ปอย ตรีชฎา เขิน รับไม่โสดแล้ว อัพเดตงานที่ฮ่องกงหยุดชะงัก ปีนี้มุ่งมั่นเรียนจบโท
ปอย ตรีชฎา เขิน / นับว่าเป็นสาวสวยทรงพลังที่แฟนๆ ชาวไทยและชาวต่างชาติชื่นชอบและในความสวยและเก่ง สำหรับนักแสดงสาว ปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์ ได้มาอัพเดตชีวิตในงานเปิดตัวสบู่ “มาดามหลุยส์” ในฐานะพรีเซ็นเตอร์ ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ พร้อมอัพเดตงานที่ฮ่องกงที่หยุดชะงัก ก่อนเปิดใจว่าตอนนี้ไม่โสดแล้ว
รับงานรอบนี้ค่าตัว 8 หลัก? “ไม่นะ การคุยกันนี่เราก็มีการคุยกันในต่างประเทศด้วยค่ะ และก็ดราฟสัญญา ปอยก็พอทราบเรื่องนี้อยู่แล้วค่ะ (เราเป็นพรีเซ็นเตอร์หรือพาร์ตเนอร์?) ไม่ใช่ค่ะ ปอยยังติดสัญญาที่ฮ่องกงเหมือนเดิม ฉะนั้นการรับงานก็จะต้องผ่านทางบริษัททางฮ่องกงค่ะ”
เรตการรับงานเป็นเรตทางไทย หรือฮ่องกง? “น่าจะเป็นเรต US นะคะ เรตศิลปินฝั่งนู้น”
เป็นสัญญาณที่ปอยจะกลับมารับงานที่ไทยมากขึ้น? “ปอยกลับค่ะ แต่ปอยคิดว่าคงไม่ได้รับงานที่ไทยเยอะเหมือนเดิม เพราะยิ่งช่วงนี้ก็ยิ่งใกล้เปิดประเทศและเราอั้นกันมาเกือบ 2 ปี โดยปกติแล้ว เมื่อก่อนเวลาเราไปทำงาน สมมุติว่าจะต้องเข้าไปที่จีนคือปอยจะต้องกักตัว สิริรวมเกือบ 1 เดือน แล้วปอยมีทีมงานจากไทยไปด้วยหลายท่าน
หลายๆท่านพอปอยพูดถึงเงื่อนไขแล้ว หลายท่านก็เซย์โน คือ 30 วัน เขาไม่ได้ทำอะไร ก็ค่อนข้างลำบาก ตอนนี้เหมือนประเทศใกล้ๆเปิดค่ะ ทุกธุรกิจก็ต้องรีบทำ มีหลายโปรเจ็กต์ที่ปอยเคยค้างไว้จนสุดท้ายเขาต้องตัดจบไปเลย แล้วก็มีหลายโปรเจ็กต์ที่สัญญาว่าจะไปทำก็ต้องไปถ่าย”
สถานการณ์ที่จีนเป็นยังไงบ้าง? “ตอนนี้นโยบายของประเทศจีน ซีโร่เคส ถ้าสมมุติมีการระบาดในมณฑลไหนก็จะมีการบริหารจัดการในเมืองนั้นเลย เช่นล่าสุดสถานการณ์ในเซี่ยงไฮ้ค่อนข้างรุนแรง ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว คือแล้วแต่ว่าปอยจะไปทำงานที่เมืองไหน ส่วนใหญ่ก็ประมาณ 2-3 เมือง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ แล้วก็กวางโจว”
“จริงๆ ช่วงโควิดมีตลอดเลยค่ะ ช่วงนั้นคือยินดีให้เราไปกักตัว อย่างที่บอกจริงๆปอยไปได้นะ ปอยไม่ได้ซีเรียส แต่ว่าทีมงานไปไม่ได้ อีกอย่างนึงปอยรู้สึกว่าการทำงานตอนนี้ที่ฮ่องกง หรือจีน การจัดระเบียบทางกฎหมายค่อนข้างยุ่งยาก เลยรู้สึกว่าจริงๆแล้วเราไม่ได้เร่งรีบไปไหน”
