เวลาที่ไปเที่ยวต่างจังหวัด หลัก ๆ แล้ว คุณใช้ยานพาหนะอะไรกัน คำตอบน่าจะมีหลากหลาย บางคนมีรถส่วนตัวก็ใช้รถส่วนตัว บางคนรู้สึกว่าเอารถไปเองลำบาก เดินทางไกล นั่งเครื่องบินแล้วกัน เดี๋ยวนี้ค่าตั๋วเครื่องบินก็ไม่ได้แพงขนาดนั้น บางคนเป็นสายไบค์เกอร์ มักจะออกทริปกับมอเตอร์ไซค์ซูเปอร์ไบค์คู่ใจเสมอ ไปไหนไปกัน และก็จะมีคนอีกกลุ่มที่อาจจะเน้นประหยัด จึงเลือกที่จะเดินทางโดย “รถไฟ”

แต่จริง ๆ แล้ว ในกลุ่มคนที่มักจะเลือก “โดยสารรถไฟ” ไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ นั้น หลายคนไม่ได้มีเหตุผลเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องเลย รถยนต์ส่วนตัวก็มี แล้วก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดกับกฎเกณฑ์มากมายของการโดยสารเครื่องบิน แต่เป็นเพราะหลงใหลในความรู้สึกเวลาที่นั่งรถไฟ และชื่นชอบสุนทรียภาพที่ได้จากการนั่งรถไฟต่างหาก

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยคิดจะเดินทางโดยรถไฟมาก่อน ลองดูสักครั้งก็ไม่เสียหาย อย่าเพิ่งติดภาพจำว่ารถไฟบ้านเรามีแต่เก่า ๆ ดูสกปรกเท่านั้น เพราะรถไฟแบบใหม่ ๆ ข้างในดูหรูหรามันก็มี รถไฟหลายขบวนที่ให้บริการในหลายเส้นทาง มีตู้นอนติดแอร์ ใช้ห้องน้ำระบบสุญญากาศเหมือนบนเครื่องบิน ป้ายบอกต้นทาง-ปลายทางที่เป็นระบบดิจิทัล แสดงผลด้วยจอ LCD มีปลั๊กไฟ มีทีวี มีห้องอาบน้ำ มี Wi-Fi มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ราคาก็จะสูงพอ ๆ กับนั่งเครื่องบิน แต่ประสบการณ์ต่างกันแน่นอน อย่างน้อยที่สุด รถไฟก็วิ่งบนรางที่พื้น!

เรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ก็แล้วแต่ความชอบและความพอใจ แต่การที่คนกลุ่มหนึ่งหลงใหลวิธีเดินทางโดยรถไฟเป็นพิเศษนั้น ก็เพราะมันให้ประสบการณ์ที่แตกต่างจากการการเดินทางด้วยยานพาหนะอื่น ๆ นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราควรจะเลือกเดินทางไปเที่ยวโดยรถไฟดูสักครั้ง จะได้รู้ว่าเสน่ห์ของการเดินทางโดยระบบรางนั้นก็ดีเหมือนกัน

ได้นั่งโง่ ๆ ชิล ๆ สมใจอยาก

นั่งโง่ ๆ ในที่นี้ไม่เกี่ยวอะไรกับสติปัญญา แต่มันคือคำเปรียบเปรยถึงการนั่งชิล ๆ เฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องคิดอะไรที่มันหนักสมอง ชีวิตประจำวันของเรามีเรื่องให้ต้องคิดต้องทำมากมายพออยู่แล้ว จะไปเที่ยวทั้งทีก็ปลดปล่อยอารมณ์ไปตามทิวทัศน์ข้างทางรถไฟดีกว่า อาจจะคิดอะไรที่มันไร้สาระเพลิน ๆ ได้เรียบเรีงความคิด ได้ไตร่ตรองอะไรในหัวอย่างช้า ๆ ปล่อยให้ลมข้างทางตีหน้า ก็เป็นการพักผ่อนสมองที่ได้ผลดีจนน่าทึ่ง ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ตามองวิวหูฟังเพลง ปล่อยสมองไปเรื่อยเปื่อย รู้สึกว่ามันก็อินดี้ดีเหมือนกัน เพลิดเพลินจนลืมไปเลยว่าทางมันไกลแค่ไหน

ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด

รถไฟที่ไม่ได้มีกระจกปิด คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติโดยรอบอย่างใกล้ชิดมาก ๆ ลมพัดเข้ามาตีหน้า ผมเผ้าพันกันจนกระเซิงไปหมด ช่วงที่รถไฟวิ่งผ่านหุบเขา วิ่งบนสะพานข้ามแม่น้ำ ก็อาจจะชะเง้อคอยาว ๆ เพื่อให้เห็นวิวข้างนอกได้ชัดเจนขึ้น (แต่อย่าชะโงกออกไปจนพ้นตัวรถนะ อันตราย) ช่วงที่รถลอดผ่านอุโมงค์ก็เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นดี จริง ๆ แล้ว การนั่งรถไฟไม่เพียงแค่ใกล้ชิดกับธรรมชาติเท่านั้น แต่มันยังใกล้ชิดกับวิถีชีวิตแบบลูกทุ่ง ๆ ด้วย เวลาที่รถไฟวิ่งผ่านชุมชน คุณอาจเห็นเด็ก ๆ ข้างทางโบกไม้โบกมือทักทายก็ได้เช่นกัน แถมได้ภาพสวย ๆ เป็นกระบุง

เพลิดเพลินกับมื้ออาหารแทบจะทุกสถานีที่รถไฟเทียบชานชาลา

รถไฟเป็นยานพาหนะที่โดดเด่นเรื่องการหาของกินมาก เป็นการเดินทางที่ไม่ต้องกลัวหิว แต่กลัวว่าท้องจะไม่พอใส่ดีกว่า เพราะเขาอนุญาตให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถนำอาหารขึ้นมาขายได้ ถ้าไม่ขึ้นมาก็ตะโกนซื้อจากบนรถ คุณลุงคุณป้าก็จะนำอาหารมาเสิร์ฟให้ถึงหน้าต่าง แล้วยิ่งเดินทางไปไกล ๆ ก็จะยิ่งเจอกับอาหารท้องถิ่นหรือของกินขึ้นชื่อของสถานีนั้น ๆ ซึ่งไม่ได้หากินได้ง่าย ๆ ทั่วไป ราคาอาหารก็ไม่ได้แพง ราคาธรรมดา อาจมีบางอย่างที่บวกเพิ่มนิดหน่อยจากราคาร้านสะดวกซื้อ ก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้ ถ้าเดินทางหลายคนซื้อกันมาคนละอย่าง มานั่งกินด้วยกัน สนุกดีนะ

มันเป็นอะไรที่คลาสสิกดี

ถึงแม้ว่าโลกนี้จะมีรถไฟความเร็วสูง หรือรถไฟขบวนหรูหรา ค่าเสียหายหลายเงินเปิดให้บริการ แต่พอนึกถึงรถไฟแล้วมันกลับทำให้นึกถึงภาพบรรยากาศเก่า ๆ ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ความปู๊น ๆ ฉึกกะฉัก ๆ เนี่ย เป็นหนึ่งในวิธีการเดินทางที่มนุษย์ใช้มาตั้งแต่โบราณ มีกลิ่นอายความเป็นอดีตให้ถวิลหา รู้สึกได้หวนกลับสู่ธรรมชาติ การเดินทางแบบเนิบ ๆ ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง ทำให้เราได้ใช้ชีวิตให้ช้าลง ยิ่งถ้าเป็นการไปเที่ยวด้วยแล้ว เราไม่จำเป็นต้องเร่งรีบอะไรเลย สโลว์ไลฟ์ให้สุด แล้วหยุดที่ความรู้สึกได้เติมเต็มอะไรบางอย่าง

ได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ได้ง่าย ๆ

จริง ๆ แล้ว ทุกการเดินทาง เราอาจได้เพื่อนใหม่ได้เสมอแหละ แต่ด้วยบรรยากาศและสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นบนรถไฟ อาจทำให้เราเริ่มต้นบทสนทนาได้ง่ายกว่ายานพาหนะอื่น ยิ่งใครที่เป็นพวกมนุษยสัมพันธ์ดี ช่างจ้อ ชอบพูดคุยกับคนแปลกหน้า จะเห็นด้วยมาก ๆ ว่าการหาเพื่อนวิธีง่าย ๆ จากการเดินทางนั้นช่วยเปิดประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ได้พูดคุยระบายปัญหาชีวิตที่ไม่กล้าคุยกับคนรู้จัก (เพราะคนแปลกหน้าอาจไม่เจอกันอีก) จึงไม่แปลกที่การเดินทางโดยรถไฟจะทำให้ได้ทั้งเพื่อนใหม่และประสบการณ์ชีวิตใหม่ ๆ ติดใจจนต้องมีรอบสอง