หลังจากทานมื้อเที่ยงด้วยความรวดเร็ว คุณศุภโชค หัวหน้าหน่วยกู้ภัยของมูลนิธิกู้ภัยพรานพิทักษ์ อ.สามพราน จ.นครปฐม ก็กำลังเร่งแบ่งการทำงานของทีม ที่ต้องรับมือกับการขนย้ายศพของผู้เสียชีวิตและการนำผู้ป่วยโควิด-19 ไปส่งยังโรงพยาบาลต่างๆ
หัวหน้าฝ่ายกู้ภัยรายนี้เผยถึงสถานการณ์ของการทำงานตลอดหลายวันที่ผ่านมาเพียงสั้นๆ ว่า “หนักสุดๆ” และ “ยังไม่ได้พักกันเลยครับ”
คุณศุภโชคกล่าวว่า ปกติแล้วที่ อ.สามพราน มีหน่วยกู้ภัยให้บริการอีกหน่วยหนึ่ง และจะแบ่งพื้นที่กับมูลนิธิที่ตนสังกัดตามแนวแม่น้ำท่าจีน ซึ่งของตนรับผิดชอบฝั่งตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน ไปจนถึงย่านวัดจินดาราม ที่ติดต่อกับ จ.ราชบุรี แต่สถานการณ์ที่ความช่วยเหลือขาดแคลนในขณะนี้ จึงมีสายโทรขอความช่วยเหลือจากพื้นที่ข้างเคียง เช่น อ.บ้านแพ้ว และแม้แต่จากกรุงเทพมหานคร ที่ล่าสุดต้องแบ่งรถไปช่วยขนย้ายผู้ป่วย
ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทุบสถิติเดิมติดต่อกัน เพจศูนย์ข้อมูล COVID-19 ของกรมประชาสัมพันธ์ เผยเมื่อวันพุธ (21 ก.ค.) ว่าช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สถิติเดิมถูกทำลายลงอีกครั้ง ด้วยตัวเลข 13,002 คน ซึ่งเกือบ 1 ใน 4 ของตัวเลขนี้ เป็นผู้ติดเชื้อในกรุงเทพมหานคร ที่ 2,921 คน ส่วนผู้เสียชีวิตสูงถึง 108 คน
กู้ภัยต้องการอุปกรณ์กันเชื้อจำนวนมาก
ช่วงสายของวันพุธ (21 ก.ค.) มูลนิธิกู้ภัยพรานพิทักษ์เพิ่งโพสต์ขอรับบริจาคโลงศพ เพราะจำนวนผู้เสียชีวิตมีจำนวนมาก
นอกจากโลงศพแล้ว ชุดกันเชื้อ PPE และหน้ากากอนามัยที่ป้องกันเชื้อได้ ก็ขาดแคลน เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ต้องใช้แล้วทิ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกตนที่สัมผัสกับร่างผู้เสียชีวิต ที่มีความเสี่ยงและจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ชนิดกลายพันธุ์แบบเดลตา ที่มีการระบุชนิดครั้งแรกในประเทศอินเดีย
“คนทำงานก็เสี่ยง หน้ากากเอาไม่อยู่ เดลตามันแรง”
ส่วน อาหารและน้ำก็เป็นสิ่งสำคัญที่พวกตนต้องการ เพราะการทำงานใต้ชุด PPE และหน้ากากอนามัยนั้น หายใจไม่ค่อยออกและร้อนมาก
คุณศุภโชค บอกอีกว่า สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ก็ต้องการเช่นกัน คือ รถ เพราะรถที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการใช้รับส่งผู้ติดเชื้อ เพราะ อ.สามพราน และพื้นที่ข้างเคียง มีโรงงานตั้งอยู่จำนวนมาก และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้ ก็เกิดขึ้นในโรงงานหลายแห่ง ผู้ติดเชื้อจึงมีจำนวนมาก
“อยากได้รถอีกสักคัน” คุณศุภโชค พูด
“แถวนี้โรงงานเยอะ คนติดกันเยอะ”
เมรุ-เตาเผาสุดรับไหว
จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจำนวนมากหรืออาจจะมากกว่าที่รายงานของทางการ ยังส่งผลกระทบต่อวงการศาสนาและสัปเหร่อในจังหวัดปริมณฑลด้วย ที่เป็นผู้นำพาผู้เสียชีวิตไปยังอีกภพหนึ่งด้วย
Sanook News / วันชัย ลือประดิษฐ์
พระครูปลัดไพฑูรย์ ฐิตาวิทูโร เจ้าอาวาสวัดเสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เผยเมื่อวันอังคาร (20 ก.ค.) ว่าที่ผ่านมาวัดรับเผาศพมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่โควิด-19 ระบาด จนหัวเตาเผาชำรุด และเมื่อเช้าวันอังคาร (5 ก.ค.) ก็เสียเป็นครั้งที่ 5 แล้ว ทำให้ศพแรกที่มาถึงในวันเดียวกันนี้ยังเผาไม่ได้ และต้องเรียกช่างมาซ่อม ซึ่งอาจต้องซ่อมไปเผาไป
เจ้าอาวาสรายนี้บอกอีกว่า โครงสร้างของเมรุ ที่สร้างมาตั้งแต่ปี 2500 หรือกว่า 60 ปีที่แล้ว ก็เป็นปัจจัยหนึ่งของการชำรุด ข้างในอิฐหินก็เริ่มหลุดแตกแล้ว ยังไม่ทราบว่าวันดีคืนดีจะพังลงมาเมื่อไหร่
“ช่วงนี้อาตมากับพระลูกวัดจำวัดประมาณตี 3-4 และเมื่อคืนก็มีศพเข้ามา 2 ศพ คืนก่อนนี้มีศพเข้ามา 5 ศพ ทุกวันทางวัดต้องใช้น้ำมันวันละประมาณ 400 ลิตรต่อวัน ตอนนี้ น้ำมันก็ใกล้จะหมด แต่สิ่งที่เร่งด่วนกว่าคือเตาเผาศพ อาตมาต้องทำการสั่งซื้อเตาเผาศพเข้ามาให้เร็ววันเพื่อจะได้รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิต ต้องใช้งบประมาณค่อนข้างเยอะต้องโทรไปถามทางบริษัทว่าจะส่งเตามาให้อาตมาเมื่อไหร่ เพราะอาตมาก็ยังไม่มีปัจจัยในการสั่งซื้อ”
Sanook News / วันชัย ลือประดิษฐ์