ปราปต์ปฎล เตรียมยื่นหนังสือเร่งรัด ดีเอสไอ หลังถูกกล่าวหาเกี่ยวข้อง ฟอเร็กซ์3D

ปราปต์ปฎล เตรียมยื่นหนังสือเร่งรัด / จากกรณีที่นักแสดงรุ่นใหญ่ ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจง เคลียร์ตัวเองถึงเรื่องที่ถูกดีเอสไอแจ้งข้อหา ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอเร็กซ์3D และถูกสังคมโซเชียลพิพากษาหรือตั้งธงเชื่อไปแล้วว่าเป็นผู้มีความผิด เมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมา ล่าสุด ปราปต์ปฎล ได้มาร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์แฟนตาซี “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” รอบกาล่า ที่ ชั้น 5 โรงภาพยนตร์สยามพารากอน จึงสอบถามความคืบหน้าเรื่องคดีดังกล่าว

อัพเดตคดีหน่อย ตอนนี้ยังไงต่อบ้าง? “ไม่มีอะไร ยังเงียบอยู่ ในส่วนของตัวเองก็ส่งคำชี้แจงให้ดีเอสไอแล้ว เราทำหน้าที่ในส่วนของเราเรียบร้อยแล้ว จบครบถ้วนกระบวนความ ส่วนทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะว่ายังไงก็อย่างที่บอกตอนนี้เขาเงียบอยู่ ขั้นตอนต่อไปผมก็คงจะทำหนังสือทวงถามว่าจะจัดการยังไงต่อ หมายถึงว่าการดำเนินชีวิตของเราในสิ่งที่เราทำตามขั้นตอนทุกอย่าง เราชัดเจนไปแล้ว อยู่ที่เขาจะชัดเจนเมื่อไหร่กับเรา”

จะกลายเป็นยืดเยื้อไหม ทำไมไม่ปล่อยให้เงียบๆ ไป? “จริงๆ ผมเงียบไปแล้วนะ ผมถามเขาแล้ว แต่มันมีผลกระทบกับเราบ้าง ในวันที่ผมแถลงข่าวบางสังกัดเขาก็เข้าใจ ผมทำงานได้ตามปกติ แต่บางต้นสังกัดเขาก็ต้องการเอกสารยืนยันอย่างชัดเจนว่าจะออกมาในรูปแบบไหน เพราะฉะนั้นผมก็เลยรู้สึกว่าผมทำอะไรออกไปชัดเจนแล้ว แต่ในความชัดเจนที่ต้นสังกัดเขาต้องการคือไม่ใช่จากเราแล้ว มันเป็นของหน่วยงานราชการ ก็ต้องให้เขาแสดงความชัดเจนออกมา”

“ซึ่งผมทำหน้าที่ของประชากรที่ดีได้สมบูรณ์แล้ว มันอยู่ที่หน่วยงานราชการว่าเขาทำหน้าที่ของเขายังไงต่อไป มีความชัดเจนแค่ไหน ซึ่งผมคิดว่าจะปล่อยเงียบๆ ไปเลยดีไหม เงียบๆ แล้วยังไง เพราะว่าเราชัดเจนถ้าชัดเจนกับเรา เราก็ชัดเจนกลับ แต่ก็อยากให้ชัดเจนกับเรามาเหมือนกัน เคลียร์ให้จบทีละปัญหา แฟร์ๆ กันครับ”

คืองานยังกลับมาไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์? “มันก็เป็นเรื่องปกติ ถามว่ามีผลกระทบกับละครไหม ก็มีแหละ หลายเรื่องเหมือนกัน เขาใช้คำว่าเขาต้องการเอกสารที่ชัดเจนในเรื่องของการชี้แจง ถามว่ากระทบไหมกระทบนะ แต่ถึงกับแย่เลยไหม ขาดงานเลยไหม ก็ไม่ ผมยังทำงานได้อย่างเต็มที่ก็อาจจะสัปดาห์หนึ่งถ่าย 5-6 เรื่อง ก็เหลือสัก 3-4 เรื่อง เพราะโดยปกติเราได้รับความเมตตาจากผู้จัด ผู้สร้าง หลายๆ ช่อง ก็ให้ความเมตตาดี ยังมีงานปกติ ละครเวทีนี้ก็กำลังจะเปิดตัวครับ”

