เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย จากพรรคเพื่อไทย มีประวัติ อย่างไร มีบุตรกี่คน
ประวัติ เศรษฐา ทวีสิน
เศรษฐา ทวีสิน เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2506 เป็นบุตรคนเดียวของ ร.อ.อำนวย ทวีสิน กับ คุณชดช้อย จูตระกูล การศึกษาในระดับประถม เศรษฐาศึกษาที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร จากนั้นไปศึกษาต่อที่สหรัฐในระดับไฮสกูล และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแมสสาชูเซ็ตส์ (University of Massachusetts) ปริญญาโทในสาขาบริหารธุรกิจด้านการเงินจาก บัณฑิตวิทยาลัยแคลมอนต์ (Claremont Graduate School) ของสหรัฐ
หลังเรียนจบในปี พ.ศ. 2529 เศรษฐากลับมาทำงานที่ประเทศไทยในบริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (Procter & Gamble) บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่เคลื่อนไหวเร็ว (FMCG) ในเวลานั้น P&G เพิ่งย้ายฐานการผลิตเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งเขาเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดคนแรก ก่อนที่จะไปทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ร่วมกับอภิชาติ จูตระกูล ผู้เป็นญาติในชื่อ บริษัท แสนสำราญ จำกัด (ชื่อเดิมของแสนสิริ) ในปี พ.ศ. 2533
เศรษฐาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่ง แสนสิริได้เติบโตขึ้นเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เศรษฐายังเป็นผู้ผลักดันให้แสนสิริพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม
เศรษฐาเป็นบุคคลที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เศรษฐายังเป็นบุคคลที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองสูง มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างประเทศไทยที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน
เมื่อต้นเดือนเมษายน 2566 เขาได้ประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งของแสนสิริ พร้อมโอนหุ้นทั้งหมดกว่า 661,002,734 หุ้น ให้แก่ นางสาวชนัญดา ทวีสิน ผู้เป็นบุตรสาว โดยเสน่หาไม่มีค่าตอบแทน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจเตรียมพร้อมทำงานการเมืองในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย
ประวัติด้านชีวิตครอบครัว
ภรรยาของนายเศรษฐา คือ พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน แพทย์ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง และลูกๆ โดยสรุปว่า แม้พ่อแม่ลูกอยู่คนละเมือง แต่ไม่รู้สึกห่างกัน เพราะเดินทางไปพบบ่อยๆ
ส่วนบุตรของนายเศรษฐา ประกอบด้วย
- ณภัทร (น้อบ) จบการศึกษาด้าน ปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ (Philosophy-Politics-Economics หรือ PPE) University of Oxford และปริญญาโทบริหารธุรกิจ (MBA) Harvard Business school
- วรัตม์ (แน้บ) จบการศึกษาปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ (Economics) และปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตร์ (Public Administration) จาก Stanford University
- ชนัญดา (นุ้บ) จบปริญญาตรีด้านประสาทวิทยาศาสตร์ (Neuroscience) ที่ Barnard college Columbia University นิวยอร์ก และปริญญาโท สังคมสงเคราะห์ (Social work) ที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน
การเข้าสู่การเมือง
เศรษฐาเปิดเผยว่าเขาไม่ได้มีความฝันที่จะก้าวเข้าสู่การเมืองมาก่อน แต่สิ่งที่เริ่มจุดประกายให้เขาสนใจการเมืองมากขึ้นคือนับตั้งแต่การรัฐประหาร 2 ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเศรษฐาเห็นว่าการยึดอำนาจเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและรับไม่ได้ บวกกับปัญหาสังคม เศรษฐกิจ การเมืองที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในช่วง 8-9 ปีหลังมานี้ รวมถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่สะท้อนให้เห็นว่าและความเหลื่อมล้ำ ความไม่เสมอภาค ความไม่เท่าเทียมเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทย เศรษฐาเห็นว่ารัฐบาลปัจจุบันไม่สามารถทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความเสมอภาค มีความเท่าเทียม และมีสิทธิเสรีภาพในการเลือกได้ ตนจึงตัดสินใจเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพรรคเพื่อไทยเพราะเชื่อว่าเพื่อไทยยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง
เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เศรษฐาสมัครเป็นสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย และในเดือนมีนาคม 2566 นั่งตำแหน่งประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยให้กับแพทองธาร ชินวัตร ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2566 พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อคุณเศรษฐาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพร้อมกับอีกสองท่าน ได้แก่ แพทองธาร ชินวัตร และชัยเกษม นิติสิริ
เศรษฐาพูดเสมอว่า “ผมไม่ได้อยากเป็นนายกรัฐมนตรีเพราะอยากมีตำแหน่งว่าเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย แต่ต้องการเป็นนายกรัฐมนตรีที่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง”
เศรษฐา ทวีสิน ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เขาได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 และได้รับการประกาศให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย
- เสียง สว.ทะลุเป้า! “เศรษฐา” เตรียมเป็นนายกคนที่ 30 อย่างไม่เป็นทางการ
- เศรษฐา ทวีสิน กับพอร์ตหุ้น-ทรัพย์สินที่รวยมโหฬาร ก่อนเข้าสู่สนามการเมืองเต็มตัว