วันที่ 21 ก.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดบุรีรัมย์ว่า บรรยากาศบริเวณสถานีรถไฟ ซึ่งเป็นจุดที่จำหน่ายลูกชิ้นยืนกิน สัญลักษณ์ของชาวบุรีรัมย์ ซึ่งมีมานานกว่า 40 ปี ยังคึกคักอย่างต่อเนื่อง
หลังจากลิซ่า ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BlackPink ไอดอลเกาหลีสาวไทย ชาว จ.บุรีรัมย์ ที่จุดกระแสลูกชิ้นยืนกินจนดังเป็นพลุแตก ทำให้งานเทศกาลลูกชิ้นยืนกินครั้งที่ 4 มีนักท่องเที่ยวจากหลายจังหวัดทุกภาคของประเทศเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตามรอยลิซ่า
นอกจากนี้ภาคเอกชนหลายบริษัทยังมาให้การสนับสนุนงานลูกชิ้นยืนกินให้สมบูรณ์ขึ้น เนื่องจากผู้จัดงานไม่อนุญาตให้ยืนกินภายในงาน จะต้องซื้อกลับอย่างเดียว ตัวแทนจำหน่าย ถ้วยเฟสท์ ได้นำผลิตภัณฑ์ มาแจกให้แม่ค้าลูกชิ้นฯ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสการยืนกิน ด้วยการแบ่งใส่ถ้วย ไปยืนกินอยู่นอกสถานที่จัดงาน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกด้วย
น.ส.รัตภชา ธีรภัทรกิจ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ตอนนี้จะสิ้นสุดงานเทศกาลลูกชิ้นยืนกินแล้ว แต่นักท่องเที่ยวยังเดินทางมาชมและซื้อลูกชิ้นกลับไปบ้านเป็นจำนวนมาก จากแม่ค้าเคยขายได้ในช่วงโควิด-19 ระบาด เพียง 30-40 กก. ตั้งแต่กระแสลิซ่าเข้ามา มาจนถึงวันนี้ มียอดขายแต่ละรายทะลุ 100,000 บาทต่อวัน เฉพาะลานลูกชิ้นยืนกิน มียอดขายวันละกว่า 1 ล้านบาท ไม่รวมแม่ค้าลูกชิ้นยืนกินที่อยู่ตัวเทศบาลเมือง และต่างอำเภออีกกว่า 200-300 เจ้า คาดว่าจะมีเงินสะพัดเฉพาะงานเทศกาลลูกชิ้นยืนกินปีนี้ ไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท
ด้านนายบดินทร์ เรืองสุขศรีวงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากมีปรากฏการกระแสของลิซ่าเกิดขึ้น ตอนนี้ออเดอร์ยอดขายเรียกได้ว่าถล่มทลาย ขายกันไม่ทัน สิ่งที่เราได้คุยกับสภาอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวและการกีฬาจังหวัด ถึงการรักษาคุณภาพ หรือพัฒนาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้นอย่างไร ใครมีความสามารถทำแฟรนไชส์ ใครมีความสามารถที่ขยายไปขายที่กทม. เราก็จะสนับสนุน
รวมถึงการขยายการปักหมุดสัญลักษณ์ของลูกชิ้นยืนกิน ให้ไปอยู่ในหลายพื้นที่ของประเทศไทยหรือของโลกถ้าเป็นไปได้ โดยจะมีการไปให้ความรู้ด้านการค้าและการตลาดต่อไป และเชื่อว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการท่องเที่ยว ตั้งแต่เราเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา นายบดินทร์ กล่าว