ประเสริฐ ลากไส้ จุรินทร์ ทุจริตถุงมือยางภาค 2 เปิดเส้นทางฟอกเงินข้ามประเทศ

Home » ประเสริฐ ลากไส้ จุรินทร์ ทุจริตถุงมือยางภาค 2 เปิดเส้นทางฟอกเงินข้ามประเทศ



ประเสริฐ ลากไส้ จุรินทร์ ปมทุจริตถุงมือยางภาคสอง เปิดเส้นทางฟอกเงินข้ามประเทศ สงสัยเงินตกแถวสนามบินน้ำ จวก บิ๊กตู่ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หวังรักษาเก้าอี้

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 20 ก.ค.2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยก่อนประชุม นายศุภชัย แจ้งว่า ลำดับการอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ดังนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คลัง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม

จากนั้นนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายพล.อ.ประยุทธ์ และนายจุรินทร์ ในข้อกล่าวหาการทุจริตถุงมือยางภาค 2 สืบเนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ รู้เรื่องการทุจริตที่เกิดขึ้นที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) เป็นอย่างดี และทราบดีว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นจริงในวงเงิน 2 พันล้านบาท กลับเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆ จนความเสียหายเกิดขึ้น และปัจจุบันยังไม่สามารถติดตามเงินที่หายไปกลับคืนมาได้ ทำตัวปากว่าตาขยิบ รู้ว่านายจุรินทร์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต แต่เกรงใจ ไม่กล้าปลดออก เพราะเกรงว่าสถานะนายกฯ อาจไม่มั่นคง จึงปล่อยปละละเลย

ขณะที่นายจุรินทร์ มีพฤติกรรมฉ้อฉล รู้เห็นเป็นใจกับการทุจริต เนื่องจากกลุ่มผู้ทุจริตเป็นบุคคลใกล้ชิด พฤติกรรมของนายจุรินทร์คือ ไม่อายัดเงินให้ทันต่อเหตุการณ์ กระทั่งกลุ่มผู้ทุจริตนำเงิน 2 พันล้านบาท ไปฟอกเงินกระจายไปตามบัญชีต่างๆ จนไม่สามารถติดตามนำเงินกลับมาได้

นายประเสริฐ กล่าวว่า อคส.ได้ทำสัญญาซื้อถุงมือยาง 7 สัญญา มูลค่า 1.8 แสนล้านบาท โดยสร้างข้อมูลเท็จว่า มีการสั่งซื้อถุงมือยางจากบริษัท 7 แห่ง เป็นจำนวนมาก เป็นเหตุให้ อคส.ต้องรีบหาถุงมือยาง โดยทำสัญญากับบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด จัดซื้อ 500 ล้านกล่อง มูลค่า 1.12 แสนล้านบาท ปัจจุบันบริษัทดังกล่าวได้รับเงินมัดจำไปแล้ว 2 พันล้านบาท จาก อคส. แต่ยังไม่ได้รับมอบถุงมือยางและได้ยกเลิกการทำสัญญากับบริษัท การ์เดียนฯ ไปแล้ว

ทั้งนี้ จากการอภิปรายครั้งที่ผ่านมา ตนเคยกล่าวถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนายจุรินทร์ และกระทำความผิด คือ นายสุชาติ เตชจักรเสมา อดีตประธานบอร์ดอคส. และยังมีบุคคลภายนอก ซึ่งมีลักษณะเกี่ยวพันกัน ให้การช่วยเหลือเป็นกระบวนการเพื่อดำเนินการทุจริตภายในหน่วยงาน เงินที่ได้จากการทุจริต 2 พันล้านบาท ขณะนี้ยังติดตามเอาคืนไม่ได้ อย่างไรตาม ตนได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งป.ป.ช.ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งสิ้น 22 ราย โดยมีนายสุชาติอยู่ด้วย

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ผลจากที่นายจุรินทร์ ทราบดีว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริงในอคส. แต่ไม่กระทำการใดๆเลย ไม่อายัดเงินในบัญชีให้ทันต่อสถานการณ์ ภายหลังเงินออกจากบัญชีหมดแล้วค่อยอายัด

สำหรับเส้นทางการฟอกเงินเริ่มต้นวันที่ 2 ก.ย.63 บริษัท การ์เดียนฯ รับโอนเงินจากอคส. 2 พันล้านบาท เป็นค่ามัดจำ วันที่ 14 ก.ย.63 นายจุรินทร์ทราบเรื่องการทุจริต แต่เงิน 2 พันล้านบาท ถูกถ่ายโอนแล้ว ต่อมาวันที่ 29 ก.ย.63 ป.ป.ช. มีมติอายัดบัญชี เท่ากับเวลา 27 วัน มีการปล่อยให้มีการฟอกเงินอย่างสะดวกสบาย อย่างไร้ยางอาย ส่งผลให้ผู้ทุจริตกระจายเงินไปยังนิติบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้อง ภายหลังจากที่บริษัท การ์เดียนฯ ได้รับโอนจากอคส.แล้ว ได้มีการสร้างบัญชีม้ากระจายเงินสดไปยังบัญชีต่างๆ จำนวน 1.8 พันล้านบาท

