ปลัดมท.ย้ำความเป็นอิสระ ด้านบริหารงบประมาณ พัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนท้องถิ่น : ไขข้อสงสัย กรณีการจ่ายเงินรายได้สะสมของโรงเรียน ในสังกัด อปท. ย้ำ จนท. ยึดหลักธรรมาภิบาล และดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด
วันนี้ (15 พ.ย. 65) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เปิดเผยถึงกรณีจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มีหนังสือหารือการเบิกจ่ายเงินรายได้สะสมของสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านไร่หลวง) สังกัด เทศบาลตำบลกาญจนดิษฐ์ อำเภอกาญจนดิษฐ์ ซึ่งได้ดำเนินโครงการจัดหาห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ด้วยเงินรายได้สะสมของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 1,347,500 บาท
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้หารือการจ่ายเงินรายได้สะสมของสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านไร่หลวง) สังกัด เทศบาลตำบลกาญจนดิษฐ์ อำเภอกาญจนดิษฐ์ กรณีได้ดำเนินการโครงการจัดหาห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ด้วยเงินรายได้สะสมของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 1,347,500 บาท และยังมิได้ก่อหนี้ผูกพัน เนื่องจากมีผู้อุทธรณ์ผลการประกาศผู้ชนะราคา และคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคามีมติไม่เห็นด้วยกับการอุทธรณ์ จึงได้รายงานความเห็นพร้อมเหตุผลให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง เพื่อพิจารณาวินิจฉัยในระหว่างช่วงเวลารอการวินิจฉัยใกล้สิ้นปีงบประมาณ จึงหารือว่าสามารถกันเงินรายได้สะสม ตามข้อ 59 แห่งระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้หรือไม่
ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวต่ออีกว่า การใช้จ่ายจากเงินรายได้สะสมของโรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านไร่หลวง) เพื่อดำเนินโครงการจัดหาห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 1,347,500 บาท ต้องเบิกจ่ายเงิน ให้เป็นไปตามนัยข้อ 16 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยรายได้และการจ่ายเงินของสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ที่กำหนดว่า การรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินของสถานศึกษาให้ถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยอนุโลม ประกอบกับระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 89 (4) ที่กำหนดว่า เมื่อได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินสะสมแล้ว อปท. จะต้องดำเนินการก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่เกินหนึ่งปีถัดไป ซึ่งหากไม่ดำเนินการภายในกำหนดระยะเวลาที่กำหนดให้การใช้จ่ายเงินสะสมนั้นเป็นอันพับไป
“จากกรณีการดำเนินโครงการจัดหาห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านไร่หลวง) ดังกล่าว เนื่องจากเป็นการใช้เงินรายได้สะสม ของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ซึ่งเป็นเงินนอกงบประมาณโรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านไร่หลวง) จึงสามารถใช้จ่ายงบประมาณตามโครงการต่อไปได้ แต่จะต้องก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จ ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยไม่ต้องกันเงินตามข้อ 59 ของระเบียบ กระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แต่อย่างใด ทั้งนี้ ต้องกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยึดหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการปฏิบัติงานพร้อมทั้งดำเนินการตามข้อกฎหมาย ระเบียบ และหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป” ปลัด มท. เน้นย้ำ
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยรายได้และการจ่ายเงินของสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2562 เป็นการย้ำจุดยืนของกระทรวงมหาดไทยในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยให้ความเป็นอิสระกับสถานศึกษาไม่ว่าจะเป็นวิทยาลัย โรงเรียน หรือศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ในการบริหารรายได้และรายจ่ายให้ตอบสนองต่อความต้องการในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามศักยภาพ ความต้องการ และบริบทของท้องถิ่น ซึ่งจะนำไปสู่การศึกษาที่มีคุณภาพ มีความเสมอภาค และเกิดประโยชน์กับลูกหลานพี่น้องประชาชนในท้องถิ่นอย่างแท้จริง และเกิดความยั่งยืน