สถานการณ์ที่ผ่านมาค่อนข้างสวิง? “จริงๆ เขาคุมเข้มตลอดเวลา(กังวลบ้างไหม?) มีความกังวลอยู่นะคะเพราะว่ามีครั้งนึงที่ปอยมีโอกาสไป จำได้เลยว่าการออกไปซื้ออาหารหรือการออกไปพบปะเพื่อน เป็นเรื่องต้องห้าม บางทีเราไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ยิ่งเราอยู่เมืองไทยนานๆ ก็คิดถึงเมืองไทย แล้วเวลาเราไปอยู่เมืองนอกก็ไม่ได้พบปะใคร รู้สึกคิดถึงบ้าน คิดถึงเพื่อน แล้วอินเตอร์เน็ตที่จีนก็ไม่ได้เล่นเท่าไหร่มากค่ะ”
ที่ผ่านมารับได้ รอสถานการณ์ดีขึ้น? “ไม่ใช่แค่ปอยรอนะคะ แม้แต่ทางบริษัท ทางผู้ลงทุนภาพยนตร์ก็ตาม ทุกคนรอสถานการณ์นิ่ง เพราะว่าคนที่เป็นนักแสดงในเรื่อง ไม่ใช่แค่ปอยคนเดียวที่มาจากต่างประเทศ ฝรั่งก็มี คือถ้ามันกระทบกับงานเขาก็คงไม่กล้าเริ่มลงทุนอะไร”
อึดอัดอยากแสดง? “ไม่ๆ จริงๆ ปอยอยากให้สถานการณ์มันดีขึ้นก่อน อันนี้ปอยอึดอัดมากกว่าเพราะว่าถ้าปอยต้องไปทำงานที่นู่นแล้วยังมีความกังวล อย่างที่บ้าน ในช่วงโควิดมันมีอะไรเกิดใหม่ขึ้นมากมาย อยู่ๆก็มาเป็นเจ้าของโรงงานผลิต เลยรู้สึกว่ากลายเป็นเราที่มีภาระหน้าที่รับผิดชอบที่เมืองไทยเพิ่มขึ้น เราเลยต้องมีการบริหารจัดการเวลา”
อยู่ไทยนานไหม? “อยู่ไทยนานมากเลยค่ะ ปอยอยู่ไทยนานที่สุดแล้วตั้งแต่เริ่มทำงานต่างประเทศ”
ธุรกิจของเราที่เกี่ยวกับการวิจัยเป็นไง? “คือเป็นโรงงานรับผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นโรงงาน มันก็เลยมีงานวิจัยด้วย แล้วก็เรียนหนังสือด้วย เรียนอยู่ คิดว่าปีนี้คงเรียนจบปริญญาโทค่ะ ที่มหาวิทยาลัยมหิดล สาขาวิชาชีววิทยาศาสตร์การแพทย์ระดับโมเลกุล
คือในสถาบันมีให้เลือกแค่สองสาขา ปอยเลยคิดว่าทางเจนเนติก หรือพันธุกรรมมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เช่น วัคซีน พวกนี้มันเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมหมดเลย ปอยรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องใกล้ตัวเลยอยากเรียน”
จะเรียนไปให้สุดถึงไหน? “เบื้องต้นปอยคิดว่าแค่จบปริญญาโทก่อนค่ะ ปริญญาเอกขอพักเลยเพราะว่าสิ่งที่ปอยเรียนเกือบ 3 ปีนะคะ เป็นการเรียนที่ฟูลไทม์ คือปอยไม่รู้ว่าการเรียนสาขาอื่นเป็นยังไง แต่ที่นี่ฟูลไทม์ต้องเรียนจันทร์ถึงศุกร์ เช้าถึงเย็น ไม่ใช่ว่าเรียนอาทิตย์ละวัน ไม่มี แล้วมาตรฐานของมหาวิทยาลัยค่อนข้างสูงมาก
คือไม่มีการประนีประนอมเลยจริงๆ คือถ้าเราไม่ผ่านคิวซีก็เสียชื่อมหาวิทยาลัย ฉะนั้นทุกสิ่งที่เราเรียน ด้วยความที่ปอยไม่ได้เป็นคนเก่งเท่าคนอื่น ปอยต้องพยายามมากกว่าชาวบ้าน และก็หนักกว่าชาวบ้าน”
จะนำความรู้มาต่อยอด? “คงเป็นธุรกิจอีกอันนึงนะคะ ถามว่าปอยได้เอามาใช้ในโรงงานของตัวเองไหม ได้ใช้ แต่ว่ามันแอดวานซ์มากเลย คือกลายเป็นโรงงานเราจะผลิตสิ่งที่แอดวานซ์กว่าชาวบ้าน แต่สิ่งที่เราเรียนรู้คือการรักษาโรค พวกโรคมะเร็ง ปอยรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้ปอยน่าจะเอามาขยายธุรกิจในด้านนี้”