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า วันที่ 3 ก.ย.63- 3 พ.ย.63 บริษัท การ์เดียนฯ ถอนเงินสดจากบัญชีต่างๆ รวม 56.33 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังโอนเงินอย่างมีพิรุธไปยัง 8 บริษัท รวม 967 ล้านบาท ที่น่าแปลกใจงคือมีการโอนเงินไปยังบริษัท RN ของเกาหลีใต้ จำนวน 301 ล้านบาท ซึ่งไม่ใช่การฟอกเงินในประเทศอย่างเดียว แต่เป็นการฟอกเงินข้ามประเทศ ดังนั้น สิ่งที่จะต้องติดตามต่อคือเมื่อนำเงินไปฟอกต่างประเทศแล้ว เงินบินกลับมาประเทศไทยเข้ากระเป๋าใคร ซึ่งตนสงสัยว่าอาจจะเข้ามาที่กระทรวงแถวสนามบินน้ำ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาหรือไม่

นอกจากนี้ยังพบว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีบุคคล ซึ่งสงสัยว่าไม่ใช่ค่าถุงมือยาง แต่เป็นการฟอกเงินลักษณะตัวแทน หากนายจุรินทร์มีคำสั่งอายัดเงิน ความเสียหายจะไม่เกิดขึ้น แต่นายจุรินทร์กลับทอดเวลาให้มีการฟอกเงินอย่างลอยนวล

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีการโยกย้ายเงินเพื่อทำหนังสือรับรองยอดเงินฝาก นำไปใช้เปลี่ยนแปลงการจดทะเบียนเพิ่มทุนของบริษัท การ์เดียนฯ จากเดิมทุนจดทะเบียนเพียง 5 ล้านบาท เป็น 2.5 พันล้านบาท นายจุรินทร์อย่าอ้างว่าไม่รู้ แบบนี้เรียกว่าโง่จริง หรือ แกล้งโง่

ส่วนที่ตนกล่าวหาพล.อ.ประยุทธ์ และนายจุรินทร์ ว่าปล่อยให้ผู้ทุจริตกินหรูอยู่สบาย เพราะก่อนทำสัญญากับอคส. นายธณรัสย์ หัดศรี มีบ้านเป็นตึกเก่าอยู่นครปฐม แต่หลังจากนั้นใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายไปซื้อรถลัมโบกินี ซื้อนาฬิกาหรูริชาร์ด มิลล์ วันนี้นายจุรินทร์อย่ามาแก้ตัวว่าไม่เกี่ยวข้อง เพราะวันนี้ตนมีใบเสร็จ

“วันนี้ผมถือว่ากรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา ถ้าก่อนวันที่ 14 ก.ย.63 ทั้งนายจุรินทร์ และพล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจยับยั้ง ความเสียหายก็จะไม่เกิดขึ้น ผมเชื่อว่านายจุรินทร์มีประสบการณ์ วันนี้ไม่ต้องมาทวงถามใบเสร็จจากผม เพราะทุกวันนี้วิธีการทุจริตพัฒนาไปหลายวิธี นายจุรินทร์ไมต้องตอบว่าไม่ได้รับ ไม่เกี่ยวข้อง ผมเชื่อว่าต้องปฏิเสธอยู่แล้ว แต่พฤติกรรมบ่งบอกว่าเงินต้องตกอยู่ในมือของผู้มีอิทธิพลทางการเมืองแน่นอน เพราะเกือบ 2 ปี แล้วเงินยังไม่กลับคืนมา” นายประเสริฐ กล่าว

นายประเสริฐ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนขอให้ป.ป.ช.สอบสวนพล.อ.ประยุทธ์ และนายจุรินทร์อีกครั้ง โดยจะนำเส้นทางการเงินไปยื่นให้ ทั้งนี้ การละเว้นก็คือการทุจริต ด้วยพฤติกรรมดังกล่าว ตนขอกล่าวหาพล.อ.ประยุทธ์ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ รู้เหตุแห่งความเสียหาย แต่จงใจไม่ระงับยับยั้ง ความเสียหายที่จะเกิดต่อหน่วยงานของรัฐ ปล่อยให้มีการฟอกเงินทั้งในและต่างประเทศ นโยบายที่แถลงต่อสภาเป็นแค่ลมปาก

ส่วนนายจุรินทร์ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ พฤติกรรมที่แสดงออกไม่ว่าจะเป็นการทอดเวลา ไม่อายัดเงิน 2 พันล้านบาท ปล่อยให้นายสุชาติ ดำรงตำแหน่งจนครบวาระ อีกทั้งยังให้นายสุชาติ เป็นประธานนั่งหัวโต๊ะสอบสวนเรื่องทุจริต 2 พันล้านบาท ทั้งที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็เหมือนเป็นแบล็คป้องกันนายจุรินทร์ ส่วนการดำเนินคดีไปตกอยู่กับแพะ แต่กลุ่มผู้ทุจริตยังกินหรูอยู่สบาย

พฤติกรรมที่ไม่กล้าแตะนายสุชาติ เป็นการบอกว่านายจุรินทร์มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่เกียวข้อง ตนจึงไม่อาจไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ และนายจุรินทร์ ให้ปฏิบัติหน้าที่อีกต่อไป หากครม.รู้ว่ามีการทุจริต หวังว่าอย่าได้เกรงใจทั้งพล.อ.ประยุทธ์ และนายจุรินทร์ ขอให้ยึดประโยชน์ประเทศ และประชาชนเป็นที่ตั้ง ให้ถือวาระนี้เป็นการปราบปรามการทุจริต โดยลงมติไม่ไว้วางใจต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