ความเชื่อในเรื่องพลังอำนาจของสิ่งเหนือธรรมชาติ อำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และผี ที่สามารถทำให้มนุษย์หายจากอาการเจ็บป่วยนั้นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะมนุษย์เชื่อว่าการเจ็บป่วยบางอย่าง เกิดจากการกระทำของสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติไม่ว่าจะเป็น เทพเจ้า วิญญาณบรรพบุรุษ ผี หรือปีศาจ วันนี้ ไบรท์ ทูเดย์ (Bright Today) จะพามารู้จัก ประเพณีบูชาผีฟ้า ผีแถน ของชาวภาคอีสาน ทำเพื่ออะไร ไปดูกันเลย..
ความเป็นมา ตำนานผีฟ้า
ผีฟ้า คือคำเรียก เทวดา ของชาวไทยในภาคอีสานและภาคเหนือ เป็นการบูชาแบบพื้นบ้านที่มีการนับถือผีกัน คนที่เป็นร่างทรงของ ผีฟ้า จะสืบทอดกันจากรุ่นสู่รุ่นในลูกๆที่เป็นผู้หญิง เมื่อมีคนที่เจ็บไข้ได้ป่วย ชาวบ้านมักนำมาให้ผีฟ้าเสี่ยงทาย และช่วยรักษา ผีฟ้า จึงเป็นประเพณีอีกอย่างหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อในเรื่องของไสยศาสตร์ และการทรงเจ้าเข้าผีของสังคมดั้งเดิมของคนไทย
ตำนานผีฟ้า ชาวอีสานมีความเชื่อถือต่อ “ผี” มาก เพราะมีความเชื่อว่าเหตุที่เกิดเภทภัยเจ็บไข้ได้ป่วย น้ำท่วม ฝนแล้งนาล่ม หรือพืชพันธุ์ ธัญญาหารเหี่ยวแห้ง เป็นสิ่งที่เกิดมาจากอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของผีสางเทวดาทั้งสิ้น พวกเขาจึงเซ่นไหว้บวงสรวงผีต่างๆ และมีสิ่งที่หน้าสังเกตคือ ทุกครั้งที่มีการเซ่นไหว้เป็นประจำทุกๆ ฤดูกาล แล้วจะเกิดแต่ความสุขไปทั่ว ผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วยก็หาย ข้าวกล้าในนาก็อุดม สมบูรณ์ดี และการที่มีคติความเชื่อดังกล่าวนี้ ก็ทำให้เกิดประเพณีพิธีกรรมที่เกี่ยวกับผีหลายลักษณะและพิธีบูชา “ผีฟ้า” และ “ผีน้ำ”
ผีฟ้า หรือ ผีแถน จึงเป็นผีที่อยู่ระดับสูงกว่าผีชนิด อื่นๆ ส่วน แถน นั้น มีความเชื่อว่าเป็นคำเรียกรวมถึงเทวดา และแถนที่ใหญ่ที่สุดคือ “แถนหลวง” ซึ่ง เชื่อว่าเป็นพระอินทร์ มีความเชื่อว่าผีฟ้านั้นสามารถที่จะ ดับยุคเข็ญหรือทำลายล้างอุปสรรคทั้งปวงได้ และสามารถที่จะช่วยเหลือมนุษย์ที่เดือดร้อนได้ การที่มนุษย์เกิดการเจ็บป่วยนั้นเนื่องจากไปละเมิดต่อผี การละเมิดต่อบรรพบุรุษ ความเชื่อของชาวอีสานเชื่อว่าผีฟ้าสามารถที่จะกำหนดการเกิดการตายของมนุษย์ได้ การที่มนุษย์ตายไปขวัญจะออกจากร่างเพื่อไปพบบรรพชน แต่ขวัญจะไม่แตกดับเหมือนร่าง เป็นเพียงการจากไปของร่างแต่วิญญาณยังคงอยู่กับผู้มีชีวิต
อัตลักษณ์ที่โดดเด่น
การรักษาต้องมีการเชิญผีฟ้ามาสิงสถิตอยู่ในร่างของคนทรง เรียกว่า ผีฟ้า นางเทียน ในการลำ
ผีฟ้า ของชาวอีสานนั้นมีองค์ประกอบ ทั้งหมด 4 ส่วนคือหมอลำผีฟ้า หมอแคน ผู้ป่วย และเครื่องคาย
- หมอลำผีฟ้า จะเป็นผู้หญิงที่มีอายุหรือบางท้องถิ่นจะเป็นผู้หญิงสาว และจะต้องสืบเชื้อสายมาจากกลุ่มหมอลำผีเท่านั้น แต่ที่จริงผีฟ้าสามารถสิงได้ทั้งหญิง ชาย และเด็ก โดยไม่จำกัดอายุ
- หมอแคน หรือหมอม้า จะต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการเป่าแคนมาเป็นอย่างดีเพราะในการประกอบพิธีจะต้องใช้เวลานานและต้องมีการเป่าอยู่ตลอดเวลา
- ผู้ป่วย จะต้องแต่งกายตามที่ได้กำหนดไว้ คือ มีผ้าไหมหรือผ้าขาวม้าพาดบ่า มีดอกมะละกอซึ่งตัดร้อยเป็นพวงทัดหู ผู้ป่วยนั้นสามารถที่จะฟ้อนรำกับหมอลำได้
- เครื่องคาย เป็นสิ่งที่อัญเชิญครูอาจารย์ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วมาช่วยเหลือ รักษาผู้ป่วย
ในการรำ ผีฟ้า นั้น จะมีความแตกต่างกันตามแต่ละท้องถิ่น เมื่อครูบาเก่าเข้าสิงร่าง ผู้ทำพิธีจะต้องสวมผ้าซิ่นทับผ้าที่สวมอยู่ (กรณีที่ผู้ป่วยเป็นชาย) หรือถ้าผู้ป่วยเป็นผู้หญิงครูบาจะสวมผ้าแพรหรือผ้าฝ้าย โดยสวมทับผ้านุ่งเดิม ซึ่งจะจัดไว้อยู่ใกล้เครื่องคาย ในการรักษาทุกคนจะต้องฟ้อนรำกันทุกคนและขึ้นอยู่กับผู้ป่วย ถ้าผู้ป่วยต้องการดูการฟ้อนรำก็จะทำหน้าที่ต่อไป แต่ถ้าไม่ต้องการครูบาก็จะนำเครื่องคายขึ้นไปเก็บบนหิ้ง และจะมาร่วมกันรับประทานอาหาร
ความสำคัญและคุณค่าทางสังคมและทางจิตใจ
การฟ้อนรำกันนั้น ก็เพื่อเป็นการทำให้คนไข้มีพลังจิตในการต่อสู้กับการเจ็บป่วย มีอารมณ์ผ่อนคลาย ความตึงเครียด จิตใจปลอดโปร่ง ไร้วิตกกังวล และสร้างจิตสำนึกด้านความกตัญญู เป็นคตินิยมของวัฒนธรรมไทย ซึ่งได้สืบทอดต่อกันมาจนกลายเป็นประเพณี จะเห็นว่าผีฟ้านั้นเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจมนุษย์ โดยมีคติเตือนใจว่า ” คนไม่เห็น ผีเห็น
ขอบคุณข้อมูล : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY