ประวัติ อดีตพระยันตระ เคยต้องคดีฉาว ลี้ภัยอเมริกา ล่าสุดกลับไทยฉลองวันเกิด 72 ปี

Home » ประวัติ อดีตพระยันตระ เคยต้องคดีฉาว ลี้ภัยอเมริกา ล่าสุดกลับไทยฉลองวันเกิด 72 ปี

ประวัติ อดีตพระยันตระ เคยต้องคดีฉาว ลี้ภัยอเมริกา ล่าสุดกลับไทยฉลองวันเกิด 72 ปี ลูกศิษย์แห่รอรับ 

วันนี้ (20 ต.ค.66) นายชัยณรงค์ สวัสดีนฤนาท อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า อดีตพระยันตระ หรือ นายวินัย ละอองสุวรรณ ได้เดินทางมาที่บ้านเกิด อ.ปากพนัง ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.66 หลังกลับเมืองไทยฉลองวันเกิดครบ 72 ปี ที่เมืองกาญจนบุรี ในวันที่ 14 ต.ค.66 โดยได้มาพักอยู่ที่บ้านญาติ ออกพบปะชาวบ้านในตลาดปากพนังทุกวัน และได้เดินทางกลับเมืองกาญจนบุรีเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (20 ต.ค.66)

ช่วงก่อนเที่ยงวันที่ 19 ต.ค.66 อดีตพระยันตระและคณะได้มาทานอาหารที่ร้านบ้านชายคลองร้านของตน ซึ่งทุกปีของเดือนตุลาคม ท่านจะเดินทางกลับมาจัดงานวันเกิดที่ จ.กาญจนบุรี แล้วเดินทางมายัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช บ้านเกิด เข้านมัสการพระบรมเจดีย์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และพบปะชาวบ้านที่ยังเคารพศรัทธามาโดยตลอด ทุกครั้งที่ท่านกลับมายังปากพนังจะมีชาวบ้านมาให้การต้อนรับจำนวนนับ 100 คน

โดยขณะที่มาทานอาหารที่ร้านบ้านชายคลอง อดีตพระยันตระได้พูดพบปะกับชาวบ้านที่มาต้อนรับในทำนองคล้ายกับพระเทศนา บอกกับชาวบ้านว่าให้ทำตนเป็นคนดี ให้รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ จะทำให้สังคมน่าอยู่ เมื่อเราให้ เขาก็จะให้ตอบ การพูดพูดแต่สิ่งที่ดี หากพูดไม่ดีจะไม่มีใครคบหา คือ “พูดดีเป็นศรีแก่ปาก พูดมากปากจะมีสี” ก่อนอดีตพระยันตระจะหัวเราะออกมา ส่วนกำหนดการณ์กลับอเมริกานั้น จะออกเดินทางจากไทยในวันที่ 1 พ.ย. 66 นี้ 

ภาพล่าสุดที่ปากพนัง 2566

อดีตพระยันตระ หรือ นายวินัย ละอองสุวรรณ เกิดวันที่ 14 ตุลาคม 2494 เคยอุปสมบทที่วัดรัตนาราม อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2517 แทนตัวเองว่า พระยันตระ แปลว่า ผู้ไกลจากกิเลส ต่อมาถูกเปิดเผยว่า มีพฤติกรรมล่อลวงหญิงสาวและมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงบนดาดฟ้าเรือเดินสมุทร ระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะกับนางจันทิมา หญิงรายหนึ่งที่ถึงขั้นพาเด็กหญิงมาแสดงตัว อ้างว่าเป็นลูกของเธอกับยันตระ และหลักฐานอื่นๆ เช่นภาพถ่ายการใช้ชีวิตร่วมกันฉันสามีภรรยา สุดท้ายท้าให้ตรวจดีเอ็นเอ 

ต่อมามีการเปิดเผยสลิปบัตรเครดิตที่มีญาติโยมบริจาคให้ และถูกนำไปใช้ในสถานบริการทางเพศที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์  

ในที่สุดเกิดการฟ้องร้องเป็นคดีความหลายข้อหา เมื่อปี 2537 จนในที่สุดมหาเถรสมาคมมีมติให้พ้นจากความเป็นภิกษุ แต่อดีตพระยันตระไม่ยอมรับมติดังกล่าว พร้อมปฏิญาณตนว่ายังมีสถานะเป็นภิกษุอยู่ โดยเปลี่ยนจีวรเป็นสีเขียว เวลานั้นมีการเรียกอดีตพระยันตระว่า “จิ้งเขียว” ก่อนที่จะมีข่าวว่าออกจากประเทศไทยไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและได้รับสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง

และ 20 ปีต่อมา อดีตพระยันตระ กลับมาปรากฏตัวที่ไทยอีกครั้ง เมื่อคดีหมดอายุความ เมื่อเดือนเมษายนปี 2557

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