อีกนานไหมกว่าจะจบ? “ไม่นานค่ะ ปีนี้จบแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงของการทำวิทยานิพนธ์ค่ะ”
เป้าหมายตอนนี้คือ? “เรียนให้จบก่อนค่ะ สำคัญมาก ยากมาก คือที่เขาบอกให้ไปบนบานศาลกล่าว จุดประทัดนี่ไม่เคยเชื่อมาก่อน คือตอนเรียนปริญญาตรีหรือตอนเรียนมัธยมปอยคิดว่ายากแล้ว อันนี้ยากกว่าคูณไปเลย”
มีเดินสายมูเตลู? “มีค่ะ ขอให้เรียนจบ ราบรื่น ยากมากค่ะ กดดัน(เอาทุกทางว่างั้น?) จริงๆมันก็เป็นความสบายใจ สำคัญคือต้องทำการบ้านส่ง ต้องเข้าเรียน การเรียนวิทยาศาสตร์เนี่ย มันหลอกคนไม่ได้ เราปลอมคนไม่ได้ มันเป็นงานที่เราต้องลงมือทำเท่านั้นถึงจะจบ”
ความรักเป็นยังไง? “อันนี้ไม่ตอบได้ไหม(ยิ้ม) ปอยมีความรักเยอะมากเลย มีความรักมหาศาล (ที่ไม่ใช่แบบเพื่อนมีไหม?) มีมากมายเลยค่ะ”
จริงๆ เรามีไหมหรือไม่อยากจะเปิดเผยในพื้นที่สาธารณะ? “ไม่ ปอยไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นดาราด้วยซ้ำ ปอยคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ ปอยไม่ได้ปิดเลยค่ะ”
โสดไหมตอนนี้? “ปอยไม่โสดค่ะ ขอแค่นี้ก่อนได้ไหม(ยิ้ม) (ขออีกนิดนึงได้ไหม?)ไม่เอาละ ขี้โกง”
แฮปปี้ทุกอย่างลงตัว? “ใช่ค่ะ (เป็นกำลังใจในการใช้ชีวิตอย่างไรบ้าง?) เป็นธรรมชาติค่ะ ต้องเป็นกำลังใจกันและกันค่ะ”
ความรักเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นกำลังใจทั้งเรื่องงานและเรียน? “ใช่ค่ะ ถูกต้องค่ะ”
ได้ติดตามโซเชียลไหมเขาบอกว่าเราสวย ทรงพลัง? “ติดตามค่ะ ปอยก็เป็นชาวเน็ตคนนึง เวลามีคนชมปอยเยอะๆ ปอยก็รู้สึกดีใจมากๆ อย่างที่บอก ปอยไม่ค่อยรู้สึกว่าตัวเองเป็นดาราเท่าไหร่ รู้สึกว่าตัวเองเป็นนักธุรกิจ นักศึกษา ด้วยความที่ปอยก็อยู่ในยุคก่อนสมัยที่คนดูทีวีก็ยังจำเราได้ทุกบ้าน เวลาที่มีคนชื่นชมเรา พ่อแม่เรา คุณยายก็ภูมิใจ ทำให้คนในครอบครัวยิ้มได้”
ยกให้เป็นไอดอลการวางตัวแพง แอบกดดันไหม? “ไม่เลย เพราะว่าปอยไม่ได้ใช้ของแพงอะไร ไม่ได้กดดันอะไรเลยค่ะ คือการที่คนบอกว่าแพง คำนิยามของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน ปอยรู้ตัวแหละว่าปอยไม่ได้พยายามวางตัวให้มันแพง
แต่ปอยว่าคนอาจจะนิยามกันไปเองว่าดูแพง ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าสิ่งที่ปอยทำไม่ได้ดูแพงก็ได้ เพราะว่ามันไม่ได้มีอะไรให้เห็นเป็นตัวเลขขึ้นมาจากตัวปอย มันขึ้นอยู่กับมุมมองของคนว่าจะมองปอยยังไง ส่วนตัวปอยก็ทำตามธรรมชาติที่เราได้ฝึกฝนและอบรมมาจากคนรอบตัว”