หลังจากวันนั้นมา โล่งไหมที่ได้ออกมาพูด? “ผมโล่งแหละ แต่ผมก็ไม่ได้หนักใจแต่แรก มันไม่ชัดเจน อะไรที่เราไม่เกี่ยวข้องเรารู้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นความหนักของปัญหาที่เจอก็รู้ แต่เราก็เข้าใจในส่วนหนึ่งคือเราชัดเจน เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา แต่ยังมีประชาชนที่เขาไม่รู้ หรือยังมีผู้จ้างงาน ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขานะ เพราะว่ามันกระทบในส่วนของความรู้สึกของเขาว่ามันมีความไม่ชัดเจนเกิดขึ้น ซึ่งตัวเราไปบังคับให้ใครชัดเจนเหมือนกับเราไม่ได้ เราทำได้แค่ชัดเจนในส่วนของเรา”

“ส่วนความชัดเจนของเจ้าหน้าที่ก็ต้องรอตามกระบวนการ ซึ่งอาจจะมีระยะเวลาในการจัดการ เขาอาจจะมีคดีเยอะแยะ เขามีเรื่องราวที่เขาต้องทำเยอะแยะ ต้องเคลียร์ปัญหาไปทีละเปราะ เราก็เข้าใจเขานะ แต่ว่าปัญหาที่รอการเคลียร์ของคุณ ปัญหาที่คุณยื่นความไม่ชัดเจนกับเรา ถามว่าความเดือดร้อนมันเกิดขึ้นกับเราไหม มันก็มีแหละ เป็นวิบากกรรมของเรามั้ง อย่างที่บอกถ้าไม่ชัดเจนกับผมก็จะทำหนังสือแจ้งไปว่าจะสรุปกับผมยังไง”

สภาพจิตใจแฟนเป็นยังไงบ้าง? “ผมว่าก็ไม่ดีหรอก ตัวผมเองก็ไม่ดีหรอก ใครจะมาบอกว่าเดี๋ยวก็ชิน หรือทำใจได้มันไม่ใช่หรอก เพียงแต่ว่าเรารู้ว่า เคยเห็นอะไรที่ไม่มีประโยชน์กับการแสดงอาการไหม เพราะฉะนั้นอะไรที่ทำออกไปแล้วมันไม่มีประโยชน์ผมก็ไม่ทำ ผมไม่ใช่คนพูดอะไรไปเรื่อย ผมไม่พูดอะไรโดยที่มันไม่มีหลักการ ไม่มีหลักฐาน ไม่มีข้อเท็จจริง ผมไม่พูด เพราะฉะนั้นอะไรก็แล้วแต่ในสิ่งที่เราไม่พูด ถามว่าเกิดผลกระทบกับเรามาไหม มันเกิดผลกระทบกับเรามาระดับหนึ่ง”

“เพราะฉะนั้นที่ผ่านมาผมถึงคิดว่าถึงเวลาที่มันเหมาะสมเราก็ต้องชี้แจง พอชี้แจงเราก็ต้องพร้อมที่จะให้ความเคลียร์ ซึ่งผมก็เชื่อว่าพี่น้องก็เคลียร์ ต้นสังกัดผู้ว่าจ้างทั้งหลายก็เคลียร์หลายที่ ก็ยังทำงานอย่างต่อเนื่อง และอาจจะมีอะไรแปลกใหม่ เป็นเรื่องใหม่ๆ เรื่องดีๆ ให้พี่ๆ น้องๆ ได้ติดตามกันเร็วๆ นี้ครับ”

เรื่องเกี่ยวกับอะไร? “อาจจะเปลี่ยนสายงานไปเลยก็ได้นะ แต่ขอสักอาทิตย์หน้าผมจะเฉลยครับ เดี๋ยวแพลมๆ ออกมา เซอร์ไพรส์ครับ เป็นอะไรที่ผมไม่ได้มองเรื่องนี้ แต่ว่าตัวเองก็เข้าไปเกี่ยวข้องโดยทางอ้อมครับ”