จากกรณี ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) ส่งไปยังผู้ว่าราชการทุกจังหวัด เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้ขอความอนุเคราะห์สนับสนุนวัคซีนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคให้กับพนักงาน จำนวน 43,201 คน และครอบครัวของพนักงานของบริษัทจำนวน 28,244 คน ใน 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร
- ปลัดมหาดไทย ส่งหนังสือถึงผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ให้สนับสนุนวัคซีนกับพนักงาน “ไทยเบฟ” และครอบครัว
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัด กระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นไปตามที่ อธิบดีกรมควบควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้ออกประกาศเรื่องแนวทางให้บริการวัคซีนโควิด-19 แบบปูพรมทั่วประเทศโดยเฉพาะในพื้นที่ระบาดที่แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ลงวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 ขอให้จัดหาวัคซีนไปฉีดให้บุคลากรในสังกัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นคลัสเตอร์และติดเชื้อแพร่ระบาดทั่วประเทศ
ซึ่งการพิจารณาของ ศบค. กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการตามข้อปฏิบัติที่กำหนด โดยสาระสำคัญ คือ
ข้อ 5.2 ระบุว่า องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศไทย ที่มีความประสงค์จะขอรับวัคซีนให้กับบุคลากรสามารถแจ้งความประสงค์ไปยังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
ข้อ 5.2.3 ที่ระบุว่า กรณีองค์กรขนาดใหญ่ที่มีบุคลากรอยู่ในหลายจังหวัด หรือองค์กรระหว่างประเทศ/หน่วยงานต่างชาติที่ติดต่อผ่านกระทรวงการต่างประเทศ สามารถแจ้งหนังสือมายังอธิบดีกรมควบคุมโรค เพื่อขอรับวัคซีนไปฉีดให้บุคลากรในสังกัด โดยหาสถานพยาบาลรองรับการฉีดเอง
จึงขอย้ำว่าทุกอย่างดำเนินการตามขั้นตอน เมื่อมีการร้องขอมา ก็ได้สำรวจ ไม่ได้แปลว่าเจาะจงทำเฉพาะบริษัทไทยเบฟฯ แต่ทุกองค์กร ก็สามารถร้องขอได้ตามแนวทางที่กำหนด พร้อมขอให้ประชาชนมั่นใจในการดำเนินการจัดสรรวัคซีนของคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ที่จะคำนึงถึงความเหมาะสมในทุกด้านเป็นหลัก