“ปารีณา ไกรคุปต์” ขึ้นศาลฎีกา คดีฝ่าฝืนจริยธรรมรุกที่ป่า ยันบริสุทธิ์ ไม่ได้บุกรุกป่าสงวน ครอบครองโดยชอบธรรม ทำฟาร์มไก่เลี้ยงดูพ่อ ส่วนทนายความเตรียมพยานสู้คดีไว้ 10 ปากมีทั้งเจ้าของที่ดินเดิม จนท. ป่าไม้ จนท.ปฏิรูปที่ดินเดิม ร้องให้จัดทำแผนที่ใหม่ ของเก่าผิดพลาดคลาดเคลื่อน
เมื่อเวลา 08.30 น.เศษ วันที่ 9 พ.ย.ที่ศาลฎีกา ถ.ราชดำเนินใน สนามหลวง ศาลนัดพิจารณาคดีครั้งแรก คดีหมายเลขดำ คมจ. 1/2564/ เพื่อสอบคำให้การคดี ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.ง ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้วินิจฉัย กรณีกล่าวหา น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีถูกดำเนินคดีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนเพื่อใช้ประกอบกิจการฟาร์มเลี้ยงไก่ และทำเกษตรกร ในจ.ราชบุรี อันเป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม
โดยวันนี้ น.ส.ปารีณา ทนายความ และผู้ติดตามเดินทางมาถึงศาล ตั้งแต่ช่วงเวลา 08.00 น.เศษ และให้สัมภาษณ์ สั้นๆ ว่า ตอนนี้รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะมาก และขอยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง เพราะตนเพิ่งเข้ามาดูแลฟาร์มเลี้ยงไก่ตามที่คุณพ่ออนุญาต และหลังจากยุติบทบาท ส.ส.ตามคำสั่งศาล ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปมาก
ขณะที่ทนายความ กล่าวว่า สำหรับการต่อสู้คดี ทางเรายืนยันว่า คุณปารีณาไม่ได้กระทำผิดจริยธรรมแต่อย่างใด ไม่ได้บุกรุกป่าสงวน เนื่องจากนายทวี ไกรคุปต์ คุณพ่อ ซึ่งอายุมากแล้ว ความจำเสื่อมได้มอบกิจการให้คุณ เอ๋ ปารีณา ดูแลแทน เพื่อนำรายได้มาเลี้ยงดูอุปการะคุณพ่อ ซึ่งเป็นไปตามหลักความศีลธรรม จริยธรรม ความกตัญญูรู้คุณ ของสังคมไทย ขอยืนยันว่า คุณเอ๋ ปารีณา ครอบครองที่ดินโดยสุจริต เราต่อสู้ไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ซึ่งขึ้นอยู่กับศาลท่านพิจารณาอย่างไร
ส่วนประวัติที่ดินแปลงนี้มีมานานแล้วช่วงก่อน ปี.พ.ศ.2484 ก่อนมีการปฏิรูปที่ดิน หรือประกาศ พ.ร.บ.ป่าไม้อีก แต่ตอนนั้นยังไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาจัดสรรโดย คุณพ่อซื้อต่อมาจากชาวบ้านที่เข้าทำประโยชน์ปลูกพืชมันสำปะหลัง โดยพยานได้เตรียมพยานทั้งหมดไว้ประมาณ 10 ปากเป็นเจ้าของที่ดินเดิม เจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดิน และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ซึ่งใช้อัตราส่วนวัด 4 แสน:1 ซึ่งไม่ถูกต้องนัก ทางเราจึงยื่นคำร้องขอให้จัดทำแผนที่ใหม่โดยใช้อัตราส่วนที่ 5 หมื่น:1 หรืออัตราส่วน 1หมื่น:1 ตามที่กฤษฎีกาประกาศไว้