรวจจบแล้ว ต่อไปจะนำส่ง สำนวนให้กับสำนักงานอัยการ หลังจากนั้นถึงจะเป็นการสู้ในชั้นศาล เราตรวจสอบจนพบความชัดเจนหมดแล้ว คดีนี้เป็นประวัติศาสตร์จริงๆ ไม่สามารถให้บุคคลแบบนี้ อยู่ร่วมกับบุคคลในสังคมได้ ส่วนนี้กรมราชทัณฑ์ต้องเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ให้เกิดเรื่องราวแบบนี้อีกอัตราโทษสูงสุดคือประหารชีวิตสถานเดียว ทั้ง 15 คดี มีโทษประหารชีวิต 14 คดี แต่ยังไม่มีการตัดสิน เพราะยังอยู่ในชั้นศาล”
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY