ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดงาน “วันดินโลก ปี 2565 (World Soil Day 2022) จ.ฉะเชิงเทรา” เน้นย้ำ น้อมนำพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทำให้แผ่นดินไทยเป็น “แผ่นดินทอง” ที่มีความอุดมสมบูรณ์
วันที่ 3 ธ.ค. 65 ที่วัดโพนงาม ตำบลคู้ยายหมี อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงานวันดินโลก ปี 2565 (World Soil Day 2022) ภายใต้แนวคิด “อาหารก่อกำเนิดเกิดจากดิน (Soils, where food begins)” โดยได้รับเมตตาจาก พระราชภาวนาพิธาน เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา เจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม วรวิหาร พระปัญญาวิสุทธิโมลี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี (ธ) เจ้าอาวาสวัดพระนางจามเทวี จังหวัดลพบุรี ผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดโพนงาม ร่วมในพิธี โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายประสพโชค อยู่สำราญ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา นายอำเภอ 11 อำเภอ นายเขียน แสงสว่าง นายกเทศมนตรีตำบลสนามชัยเขต ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักเรียน และภาคีเครือข่ายทั้ง 11 อำเภอ ร่วมกิจกรรม
โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะหน้าบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมราชาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเปิดกรวยถวายราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วกล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย อาราธนาศีล พระสงฆ์ให้ศีลจบแล้ว ถวายผ้าไตรเพื่อน้อมถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมราชาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กรวดน้ำ เป็นอันเสร็จพิธี แล้วเดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องประชาชนผู้ขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” ภาคีเครือข่ายโครงการพัฒนาส่วนพระองค์เขาหินซ้อน ภาคีเครือข่ายโรงเรียนบ้านอ่างทอง และร่วมกิจกรรมจัดทำระบบธนาคารน้ำใต้ดิน การปลูกผักสวนครัวสร้างความมั่นคงด้านอาหาร การจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน และการปลูกต้นพะยูง ในบริเวณสวนเกษตรพอเพียงวัดโพนงาม
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กิจกรรมวันดินโลกของพี่น้องชาวจังหวัดฉะเชิงเทราในวันนี้เป็นกิจกรรมที่พี่น้องประชาชนทุกคนควรภาคภูมิใจอย่างยิ่งเพราะสมาชิกสหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติทั่วโลก ได้ประจักษ์ถึงพระวิสัยทัศน์และพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระบรมราชาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพี่น้องประชาชนคนไทยและคนทั้งโลก ในการบริหารจัดการดินอย่างยั่งยืน การปรับปรุงแก้ไขปัญหาดินที่มีปัญหา การพัฒนาและอนุรักษ์ดิน เช่น การนำหญ้าแฝกมาปลูกเพื่ออนุรักษ์ดินและน้ำ ป้องกันการชะล้างพังทลายของหน้าดิน การจัดการดินเปรี้ยวจัด การจัดการดินเสื่อมโทรม และการปรับปรุงบำรุงดิน เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2555 คณะผู้บริหารรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม สหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ (IUSS) และผู้เกี่ยวข้องได้เข้าเฝ้าทูลเกล้าถวาย “รางวัลนักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม (Humanitarian Soil Scientist) เพื่อเป็นการสดุดีพระเกียรติคุณให้เป็นที่ประจักษ์โดยทั่วกัน และได้กราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตใช้วันที่ 5 ธันวาคมซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพเป็น “วันดินโลก” ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2556 ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 68 ได้ให้การรับรอง วันดินโลก (World Soil Day) ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี และให้ประเทศสมาชิกจัดงานเฉลิมฉลองวันดินโลกโดยทั่วกัน
“พระบาทสมเด็จพระบรมราชาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงทุ่มเทอุทิศพระวรกาย เพราะสติปัญญา พระกำลังความสามารถ พระกำลังทรัพย์ ในการที่จะพัฒนาให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ มีความเหมาะสม ทำให้พวกเราสามารถเพาะปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหาร เลี้ยงสัตว์ ประกอบสัมมาชีพต่าง ๆ ได้ และสำหรับพี่น้องชาวฉะเชิงเทราโชคดี เพราะที่นี่มี “โครงการพัฒนาส่วนพระองค์เขาหินซ้อน” ในพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมราชาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้พระราชทานไว้ให้เป็นต้นแบบว่า เราจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ เราต้องรู้จักบริหารจัดการพื้นที่ให้มีความเหมาะสม รู้จักใช้กสิกรรมธรรมชาติ จัดหาแหล่งน้ำเพื่อใช้สำหรับในพื้นที่
อันจะทำให้พวกเรามีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี” และเป็นโชคดีของคนไทยทุกคนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปณิธานที่มุ่งมั่นในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชดำริของสมเด็จพระบรมชนกนาถ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยโดยกรมการพัฒนาชุมชน ได้เล็งเห็นความสำคัญด้วยการน้อมนำพระราชปณิธานด้วยการมุ่งมั่นขยายผลหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและโครงการพระราชดำริที่มีมากกว่า 40 ทฤษฎีมาประยุกต์สู่การพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา เพื่อทำให้แผ่นดินไทยของเราเป็น “แผ่นดินทอง” ที่มีความอุดมสมบูรณ์” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงต้น
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ขอให้ได้น้อมนำแนวทางพระราชดำริ “แก้ไขในสิ่งผิด” ดังพระบรมราชโองการที่ได้พระราชทานเมื่อเดือนมิถุนายน 2563 อันมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่า “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” อันอรรถาธิบายได้ว่า “ประเทศชาติมั่นคง” แม้ว่าชีวิตเราจะมีความสำคัญ แต่ประเทศชาติสำคัญที่สุด ประเทศชาติมั่นคง มีนัยยะว่า พวกเราไม่ว่ากี่รุ่น รุ่นลูก หลาน เหลน โหลน อีกร้อยปี พันปี ถ้าประเทศชาติมั่นคงพวกเราก็จะมีความสุข พวกเราก็จะอยู่ได้ แต่ประเทศชาติจะมั่นคง ประชาชนต้องมีความสุข จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราในการช่วยกันทำทุกวิถีทางปฏิบัติภารกิจบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้พี่น้องประชาชนทุกคนมีความสุข และในเรื่องของ “การแก้ไขในสิ่งผิด” เรื่องของการทำไร่เลื่อนลอย หรือการไปถมรางน้ำ ถมหนอง ถมคลอง ถมบึง ผลลัพธ์ทำให้เราไม่มีแหล่งน้ำ หน้าฝนน้ำไหลบ่าเข้าท่วม หน้าแล้งก็ไม่มีน้ำทำมาหากิน บางคนเลี้ยงดูลูกหลานไม่ดีลูกหลานก็ไปติดยาเสพติด ครอบครัวเดือดร้อน คนอื่นก็เดือดร้อน ข้าวของเสียหายสูญหาย ถูกลักขโมยถูกหลักทรัพย์ ดังนั้น สิ่งใดที่ไม่ดี ที่เคยผิดพลาด เราต้องช่วยกันแก้ไข ช่วยกันทำให้เกิดมรรคผล เกิดผลลัพธ์ที่ดี Change for Good ให้เกิดขึ้น ซึ่งกิจกรรมวันนี้เป็นการ “แก้ไขในสิ่งผิด” เพราะพวกเราได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินจนทำให้ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ จึงขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน นับตั้งแต่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด และภาคีเครือข่ายทุกท่าน ภายใต้ความเมตตากรุณาอันสูงสุดของท่านเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา และท่านเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี (ธ) ที่ทำให้เกิดกิจกรรมในวันนี้ขึ้น เพราะนอกจากจะทำให้เราทุกคนได้มีโอกาสแสดงความจงรักภักดีแล้ว ยังได้มีโอกาสแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และได้ช่วยสนองแนวพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการที่จะทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุข ทำให้ประเทศชาติมีความมั่นคง และช่วยกันในการแก้ไขในสิ่งผิด บนพื้นฐานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
“กิจกรรมวันดินโลกของจังหวัดฉะเชิงเทราที่พวกเราทำในวันนี้นั้นมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของมวลมนุษยชาติ เพราะเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า การที่เราน้อมนำเอาทฤษฎีใหม่มาใช้ในพื้นที่ ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ขึ้น อันสะท้อนผ่านกิจกรรมแห่งความยั่งยืนภายในบริเวณวัดโพนงาม ซึ่งมีท่านเจ้าคุณพระปัญญาวิสุทธิโมลีเป็นหลักชัยการขับเคลื่อน อาทิ ธนาคารน้ำใต้ดิน การปลูกผักสวนครัวสร้างความมั่นคงด้านอาหาร การคัดแยกขยะ และการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน อันจะช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซไข่เน่า อันประกอบด้วย ก๊าซมีเทน ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่ให้ลอยขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้เกิดภาวะก๊าซเรือนกระจก และท้ายที่สุดส่งผลกับดิน เพราะอากาศแปรปรวน อุณหภูมิของโลกก็สูงขึ้น ความอุดมสมบูรณ์ของดินก็หมดไป ดังนั้นการที่เราช่วยกันทำ “ถังขยะเปียกลดโลกร้อน” จึงเป็นคุณูปการต่อดินโดยตรง เพื่อประโยชน์สุขของชีวิตพวกเราและลูกหลาน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเน้นย้ำว่า วันดินโลกปีนี้ FAO กำหนดเป้าหมายไว้อย่างชัดเจนว่า Soils, where food begins อาหารก่อกำเนิดเกิดจากดิน ด้วยการน้อมนำเอาแนวทางพระราชดำริตามพระบรมราชโองการ ที่จะช่วยกันสร้างประเทศชาติให้มั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิต พลิกฟื้นแผ่นดินไทยให้เป็นแผ่นดินทองอีกครั้งหนึ่ง ฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดินเพื่อรักษาคุณภาพทางชีวภาพและเป็นแหล่งกำเนิดอาหารที่สมบูรณ์เพื่อหล่อเลี้ยงคนไทยและคนทั้งโลก “ดินดี อาหารดี สุขภาพดี ชีวีมีสุข” ซึ่งชัดเจนว่าแผ่นดินทองของเรานั้น เป็นแหล่งอาหารสำคัญของโลก ตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย เราโยนอะไรลงไปในดินก็รอด เดินไปทางไหนก็มีต้นไม้ที่เราเก็บกินได้ ทั้งลูกมะหวด ลูกหวาย ซึ่งทุกอย่างเป็นอาหาร เดินไปในทุ่งนา ในหนองน้ำ ก็มีบัวทั้งสายบัว ทั้งบัวหลวง และยังมีปลาให้เราช้อน ดังนั้นในวันพระบรมราชสมภพของในหลวงรัชกาลที่ 9 เราทุกคนต้องช่วยกันรณรงค์และกลับไปทำให้ดินที่บ้านของเราอุดมสมบูรณ์ นำพืชพันธุ์ธัญญาหารผักสวนครัวต่าง ๆ มาปลูกให้เต็มพื้นที่ ดังแนวพระราชดำริ “สร้างความมั่นคงด้านอาหาร” ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” เหมือนดังที่ตำบลโก่งธนู อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี และ ต.แม่แรง อ.ลี้ จ.ลำพูน ด้วยการช่วยกันสอนลูกหลานในการดูแลปลูกพืชผักสวนครัวสร้างความมั่นคงด้านอาหาร และทำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ในทุกมิติ ดังเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (UN SDGs) เพื่อทำให้รางวัล King Bhumibol World Soil Day Award เนื่องในวันดินโลก กลับคืนสู่ผืนแผ่นดินไทย ซึ่งรางวัลนี้เป็นเกียรติภูมิที่แสดงให้เห็นว่าเราทำกันอย่างเต็มที่ แต่รางวัลนั้นไม่ใช่ผลลัพธ์ที่สำคัญ เพราะ “เมื่อเราทำเต็มที่จนได้รางวัล หมายความว่า แผ่นดินแม่ของเราจะเป็นแผ่นดินแม่ที่เป็น “แผ่นดินทอง” มีพืชผลธัญญาหารงอกเงย เป็นแหล่งอาหารที่ปลอดภัยให้กับพวกเรา ด้วยการทำให้พี่น้องคนไทยทั้ง 76 จังหวัด 878 อำเภอ “รู้แล้วลงมือทำทันที” ก็จะสำเร็จ 100% ส่งผลให้เกิดผลผลิตที่ดี (Better Production) ทำให้มีโภชนาการที่ดีขึ้น (Better Nutrition) และพื้นดินจะมีความร่มเย็นชุ่มชื้นอุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายทางชีวภาพ กลายเป็นสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น (Better Environment) และทั้ง 3 ดี ก็จะทำให้คุณภาพชีวิตของพวกเราดี (Better Life) คือ มีชีวิตที่ดี
“ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องผู้มีความจงรักภักดีและความปรารถนาที่จะช่วยกัน Change for Good ด้วยการทำนุบำรุงแม่พระธรณีให้มีความอุดมสมบูรณ์ เพื่อก่อกำเนิดให้เกิดอาหารสำหรับเลี้ยงดูครอบครัวและมวลมนุษยชาติ ด้วย Passion อุดมการณ์ในการขับเคลื่อนเพื่อให้วันดินโลก เป็นจุดเริ่มต้นของการทำให้ประเทศชาติของพวกเราทุถกคนมีดินที่ดี ทำให้ประชาชนมีอาหารดี สุขภาพดี ชีวีมีสุข อย่างยั่งยืนตลอไป” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย
#WorldSoilDay #วันดินโลก #soilswherefoodbegins #Soils4Nutrition #FAO #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SDGsforAll #ChangeforGood