ประวิตร ลงใต้ ประชุม กพต.ในพื้นที่ เร่งแก้ปัญหาปากท้อง พี่น้องจังหวัดชายแดนใต้ หารือภาคธุรกิจดึงพลังคนรุ่นใหม่ ฟื้นหาดใหญ่
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2565 ที่โรงแรมคริสตัล หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและคณะ ได้ติดตามการส่งเสริมเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาปากท้องและความเหลื่อมล้ำในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ พร้อมทั้งร่วมหารือฟื้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวหาดใหญ่
จากนั้นพล.อ.ประวิตร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) โดยรับทราบผลงานที่สำคัญ ประกอบด้วย การขับเคลื่อนสนามบินเบตงให้เปิดบริการเชิงพาณิชย์ ซึ่งตั้งแต่เปิดบริการ มีผู้โดยสารเดินทางกว่า 2,500 ราย รายได้สุทธิ 7.1 ล้านบาท ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประชาชน สถานการณ์การค้า การท่องเที่ยวและการบริการทุกด้านในพื้นที่ อ.เบตง มีทิศทางดีขึ้นตามลำดับ รวมทั้งธุรกิจภาคขนส่งและนำเที่ยว มีการพัฒนายกระดับเป็นมาตรฐานมากขึ้นเช่นกัน
ด้านดัชนีความเชื่อมั่น พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ไตรมาส 1 ภาพรวม พบยังอยู่ในช่วงเชื่อมั่นต่อการดำเนินงานของรัฐในมิติต่างๆทั้ง 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคม โดยประชาชนยังมีความกังวลต่อค่าครองชีพที่สูงขึ้น และมีทัศนคติเชิงบวกและเชื่อมั่นว่าสถานการณ์จะปรับตัวดีขึ้นในอนาคต
พร้อมร่วมพิจารณาและเห็นชอบ กรอบข้อเสนอโครงการส่งเสริมและพัฒนาการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้านการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ ปี 2565 – 66 ที่เชื่อมโยงพัฒนาศักยภาพและยกระดับด่านศุลกากรชายแดน ไทย-มาเลเซีย ทั้ง 9 ด่าน แบบบริการเบ็ดเสร็จ และนำระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์มาใช้เต็มระบบ มุ่งสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเชื่อมต่อไปยังเกษตรฐานรากของประชาชนที่เป็นรูปธรรม
ที่ประชุมได้เห็นชอบ ขับเคลื่อนกิจกรรมโคบาลชายแดนใต้ ขยายฐานการผลิตโคในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยมีวิสาหกิจชุมชนครบวงจร ตั้งเป้าหมายโคไทยในหมู่บ้าน 1,000 แห่ง เกษตรกร 10,000 ราย ครอบคลุม 5 จว. (เฉลี่ยจว.ละ 200 หมู่บ้าน ) ภายใน 5 ปี (2565-69) เพื่อยกระดับรายได้กับเศรษฐกิจฐานราก รองรับการกำหนดพื้นที่ จังหวัดชายแดนใต้ เป็น “ระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล”
รวมทั้งเห็นชอบ แนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวหาดใหญ่ ระยะ 6 ปี (65-70) ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด – 19 ที่หน่วยงานภาคธุรกิจ ภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษาและภาคประชาชนร่วมกันจัดทำ ที่ให้ความสำคัญ การฟื้นฟูและส่งเสริมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการบริการ การส่งเสริมการค้าการลงทุนในพื้นที่ รวมทั้งผลักดันเมืองหาดใหญ่สู่เมืองอัจฉริยะ ที่มุ่งใช้พลังคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนยกระดับพัฒนาเมือง โดยส่งเสริมความร่วมมือทุกภาคส่วน
พล.อ.ประวิตร กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ผนึกกำลังร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจและพัฒนาเบตง เป็นที่รู้จักระดับโลก พร้อมกำชับ ขอให้รับฟังและวิเคราะห์ความต้องการประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันเร่งผลักดันโครงการต่างๆให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะให้เร่งลงไปช่วยแก้ปัญหาและช่วยเหลือด้านการลดภาระค่าครองชีพ การมีงานทำ และดูแลรายได้และสินค้าเกษตรในพื้นที่ รวมทั้งเร่งดำเนินการนำเรือประมงออกนอกระบบให้เสร็จ ภายใน เดือนก.ค.
ขณะเดียวกัน ขอให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญ การเปิดโอกาสให้เด็กเยาวชนเข้าถึงการเรียนรู้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะการส่งเสริมทักษะการใช้ภาษาไทย ควบคู่กับภาษามลายูท้องถิ่นใต้ รวมทั้งการดูแลด้านสุขสภาวะของเด็กปฐมวัย ที่มีปัญหาโภชนาการ ส่งผลร่างกายมีภาวะผอมเตี้ยไม่สมบูรณ์ และให้โอกาสเด็กเยาวชนได้ทำกิจกรรมร่วมกันมากขึ้น
พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า กพต.เสมือน ครม.ภาคใต้ โดยตนจะลงประชุมในพื้นที่มากขึ้น และ ขอให้ กพต. โดยเฉพาะรัฐมนตรีและหัวหน้าส่วนราชการ ที่เป็นกรรมการให้ความสำคัญเข้าประชุมด้วยตนเอง เพื่อร่วมแก้ตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานโดยเร็ว
บ่ายวันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร จะร่วมหารือกับกลุ่มภาคธุรกิจ เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และพบปะผู้นำทุกศาสนาและประชาชนในพื้นที่