ปัตตานี อ่วมน้ำทะเลหนุนคลื่นซัดถนนทรุดตัว รีสอร์ตน้ำเข้าท่วมขัง ประกาศ เฝ้าระวัง 6 อำเภอติดแม่น้ำ เตรียมอพยพหากเกิดความรุนแรง
วันที่ 3 ธ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ตั่งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ติดริมแม่น้ำและทะเลอ่าวปัตตานี โดยถนนสายหลัก ระหว่าง บ.ปาตาบูดี – บ.แหลมตาชี ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง ซึ่งเป็นถนน 2 เลน ระยะทางกว่า 100 เมตร ถูกคลื่นซัดดินใต้พื้นถนน จนทำให้ถนนทรุดตัวลงมาเสียหาย 1 เลน ทำให้ชาวบ้านเกรงความปลอดภัย เนื่องจากถนนเสียหายทั้งแถบ อาจพลัดตกลงมาได้รับอันตรายได้
ต่อมา เจ้าหน้าที่ของทางกรมทางหลวงชนบท จังหวัดปัตตานี ได้นำแผงกัน และเสากันถนน ปิดพื้นที่ถนนที่ได้รับความเสียหาย เพื่อป้องกันอันตราย โดยทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถที่จะทำการซ่อมแซมถนนได้ในขณะนี้เพราะคลื่นลมทะเลยังคงแรงอยู่ ต้องรอให้คลื่นลมสงบก่อน
จากการสอบถามชาวบ้าน เผยว่า เมื่อช่วงประมาณ 6 โมงเย็นของวันที่ 2 ธ.ค. ที่ผ่านมา ได้เกิดคลื่นลมแรงความว่าคลื่นสูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตร ซัดเข้าหาฝั่งอย่างรุนแรง และในช่วงดังกล่าวเป็นช่วงของน้ำทะเลหนุน ทำให้คลื่นมีกำลังแรงมาก จนทำให้ถนนได้รับความเสียหาย ในขณะนี้คลื่นทะเลเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ที่กลัวก็คือ คืนนี้ ตอนน้ำทะเลหนุน ก็จะเกิดคลื่นลมแรงอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน รีสอร์ตในพื้นที่ใกล้เคียงก็ได้ประสพกับน้ำทะเลหนุน ทำให้น้ำได้พัดทรายเข้าไปในรีสอร์ต และ น้ำเข้าท่วมหลายแห่ง จนเกิดน้ำท่วมขัง โดยทางรีสอร์ตได้ติดประกาศห้ามไม่ให้ประชาชนลงเล่นน้ำในห่วงเวลานี้อย่างเด็ดขาด
ล่าสุด ทางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปัตตานี ได้มีคำสั่งให้ พื้นที่ที่อยู่ริมแม่น้ำปัตตานี และชายฝั่งปัตตานี ใน 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.หนองจิก อ.ยะหริ่ง อ.สายบุรี อ.ไม้แก่ และ อ.ปะนาเระ แจ้งประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดชายฝั่งทะเล และในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ ให้ระวังอันตราจากคลื่นซัดชายฝั่ง และน้ำล้นตลิ่ง และห้ามประชาชน เด็ก และเยาวชน ลงเล่นน้ำ หากเกิดสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งในช่วงนี้ และหากมีสถานการณ์แนวโน้มที่รุนแรงขึ้น เร่งดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เยงไปยังพื้นที่ปลอดภัย