วาซาบิไม่ได้มีแค่รสชาติเผ็ดๆ ชาๆ ที่คนญี่ปุ่นและต่างชาติอย่างคนไทยหลายคนชอบเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมประโยชน์ต่อร่างกายที่คุณอาจไม่เคยรู้อีกด้วย
วาซาบิ คืออะไร
วาซาบิ (wasabi) เป็นพืชชนิดหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพืชผักตระกูลกะหล่ำ ที่มักจะเติบโตตามธรรมชาติในลำธาร หุบเขา และแม่น้ำบนภูเขาในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังเติบโตได้ในบางพื้นที่ของประเทศจีน เกาหลี นิวซีแลนด์และอเมริกาเหนือ โดยเฉพาะในพื้นที่ ที่มีความร่มรื่นและชื้น
สารอาหารจากวาซาบิ
วาซาบิที่มีชื่อเสียงในการใช้เป็นส่วนผสมของอาหารญี่ปุ่นหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ซูชิ หรือว่าบะหมี่ ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเห็นวาซาบิที่ขูดมาแล้วหรือว่าวาซาบิผง จริงๆ รสชาติเผ็ดฉุนที่เราได้จากวาซาบินั้นมาจากราก ซึ่งอุดมไปด้วยใยอาหาร (Fiber) และมีวิตามินแร่ธาตุมากมาย อาทิ
- แคลเซียม
- ฟอสฟอรัส
- โพแทสเซียม
- สังกะสี
- เหล็ก
- แมกนีเซียม
- โซเดียม
- วิตามินบี
- วิตามินเอ
- วิตามินซี
- โฟเลต
ประโยชน์ของวาซาบิ
-
ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง
วาซาบิ มีสารประกอบบางชนิดที่เป็นประโยชน์ เช่น Isothiocyanates (ITCs) ซึ่งเป็นสารป้องกันมะเร็งที่มักจะมีในพืชตระกูลกะหล่ำ
จากการศึกษาหนึ่งพบว่า ITCs ที่ถูกสกัดจากรากวาซาบิ มีส่วนช่วยยับยั้งการก่อตัวของอะคริลาไมด์ (Acrylamide) ได้ถึงร้อยละ 90 ซึ่งเป็นปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างโปรตีนและน้ำตาลที่เกิดจากความร้อน ซึ่งอะคริลาไมด์เป็นสารเคมีที่สามารถเกิดขึ้นได้ในอาหารบางประเภท โดยเฉพาะเฟรนช์ฟรายส์ มันฝรั่งทอดและกาแฟ ที่จะเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการปรุงอาหารที่มีอุณหภูมิสูง เช่น การทอดและการย่าง
จากการศึกษาพบว่าการบริโภคอะคริลาไมด์ในอาหาร มีความเกี่ยวข้องกับมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งไต มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกและมะเร็งรังไข่ ซึ่งสาร ITCs และสารประกอบที่มีอยู่ในวาซาบิ มีส่วนช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่องปาก ตับอ่อนและมะเร็งเต้านมของมนุษย์
นอกจากนี้ยังมีการศึกษาเชิงสังเกตบางส่วน พบว่าการบริโภคผักตระกูลกะหล่ำอย่างวาซาบิที่มากขึ้น อาจช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งหลายชนิดเช่น มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
-
ลดการอักเสบ
วาซาบิเป็นพืชที่มีคุณสมบัติที่มีส่วนช่วยในการต้านการอักเสบ ที่มีศักยภาพ การอักเสบเป็นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อ การบาดเจ็บและสารพิษต่างๆ เมื่อร่างกายเกิดการอักเสบ และไม่มีการควบคุม จนเกิดเป็นอาการเรื้อรัง อาจทำให้พัฒนากลายไปเป็นโรคอื่นๆ ได้ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานและโรคมะเร็ง
จากการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับเซลล์สัตว์ระบุว่าสาร ITCs ที่มีในวาซาบิมีส่วนช่วยในการยับยั้งเซลล์และเอนไซม์ที่ส่งเสริมการอักเสบรวมถึงสาร Cyclooxygenase-2 (COX-2) และไซโตไคน์ (Cytokine) ที่มีส่วนทำให้เกิดการอักเสบ แต่การศึกษาข้อมูลของวาซาบิที่ช่วยลดการอักเสบยังมีจำกัดและยังไม่มีความชัดเจนว่ามีฤทธิ์ต้านการอักเสบในคนได้หรือไม่ จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม
-
ป้องกันภาวะอาหารเป็นพิษ
วาซาบิสามารถต่อต้านการเกิดเชื้ออีโคไล O157:H7 ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ก่อโรคระบบทางเดินอาหารที่รุนแรง และ เชื้อสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) ที่เมื่อมีการปนเปื้อนลงไปในอาหาร จะสร้างสารพิษที่เรียกว่าเอนเทอโรทอกซินขึ้นและจะส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเชื้อแบคทีเรียทั้ง 2 ชนิดนี้ เป็นชนิดที่เป็นสาเหตุของอาหารเป็นพิษมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม สำหรับคุณสมบัติข้อนี้ของวาซาบิ จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันต่อไป
-
ป้องกันฟันผุ
ทพญ.นฤมล ทวีเศรษฐ์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า วาซาบิมีสารไอโซไทโอไซยาเนทที่อาจมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียบางชนิดในช่องปากที่เป็นสาเหตุของฟันผุ เช่น เชื้อแบคทีเรียสเตร็ปโตค็อกคัสมิวแทนส์
อย่างไรก็ตาม แม้กระทรวงสาธารณสุขไทยเผยว่า วาซาบิมีสรรพคุณทางยาที่อาจนำไปประยุกต์ใช้เป็นส่วนผสมของยาสีฟันเพื่อป้องกันปัญหาฟันผุได้ในอนาคต แต่ขณะนี้ยังมีงานวิจัยที่ศึกษาคุณประโยชน์ของวาซาบิต่อการป้องกันฟันผุเพียงจำนวนน้อยเท่านั้น จึงไม่อาจสรุปได้ว่าวาซาบิมีสรรพคุณดังกล่าวจริง และควรศึกษาเพิ่มเติม เพื่อนำผลลัพธ์ที่ได้มาประยุกต์ใช้ในการดูแลสุขภาพช่องปากต่อไป
-
ลดความอ้วน
หลายคนเชื่อว่า อาหารรสเผ็ดร้อน ช่วยลดความอ้วนได้ เพราะเป็นการเพิ่มการเผาผลาญพลังงานในร่างกายให้มากขึ้นนั่นเอง โดยเคยมีการทดลองกับหนูแล้วพบว่า สารสกัดจากใบของต้นวาซาบิที่หนูทดลองกินพร้อมกันกับอาหารไขมันสูง อาจช่วยยับยั้งการเกิดภาวะอ้วนจากอาหารที่มีไขมันสูงได้
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยข้างต้นเป็นเพียงการทดลองในสัตว์เท่านั้น ไม่ได้ทดลองกับมนุษย์โดยตรง จึงไม่อาจยืนยันได้ว่าวาซาบิช่วยลดความอ้วนในมนุษย์ได้จริงหรือไม่และปลอดภัยเพียงใด ดังนั้น ควรศึกษาเพิ่มเติมและทดลองใช้วาซาบิกับมนุษย์ เพื่อยืนยันสมมติฐานด้านนี้ให้ชัดเจนและนำไปประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อไป
ข้อควรระวังในการกินวาซาบิ
แม้ว่าการกินวาซาบิเพื่อการบริโภคอาหารทั่วไปจะปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การกินวาซาบิเพื่อการรักษาโรคใดโรคหนึ่งโดยเฉพาะนั้น ในปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะยืนยันประสิทธิผลและความปลอดภัยในการบริโภควาซาบิเพื่อการรักษาหรือป้องกันโรคได้อย่างชัดเจน ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคหรือใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ จากวาซาบิ โดยเฉพาะกลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร รวมถึงคนที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ เพราะวาซาบิอาจทำให้เลือดแข็งตัวช้าลง และอาจเพิ่มความเสี่ยงให้ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติเกิดรอยช้ำหรือมีเลือดออกได้ง่าย และคนที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัด เพราะวาซาบิอาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติระหว่างผ่าตัดได้ จึงควรงดบริโภควาซาบิอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนรับการผ่าตัด